‘ศานิตย์’แถลงจับแก๊งจยย.กระชากสร้อย-ชิงทรัพย์ | คมชัดลึก

 

          เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2559 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. , พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข , พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง , พล.ต.ต.อิทธิพล พิริะยะภิญโญ  รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 , พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม , พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.ทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 3 คดี ในพื้นที่ สน.สายไหม และสน.ทุ่งสองห้อง
                     
          โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายอดุลย์ หรือกุ้ง ทองทำ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/2 ม.10 10 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.อยุธยา พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น PCXสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น PCX สีแดง-ดำ 4ฏฐ6637 กทม. จำนวน 1 คัน , หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ ยี่ห้ออินเด็กซ์สีดำ จำนวน1ใบ , เสื้อยืดคอกลม สีน้ำเงิน(มีหมายเลข9อยู่ด้านหลัง) ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป จับได้ที่ซอยวัดเกาะ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2ส.ค.59  ขณะขับรถจยย.เตรียมจะมาก่อเหตุ
                      
          ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 8 มิ.ย.58 ที่ปากซอยธารา 9 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจยย.ฮอนด้ารุ่น พีซีเอ็กซ์ สีแดง ดำทะเบียน 4ฏฐ 6637 กทม.และมีนายเจิ้น คนซ้อนท้ายที่ยังหลบหนีไปก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทำคำหนัก 2 บาท และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แล้วหลบหนีไป จาการสอบสวนทราบว่า แก๊งนี้ยังเคยก่อเหตุหลายครั้ง คือเมื่อค่ำวันที่ 13 ต.ค.58 ได้ก่อเหตุที่หน้าร้านมินิบิ๊กซี ถนนวัดเกาะแขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.ได้ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.58 เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ซอยทองงอก ถนนวัดเกาะ แขวงคลองถนน เขตสายไหม ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง
                        
          เมื่อค่ำวันที่ 7 ธ.ค. ก่อเหตุที่หน้าหมู่บ้านมารวย ถนนวัดเกาะแขวงคลองถนนเขตสายไหมได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง บ่ายวันที่ 24 ธ.ค.58 ก่อเหตุที่ปากซอยเพิ่มสิน 58 ถนนเพิ่มสิน แขวงสายไหม เขตสายไหม ได้สร้อยคอหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง บ่ายวันที่ 5 มิ.ย.59 ก่อเหตุที่ซอยวัดลุ่ม แขวงคลองถนนเขตสายไหม ได้พระเลี่ยมทองหนัก 2 บาท บ่ายวันที่ 21 มิ.ย. ก่อเหตุที่หน้าโรงเรียนระเบียบศึกษา แขวงคลองถนนเขตสายไหม กทม. ได้สร้อยคอหนัก2บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง บ่ายวันที่ 29 ก.ค.ก่อเหตุซอยวัดลุ่มเขตสายไหม ได้สร้อยคอหนัก 1 บาท หากประชาชนท่านใดสงสัยจะถูกก่อเหตุดูตัวที่ สน.สายไหม 
                          
          นางสาวนกเล็ก บุญแช่ม อายุ 40 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ขับรถจยย. อยู่ภายในซอยเพิ่มสิน20 เพื่อไปรับลูกที่โรงเรียนประเทืองทิพย์ แขวงและเขตสายไหม กทม. ซึ่งขณะขับรถมาถึงวัดลุ่ม ตนสั่งเกตุเห็นมีชายวัยรุ่น 2 คน แต่งกายใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาว และหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขับรถจยย.ตามมาตลอดทาง ตนจึงขับรถจยย.หนี แต่คนร้ายก็ยังขับตามจนสามารถไล่ทัน โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้มือกระตุกสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทไป ทำให้พระหลวงพ่อโสธรปี 2500 ล่วงลงกับพื้น ตนจึงหยุดรถเพื่อเก็บ เป็นจังหวะเดียวกับที่คนร้ายหยุดรถ เพื่อจะกลับมาเอาของมีค่าในกระเป๋าที่ตนถืออยู่ แต่ขณะนั้นชาวบ้านโดยรอบเดินออกมาดูเหตุการณ์หลายคน ทำให้คนร้ายตัดสินใจขับรถหนีไป
               
          คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายกฤษณ์ กล้าหาญ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/2385 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นคายาเต้สีน้ำเงิน ทะเบียน วบธ238 กทม.จำนวน 1 คัน ในข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สาขา รพ.ภูมิพล ถ.พหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.45 น.วันที่ 2 สิงหาคม ผู้เสียหายได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ คายาเต้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน วบธ 238 กทม. มาจอดไว้ที่ลานจอดรถอาคารรับรองทหารอากาศ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ต่อมาได้ทราบว่า รถจยย.ได้หายไป จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.สายไหม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจึงได้ออกติดตาม กระทั้งเวลา 02.00 น.วันที่ 3 สิงหาคม พบคนร้ายขับรถจยย. ลักษณะคล้ายกับรถ จยย.ที่แจ้งหายไว้มาจอดที่บริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สาขา รพ.ภูมิพลฯ จึงทำการตรวจสอบพบว่าเป็นคันเดียวกันจึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ
               
          คดีที่ 3 ของพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้4ราย คือเกรียงศักดิ์ สุขแก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขื้ 13/22 ซอยวัดเกาะ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ,นายธราบดีชัย เธียรปัญญาชัย อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/31 ม.11 ตบำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี ,นายมัฆวัต  พึ่งครุฑ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่104 ซอยวัชรพล 1/1แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. และนายต้น(นามสมติ)อายุ 17 ปี พร้อมข้องกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์-เอ็กซ์ สีแดง-ดำ ทะเบียน 4กฎ8807กทม., รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์-เอ็กซ์ สีแดง-ดำ ทะเบียน 4กฬ9791 กทม. ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร สามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ กทม.
                       
          ทั้งนี้ เนื่องจาก เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ทราบว่าจะมีการซื้อขายรถ จยย.ที่โจรกรรมมาภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จึงวางกำลังเฝ้าซุ่มโป่งสังเกตุการณ์ ต่อมามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นผู้ต้องหาที่กำลังนั่งค่อมรถจยย.ต้องสงสัย จากการตรวจสอบพบว่าจยย.ฮอนด้า รุ่นซุเมอร์เอ็กซ์ สีแดงดำ ทะเบียน4กฎ 8807 กทม. ถูกขโมยมาจากนพเสถียรอพาร์ตเม้นท์ ซอยโกสุมร่วมใจ แขวงสีกัน เขตดอนดมือง กทม.เมื่อวันที่ 1ส.ค.ที่ผ่านมา และฮอนด้าซุเมอร์เอ็กซ์ สีแดงดำทะเบียน 4กฬ 9791 กทม. ถูกขโมยมาจากอนันต์ชัยอพาร์ตเม้นท์ ซอยคลองหลวง 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2ส.ค.ที่ผ่านมา
                 
          พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การจับกุมและการป้องกันเหตุนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินกันอย่างเคร่งครัด แต่ทั้งนี้อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่สวมใส่ของมีค่านั้น ควรใส่ให้มิดชิด เพราะหากคนร้ายเห็นก็อาจจะลงมือก่อเหตุได้ และอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างการด้วย ซึ่งการป้องกันก็ง่ายๆอย่างเช่นการสวมเสื้อ หากใส่เสื้อคอกลมจะง่ายมากต่อการเห็นสร้อยที่คอ ก็แนะนำให้ใส่เสื้อคอปก เสื้อเชิ๊ต เพื่อปิดบังของมีค่าคนร้ายจะได้ไม่เห็น

 

‘ศานิตย์’ ระบุคดี ‘หญิงไก่’ ย้ายตร.ประชาชื่น พ้นพื้นที่แล้ว 3 นาย

 

          พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวถึงคดีความของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้ขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มในข้อหาค้ามนุษย์ จำนวน 2 คดีความ ซึ่งเป็นคดีความต่างกรรมต่างวาระกัน ส่วนพฤติการณ์นั้น นางมณตา ได้ล่อลวงเด็กสาวชาวลาว มาทำงานโดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ส่วนรายละเอียดนั้นขอไม่พูดถึง เพราะเป็นเรื่องในสำนวน ส่วนการสอบสวนพนักงานสอบสวนจำนวน 18 นาย ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในคดีความของนางมณตา นั้น ขณะนี้ได้ย้ายพนักงานสอบสวนจำนวน 3 นาย ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ที่ สน.ประชาชื่น ให้ไปทำงานที่ สน.เตาปูน เพื่อความสบายใจ และความโปร่งใสแก่ทุกฝ่าย