
มาแล้ว!! พระวัดธรรมกายรูปที่2เข้าพบดีเอสไอ
"พระสุธรรม" ปฏิบัติหน้าที่แทน "พระทัตตชีโว" เข้าให้ถ้อยคำประเด็นการบริหารงานวัดธรรมกาย อัดดีเอสไออคติ ระบุ ควรสอบสวนคดีให้ครบถ้วนก่อนแจ้งข้อหาเจ้าอาวาส
4 ส.ค. 59 พระสุธรรมญาณวิเทศ (สุธรรม สุธัมโม) ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยนายเอกชัย ฐปนานนท์ ที่ปรึกษากฎหมายของพระสุธรรม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ เพื่อให้ปากคำกรณีที่ดีเอสไอมีหนังสือเรียกเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งวัดพระธรรมกาย การบริหารงานและระเบียบการจ่ายเงินของวัดพระธรรมกาย
พระสุธรรม กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำว่า วันนี้ ( 3 ส.ค.) เป็นการเข้าพบดีเอสไอตามหนังสือเชิญ เพื่อตอบข้อซักถามเรื่องการบริหารงาน การจัดตั้งวัด และระเบียบการจ่ายเงิน ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ควรรวบรวมให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนที่จะมีการกล่าวหาพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม พระสุธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมเอกสารหลักฐานมาประกอบการให้ปากคำ เนื่องจากขณะนี้รับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิชาการด้านพุทธศาสนาในต่างประเทศเป็นหลัก เป็นงานเผยแพร่ศาสนาในฐานะพระธรรมทูต โดยทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่เพราะห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกายจึงเข้าพบเพื่อให้ถ้อยคำ ทั้งนี้ หลังกลับจากต่างประเทศยังไม่มีโอกาสได้เข้าพบกับพระธัมมชโย เนื่องจากพระธัมมชโยยังมีอาการป่วย จึงไม่เข้าเยี่ยมเพื่อไม่ให้ติดเชื้อโรคเพิ่ม
“อาตมาอยากขอร้องสื่อให้ใช้คำเรียกพระวัดธรรมกายที่เหมาะสม การใช้คำว่า 5 เสือเป็นสรรพนามที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากวัดธรรมกายขึ้นตรงกับมหาเถรสมาคม พระธัมมชโยก็เป็นพระชั้นเทพ อย่างไรก็ตาม อาตมายินดีให้ความร่วมมือกับดีเอสไอจึงเดินทางมาให้ถ้อยคำตามนัด” พระสุธรรมกล่าว
ด้านนายเอกชัย กล่าวว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ไม่ใช่การเรียกสอบปากคำในฐานะพยาน แต่เป็นการออกหนังสือเชิญเข้าพบเพื่อให้ถ้อยคำ โดยพระสุธรรมเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการเจ้าอาวาส (พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส) ที่มีอาการป่วยและชราภาพ
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงการออกหมายเรียกพระวัดธรรมกายถึง 6 รูป เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับการบริหาร การจัดตั้งวัด และระเบียบการใช้จ่ายเงิน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในคดีที่มีการกล่าวหาพระธัมมชโยในข้อหาสมคบฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยการเรียกสอบปากคำในประเด็นดังกล่าวควรเกิดขึ้นก่อนการแจ้งข้อกล่าวหากับพระธัมมชโย การที่อัยการสั่งให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติมแสดงว่าสำนวนการสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ หลักฐานไม่พอฟ้อง และเข้าข่ายว่าเป็นการเร่งรัดคดี โดยสั่งฟ้องก่อนสอบสวนเพิ่มเติมในภายหลัง
“ขอตั้งข้อสังเกตว่าพนักงานสอบสวนมีอคติกับวัดธรรมกาย ทำให้การสอบสวนไม่เป็นไปตามหลักสากลออกหมายเรียกพระสงฆ์เข้าให้ปากคำทั้งที่พระสงฆ์มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้ถูกออกหมายเรียก”
นายเอกชัย กล่าวด้วยว่า การไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนของพระมหาบุญชัยก็ไม่มีเจตนาหลบเลี่ยง แต่มีการทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนนัดเพราะยังรวบรวมหลักฐานไม่ครบ เนื่องจากคดียักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 52-56 จึงมีเอกสารเกี่ยวข้องจำนวนมากแต่พนักงานสอบสวนให้เวลารวบรวมเอกสารหลักฐานเพียง 1 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้เรียกพระวัดพระธรรมกายจำนวน 5 รูป มาสอบปากคำ ซึ่งที่ผ่านมาพระถวัลย์ศักดิ์ ยติสักโก รอง ผอ.สำนักพัฒนาทรัพยากร วัดพระธรรมกาย ได้เข้าให้ปากคำกับดีเอสไอ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.