ข่าว

สนช.-สปท.ยิ้มรื่นรับคำถามพ่วงคะแนนโหวตนำโด่ง!

สนช.-สปท.ยิ้มรื่นรับคำถามพ่วงคะแนนโหวตนำโด่ง!

07 ส.ค. 2559

สนช. - สปท. ระรื่น หลังคำถามพ่วงนำโด่ง ด้าน“สุรชัย” ชี้ ผลประชามติ สะท้อนความต้องการ ปชช. มั่นใจสถานการณ์ปท.ดีขึ้น เชื่อ คสช.ผ่อนคลายให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมได

          7 ส.ค.59 --  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา 2 ทางสนช.ได้นัดสมาชิกมารวมตัวเพื่อติดตามผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วง โดยมีสมาชิก สนช.ทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่เวลา 15.30 น. นำโดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช. พร้อมด้วยนายกล้านรงค์ จันทิก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ พล.อ.สกลธ์ สัจจานิตย์ นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มาร่วมติดตามผลประชามติด้วย อาทิ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายวันชัย สอนศิริ นายเสรี สุวรรณภานนท์ และ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ โดยหลังจากที่ทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่ทางการว่า มีคะแนนเห็นชอบทิ้งห่างบรรยากาศก็เป็นไปอย่างชื่นมื่น     

           ต่อมา เวลา 18.00 น. นาย สุรชัย ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามผลการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงในขณะนี้ แม้ยังไม่เสร็จสิ้น แต่การนับคะแนนก็ดำเนินการไปได้มากกว่าครึ่ง พบว่า ประชาชนเห็นชอบทั้งร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงมากกว่า ซึ่งสะท้อนความต้องการของประชาชนที่อยากประเทศเดินหน้าตามโรดแมป พร้อมกับการปฏิรูปประเทศให้ต่อเนื่อง ซึ่งผลของประชามติ จะเป็นตัวยืนยันเองว่า ประชาชนไม่ได้เห็นคล้ายตามพรรคการเมืองเสมอไป ทั้งนี้ หากท้ายที่สุดผลอย่างเป็นทางการออกมาแล้วไม่เปลี่ยนแปลงไป จากนี้ก็เป็นภารกิจที่คสช.และสนช.ต้องดูแลบ้านเมืองสนองความต้องการของประชาชนต่อไป ส่วนรัฐบาลในอนาคตก็ต้องสืบทอดภารกิจตามความต้องการของประชาชน เพราะกระบวนการประชามติเป็นกระบวนการมีส่วนร่วมโดยตรงของประชาชน เราต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธผลประชามติครั้งนี้ ขณะที่กรธ.ก็มีหน้าที่จะต้องปรับปรุงเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป      

          “ สถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ น่าจะเรียบร้อย ถ้าทุกคนเคารพกติกาอยากเห็นประเทศเดินตามโรดแมป ขณะเดียวกันเชื่อว่า ต่างประเทศจะให้ความมั่นใจต่อประเทศไทยมากขึ้น เพราะเขาได้เห็นความพยายามในความต้องการการเปลี่ยนผ่านประเทศ“นายสุรชัย กล่าว      

          ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมการเมืองได้แล้วหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า เชื่อว่า จากนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะพิจารณาสถานการณ์เอง และทุกฝ่ายควรหันหน้ามาจับมือกันเพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทย           

          เมื่อถามว่า ส.ว.ตามคำถามพ่วงจะสามารถเลือกนายกฯได้ 2 ครั้งใช่หรือไม่ เพราะ ส.ว.มีเวลา 5 ปี แต่นายกฯมีวาะ 4 ปี นายสุรชัย กล่าวว่า วาระของนายกฯ และส.ว.เป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งส.ว.ตามคำพ่วงสามารถร่วมกับ ส.ส.ในการเลือกนายกฯได้ตลอด 5 ปี แต่ส.ว.ไม่มีอำนาจในการเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯให้รัฐสภาเห็นชอบได้ เพราะการเสนอชื่อนั้น เป็นหน้าที่ของ ส.ส.