
"ลีซอ"ช่วยยิง 3-0 กิเลนขึ้นรองฝูง
"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ฉลองนัดที่ 100 ในลีกสูงสุดเปิดรังเล่นดาร์บี้แมทช์เมืองชลสอย โลมา พัทยา ยูไนเต็ด 2-0 นำโด่งในตำแหน่งจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีกต่อไป ขณะที่ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ประเดิมสังกัดใหม่แบบหรูยิง 1 ประตูพา "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ถล่ม "ฮ
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม ยังเป็นการดวลแข้งนัดที่ 18 ของฤดูกาล ที่สนามสิรินธร เป็นเกมดาร์บี้แมทช์เมืองชล ท่ามกลางแฟนบอลเต็มความจุ เริ่มเกมไปแค่ 20 วินาที มารุยามา โยชิอากิ กองหลังญี่ปุ่นของเจ้าถิ่นขึ้นโหม่งกับ รังสันติ์ รูปเหมาะ กองหน้าทีมเยือนแต่จังหวะลงของกองหลังฉลามชลไม่ดีนิ้วนางข้างซ้ายหักต้องเปลี่ยนเอา เกียรติประวุฒิ สายแวว ลงไปแทน ต่อจากนั้น ชลบุรี ได้เฮก่อนจากบอลยาว อาทิตย์ สุนทรพิธ หลุดเดี่ยวไปกดด้วยซ้ายเสยตาข่ายให้ชลบุรีนำในครึ่งแรก 1-0
ครึ่งหลังเกมยังเดือดพัทยาใช้เกมริมเส้นโจมตีแต่ยังยิงคืนไม่ได้ เกมมาถึงนาทีที่ 79 โคเน โมฮาเหม็ด เกี่ยวบอลเอาชนะ ธีรยุทธ ดวงพิมาย ก่อนลุกขึ้นมายิงสวนทาง นริศ ทวีกุล นายประตูพัทยาบวกสกอร์เป็น 2-0 และเป็นประตูที่ 7 ในรอบ 6 แมทช์ พร้อมนำดาวซัลโวสูงสุดต่อไปด้วยจำนวน 11 ประตู หลังจากนั้นไม่มีการยิงประตูได้อีก จบเกมชลบุรีชนะ 2-0 เก็บ 3 แต้มเต็มฉลองเกมที่ 100 ของทีมในลีกสูงสุดพร้อมนำเป็นจ่าฝูงต่อไปอีกสัปดาห์ด้วยการเก็บไปแล้ว 39 คะแนน
ที่สนามธันเดอร์โดม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ทำศึก "แจ้งวัฒนะดาร์บี้แมทช์" กับ "ฮัลโหล" ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 10 นัดนี้เจ้าถิ่นส่ง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่เพิ่งย้ายมาจากทีมเคลีร์เซในเบลเยียมลงเล่นเป็นนัดแรกท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์เต็มความจุของอัฒจันทร์ทั้งสองฝั่งนับหมื่นคนเลยทีเดียว เกมครึ่งแรกนาที 41 ปิยะชาติ ถามะพันธุ์ เปิดลูกฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวาไปให้ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ โขกเช็ดบอลเข้าเสียบเสาไกลให้เมืองทองฯ ออกนำ 1-0
ครึ่งหลังลงมาเล่นไม่ถึงนาที ซามูโฮโร ยาย่า เปิดบอลให้ ธีรเทพ วิโนทัย วิ่งเข้าวอลเลย์แบบเผาขนตุงตาข่ายทำประตูแรกให้สังกัดใหม่หนีห่าง 2-0 แต่นาที 52 เดนโก้ เซียก้า ของเจ้าถิ่นไปเตะขาหลัง ลันโด้ บราก้า โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ทว่าเมืองทองฯ ที่ตัวน้อยกว่าก็มาได้อีก 1 ประตูในนาที 70 จากจังหวะที่ ธีรเทพ วิโนทัย เปิดจากขวามาให้ ซามูโฮโร ยาย่า กระโดดแปเน้นๆ ไม่เหลือซาก จบเกมเมืองทองฯ ชนะ 3-0 มีเพิ่มเป็น 35 แต้มขยับไปเป็นรองจ่าฝูงแทน บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ตกไปอยู่อันดับ 3
ที่สนามธนารมณ์ "ห้างขายยา" โอสถสภา เอ็ม-150 ทีมอันดับ 4 พบ "เจดีย์ใหญ่" นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 14 ในโซนหล่นชั้น เริ่มเกมมาแค่ 10 นาที อีวาน แมนซาห์ ได้ลูกส้มหล่นหลุดไปซัดเหน่งๆ ให้โอสถสภานำ 1-0 แต่นาที 27 กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายประตูเจ้าถิ่นออกมาใช้มือตัดบอลนอกเขตโทษเลยโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่นครปฐมจะตีเสมอ 1-1 จากลูกโหม่งของ เอเบด ไบรอนเซ ในนาที 45 ครึ่งหลังโอสถสภาที่เล่น 10 คนทำได้ดีกว่านาที 78 ปฏิพน เพชรวิเศษ โขกออกนำ 2-1 อีก 2 นาทีถัดมา เอเบด ไบรอนเซ ของทีมเยือนโดนใบแดงไล่ออกเลยเหลือ 10 คนเท่ากัน และนาที 82 ศรายุทธ ชัยคำดี มายิงฟรีคิกปิดท้ายให้โอสถสภาชนะ 3-1
ที่สนามแพทสเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 5 พบ "ลูกพระเกี้ยว” จุฬา ยูไนเต็ด ทีมบ๊วย เกมนี้ทีมเยือนมาดีเกินคาดสามารถสู้กับเจ้าถิ่นอย่างสนุกก่อนจบครึ่งแรกยัง 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลังนาที 56 ทั้งสองทีมต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ธีระวุฒิ สันพันธ์ ของเจ้าถิ่นกับ วัฒนศัพท์ เจริญศรี ของจุฬาไปเล่นนอกเกมใส่กันเลยโดนใบแดงไล่ออกทั้งคู่ เกมเล่นมานาที 73 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮลั่นเมื่อ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ วางบอลยาวขวางสนามจากด้านขวามาเสาสอง ปิติพงษ์ กุลดิลก วิ่งสอดขึ้นมาอัดซ้ำแค่ 6 หลาเป็นประตูชัยให้การท่าเรือไทย ชนะ 1-0 ทำสถิติเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน