
อาลัย น้องพอใจ นกแอร์เลิกส่งสัตว์เลี้ยง
พาที ระบุ นกแอร์ขออภัย เสียใจสูญเสีย น้องพอใจ ชดใช้ตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก จะไม่รับสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ความคืบหน้าหลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก Itsares Khumdee โพสต์ภาพและข้อความ เมื่อเวลา 19.57 น. วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ขอเรียกร้องความยุติธรรมให้ น้องพอใจ ระบุ
" เนื่องด้วยวันที่ 12 ก.ค. 2559 เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ผมได้ส่ง น้องพอใจ ย้ายบ้านให้กับพ่อแม่ใหม่ที่จังหวัดตรัง ส่งโดยคาร์โก้ของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD7410 โดยพอไปถึงสนามบินทางเจ้าหน้าที่ก็ให้เปลี่ยนบล็อคใส่น้องหมาที่ผมเตรียมมาโดยแจ้งว่ามีขนาดเล็กเกินไป ผมก็ได้เปลี่ยนบล็อคตามที่พนักงานแจ้งในราคา 1,300 บาท และเสียค่าส่งทางเครื่องบินราคา 860 บาท โดยเครื่องบินจะเดินทางไปตรังเวลา 16.00 น. แต่กฎต้องนำสัตว์เลี้ยงมาก่อน 2 ชั่วโมง ซึ่งผมได้ถามกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า น้องหมาช่วงรอขึ้นเครื่องจะอยู่ห้องแอร์ตลอดเลยใช่ไหม พนักงานแจ้งว่าอยู่ห้องแอร์ตลอด ผมก็วางใจ และผมก็เดินทางกลับมาที่พัก และแจ้งให้กับพ่อแม่ใหม่ น้องพอใจ ทราบว่าส่งน้องแล้ว และให้มารอรับที่สนามบิน จ.ตรัง เวลา 17.20 น.
แต่เมื่อถึงเวลาผมก็ได้รับข่าวร้ายว่า น้องพอใจ ตาย โดยพ่อแม่ใหม่ที่มารับ น้องพอใจ ได้แจ้งว่าสภาพน้องมีอาการตัวแข็งเกร็ง ตาไม่หลับ เหงือกซีด และอุจจาระแตกเรี่ยราด ผมได้ยินข่าวถึงกลับขาทรุดไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องหมาที่ผมรัก เพราะก่อนส่งขึ้นเครื่องน้องยังวิ่งเล่นแข็งแรงสดใสอยู่เลย ตอนนั้นผมยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลคิดแต่โทษตัวเองที่ไม่น่าส่งน้องไปตาย แต่พอมีสติก็ได้โทรไปถามทางคาร์โก้นกแอร์ ทางเจ้าหน้าที่หัวหน้าคาร์โก้ชื่อ อมร ก็ได้บอกว่าไม่ทราบสาเหตุจะตรวจกล้องวงจรปิดให้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเสียใจหนักกว่าเดิมคือ ทางเจ้าหน้าคาร์โก้นกแอร์ที่ตรังได้แจ้งกับพ่อแม่ใหม่ที่มารับ น้องพอใจ ว่า น้องพอใจ ตายก่อนขึ้นเครื่องแล้วเพื่อปัดความรับผิดชอบและทำให้ผมเกิดความเสียหายเหมือนส่งน้องหมาที่ตายไปให้ โชคดีที่ผมอัพรูปในเฟซบุ๊กตั้งแต่ก่อนส่งและส่งแล้วให้พ่อแม่ใหม่ของน้องพอใจดูตลอด รวมถึงยังมีหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สนามบินอีกด้วย
พอตั้งสติได้ สิ่งแรกที่ผมทำคือการโอนเงินค่านมทั้งหมดคืนให้กับพ่อแม่ใหม่ น้องพอใจ จำนวนเงิน 16,000 บาท เพื่อแสดงความรับผิดชอบของผมและกล่าวขอโทษจากใจจริง ซึ่งทางพ่อแม่ใหม่ น้องพอใจ ก็เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และยังแสดงความเป็นห่วงผมว่าแล้วทางสายการบินนกแอร์จะช่วยเหลือหรือรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้อย่างไรบ้าง ผมก็ได้แต่บอกว่ายังไม่รู้จริงๆ ว่าเค้าจะทำอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาให้ทางสายการบินนกแอร์ได้ช่วยเหลือหรือเยียวยาจิตใจเพื่อแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง และอีก 3 วัน เจ้าหน้าที่หัวหน้าคาร์โก้ที่ชื่อ อมร ก็ได้นัดผมไปดูกล้องวงจรปิดที่สนามบิน ซึ่งพอไปถึงผมก็ได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดเวลาทั้งหมด และได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า น้องพอใจ สุขภาพแข็งแรงร่าเริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับทราบเพราะเห็นจากกล้องวงจรปิด แต่ที่ผมตกใจคือ น้องพอใจ อยู่ในห้องแอร์ที่เตรียมไว้ไม่ถึง 15 นาที ที่เหลืออยู่ข้างนอกห้องที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเทและไม่มีแม้แต่พัดลม ซึ่งไม่ตรงกับที่พนักงานแจ้งผมไว้ตอนที่ส่ง น้องพอใจ ว่าอยู่ห้องแอร์ตลอด ซึ่งพนักงานบอกว่าเป็นขั้นตอนของการส่ง แต่นี่คือสิ่งมีชีวิตไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะเอาไปตั้งวางตรงไหนก็ได้โดยเฉพาะกับลูกสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้วูลลี่ที่มีขนที่หนาและขี้ร้อนมากอยู่แล้ว
และวันนั้นทางหัวหน้าคาร์โก้ก็ได้ให้ผมส่งเมลเขียนร้องเรียนความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับเค้าโดยจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน ถึงจะรู้ผล โดยภายใน 14 วันที่ผ่านมา ผมได้แต่เก็บความเสียใจไว้คนเดียวและหวังว่าทางคาร์โก้สายการบินนกแอร์จะชดเชยหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ไม่มากก็น้อย เพราะส่วนหนึ่งผมก็เป็นลูกค้าของสายการบินนกแอร์มาโดยตลอดและโปรโมทว่าเป็นสายการบินของคนไทย ผมได้แต่หวังว่าเค้าคงจะคิดถึงใจเค้าใจเราบ้างว่าแค่น้องหมาตายก็เสียใจมากอยู่แล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกมากมายในการมาส่งอีกเพราะวันนั้นผมต้องขับรถจากเพชรบูรณ์เพื่อมาส่ง น้องพอใจ ที่ดอนเมือง และนี่คือน้องหมาคอกแรกของผมที่ผมทำคลอดเองกับมือและเลี้ยงด้วยความรักทุกตัว ที่สำคัญนี่คือการส่งน้องหมาครั้งแรกของผมทางเครื่องบินอีกด้วยครับ และวันนี้ทางคาร์โก้สายการบินนกแอร์ได้แจ้งมาทางเมลของผมว่า " ทางสายการบินไม่ชดใช้และรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น " ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องพอใจครับ
*** ข้อสงสัยในการตายของ น้องพอใจ ระหว่างการขนส่งทางเครื่องบินนกแอร์
1. เกิดอาการเพลียและอ่อนหล้าจากการที่ต้องอยู่ในห้องหลังคาร์โก้ที่อากาศไม่ถ่ายเท ไม่มีแอร์และพัดลม รวมถึงไปอยู่ลานตึกด้านนอกของสนามบินซึ่งมีความร้อนไปรอก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
2. ตอนที่อยู่ใต้เครื่อง ได้เปิดปรับแรงกดอากาศและมีอากาศที่เพียงพอที่น้องหมาจะหายใจได้หรือไม่ เพราะสภาพการตายของ น้องพอใจ เหมือนเจอแรงกดอากาศทุรนทุรายจากการขาดอากาศหายใจ
#สุดท้ายนี้พ่ออยากบอกว่าพ่อขอโทษที่ส่งหนูไปถ้าย้อนกลับได้พ่อจะไม่ส่งหนูไปไหนหรือไม่พ่อก็จะขับรถไปส่งหนูพอใจด้วยตัวเอง ตอนนี้พ่อทำบุญให้หนูไปแล้วหวังว่าหนูจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะลูก.... " ซึ่งกลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างกว้างขวาง ที่สงสารและขอให้ น้องพอใจ ได้หลับให้สบาย รวมทั้งตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าควรต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่อย่างไร
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (2 ส.ค. 59) เฟซบุ๊ก Patee Sarasin ได้โพสต์ข้อความ ระบุ
" ทางนกแอร์ต้องขออภัยและเสียใจในการสูญเสียของ น้องพอใจ และจะชดใช้ตามความเหมาะสมนะครับ และเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเราจะไม่รับสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป ขอบคุณครับ "



