ข่าว

ทวงผืนป่าสวนพนาวัฒน์'ศรีวราห์'เดือด จนท.ไม่ให้เข้า

ทวงผืนป่าสวนพนาวัฒน์'ศรีวราห์'เดือด จนท.ไม่ให้เข้า

11 ส.ค. 2559

รอง ผบ.ตร. เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า เดือด จนท.สวนพนาวัฒน์ ยื้อไม่ให้เข้าก่อนโชว์หมายศาล พบมีการบุกรุกจริง

               เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ส.ค.59 ที่เทศบาลตำบลบ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ปหยัชว์บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.พงสักก์ เชื้อสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าในการปราบปรามผู้บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ ม.12 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่, อุทยานธรรมแก้วกลางดอย เลขที่ 321 อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ สถานปฏิบัติธรมมสวนสุขสบาย ม.13 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
               พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ผอ. กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายในการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น โดยได้มีคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีที่ 324/2558 ลงวันที่ 29 ต.ค.58 กำหนดให้มีการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิด 16 มูลฐานความผิด และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค.2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นั้น

ทวงผืนป่าสวนพนาวัฒน์\'ศรีวราห์\'เดือด จนท.ไม่ให้เข้า                จากการสืบสวน หาข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พบว่าในพื้นที่สถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ เลขที่ 355 ถ.ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ม.12 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ มีการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้เข้าดำเนินการสืบสวน สอบสวน จับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
               จากการตรวจสอบพบว่า สถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ มีเนื้อที่ 478-0-15 ไร่ พบว่า มีเอกสารสิทธิ์เป็น น.ส.3 ก. จำนวน 21 ฉบับ โดยมีผู้ถือสิทธิ์ครอบครอง คือ บริษัทสวนสนบ้านบ่อหลวง จำกัด ตั้งอยู่ลขที่ 44 ซ.ศุภราช ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว มีรั้วกำแพงปิดกั้นมิดชิด และปิดประตูทางเข้า-ออก และมีการปิดกั้นทางน้ำซึ่งเป็นลำรางสาธารณะ และจากการตรวจสอบในทางวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ สำนักงานศาลยุติธรรม ทะเบียนเลขที่ 6/2555 ยืนยันว่า มีการบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย ซึ่งประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อ พ.ศ.2515 จำนวน 26-2-7 ไร่ และบุกรุกป่า 2484 จำนวน 17-0-3 ไร่

ทวงผืนป่าสวนพนาวัฒน์\'ศรีวราห์\'เดือด จนท.ไม่ให้เข้า                โดยการออก น.ส.3 ก. ดังกล่าว ออกใบจอง เมื่อ พ.ศ.2503 ว่ามีการทำประโยชน์เป็น ที่นา ที่สวน แต่จากการแปรภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อ พ.ศ.2497 พบว่าไม่ได้มีการทำประโยชน์ และยังพบว่ามีลำรางสาธารณะ, เส้นทางสาธารณประโยชน์ และบ่อน้ำอยู่ในพื้นที่, มี น.ส.3 ก. จำนวน 4 แปลง ที่ออกทับบ่อน้ำสาธารณะ มีการปิดกั้นเส้นทางน้ำเดิมไม่ให้ไหลสู่พื้นล่าง ซึ่งเป็นการต้องห้ามตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ออกตามความใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ ระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า ผู้ได้รับใบจองดังกล่าว ตั้งแต่ พ.ศ.2503 เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการจัดที่ดินเพื่อประชาชน
               อีกทั้งในพื้นที่บริเวณดังกล่าว มีนายบุญดี จูแวน กับพวกรวม 31 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่ 12 ต.บ้านบ่อพระแวน ต.บ่อหลวง ได้รับความเดือดร้อน ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ต.บ่อหลวง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.59 ว่าสถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ บุกรุกที่ทำกินของชาวบ้าน และยึดครองเขตที่ดิน ซึ่งเป็นหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไปเป็นของตนเอง โดยการสร้างรั้วปิดล้อม ทำให้ไม่สามารถใช้ทางสาธารณะและน้ำจากลำเหมืองได้
               ทั้งนี้ พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54-55, “ร่วมกันทำการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และ “ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือ เผาป่าฯ” ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ม.9 ประกอบ ม.108 ทวิ
               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเข้าตรวจพื้นที่ คณะได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการบุกรุกที่ดินทำกินของชาวบ้าน ก่อนจะเดินทางเข้าตรวจพื้นที่ภายในศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติธรรมขอตรวจสอบหมายศาลในการเข้าตรวจค้นพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเจรจาอยู่เป็นเวลานานประมาณ 5 นาที โดยยืนยันว่าจะให้เพียงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในได้เท่านั้น และให้ลงรายชื่อก่อนเข้าไป
               ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ลงจากรถยนต์มาเจรจาด้วยท่าทีค่อนข้างโมโห เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ ไม่ยินยอมให้คณะเข้าไปด้านใน ก่อนที่จะหยิบหมายศาลแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์อีกครั้ง พร้อมทั้งใช้อำนาจหน้าที่ของผู้บังคับใช้กฏหมายและอำนาจของเจ้าหน้าที่ทหารสั่งให้ทำการเปิดประตู เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์จึงยินยอมเปิดประตูให้เข้าไปภายใน โดยให้เพียงคณะหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปเท่านั้น และห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในอีกด้วย ทั้งนี้ใช้เวลาเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ประมาณ 30 นาที ก่อนจะเดินทางออกมาให้สัมภาษณ์

ทวงผืนป่าสวนพนาวัฒน์\'ศรีวราห์\'เดือด จนท.ไม่ให้เข้า                พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า วันนี้มาดูพื้นที่ของสถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและร้องทุกข์มา ซึ่งมีอยู่ 2 ส่วนที่บุกรุกป่า พ.ศ.2484 กับป่าสงวน 07 โดยจากการตรวจสอบพบความผิดปกติตามที่กรมป่าไม้ได้ร้องทุกข์จริง อีกทั้งพบว่าบริเวณด้านหน้าของสถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ได้บุกรุกเขตป่าสงวนอีก ส่วนที่ทางสถานปฏิบัติธรรมพนาวัฒน์ติดตั้งป้าย รวมถึงเขตพื้นที่ทางหลวง ได้สั่งให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมและส่วนที่จะดำเนินการต่อไปนอกจากส่วนที่บุกรุกแล้ว จะให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ จำนวน 478 ไร่ เท่าที่ดูในเบื้องต้นพบว่าเป็นเขตภูเขาสูง เป็นเขตป่าต้นน้ำ ปกติแล้วจะออกใบจองโฉนดไม่ได้
               จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังทราบต่อมาว่า คนที่มีชื่อในใบจองครั้งแรก พบว่าฐานะไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน เพราะที่ดินตามภูเขา จะออกใบจองได้ เฉพาะผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินเท่านั้น และพบว่าการออกใบจองที่ดินดังกล่าวเป็นไปด้วยความไม่ชอบธรรม และทางสถานปฏิบัติธรรมสวนพนาวัฒน์ก็มาซื้อต่อที่ดินจากคนแรก ซึ่งได้ที่ดินมาด้วยความไม่ชอบธรรม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการเพิกถอนพื้นที่โดยเร็วและดำเนินคดีตามกฎหมาย
               ในส่วนของการบุกรุกพื้นที่ทำกินของชาวบ้านบ่อพระแวนพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ลำเหมืองของพื้นที่ป่าสงวน โดยขั้นตอนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ต้องนำหลักฐานเข้าไปร้องทุกข์กับสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป