ทำนาสมัยใหม่ | คมชัดลึก

            การเกษตรในปัจจุบันเป็นยุคของการใช้ความรู้เพื่อให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้นทุนต่ำลง ได้ผลผลิตดี เป็นที่ต้องการของเกษตรกร ดังนั้นหากจะผลิตแบบเดิมๆ ทั้งที่ความจริงแล้วความรู้ทางการเกษตรมีอยู่มากมาย ทั้งในส่วนที่ได้มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและความรู้ใหม่ที่ได้มาจากการวิจัย เมื่อก่อนนี้กว่าจะได้ความรู้มาใช้ต้องเสาะหากันอย่างมากมาย บางครั้งได้ข้อมูลก็มีผิดๆ ถูกๆ จนกระทั่งเกษตรกรต้องนำมาทดสอบเองเพื่อให้แน่ใจว่าใช้ได้ผล แต่ว่าปัจจุบันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

 

การเพาะกล้าในถาด

          ตัวอย่างของความรู้เหล่านี้ที่มีประโยชน์มากคือ ระบบฐานข้อมูลข้าวทั้งระบบ หรือที่เรียกว่า “ระบบเฝ้าข้าวเพื่อความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจ” และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Rice Watch ฐานข้อมูลนี้พัฒนาโดย รศ.ดร.​อัศนีย์ ก่อตระกูล และ นายวสุเทพ ขุนของ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ ซึ่งมี สวก.​เป็นผู้ดูแล

          งานนี้ทำขึ้นต่อเนื่องมาเป็นระยะที่ 2 แล้ว โดยเป็นระบบที่สามารถใช้ติดตามข้อมูลการตลาด และข้อมูลสนับสนุนการผลิตของชาวนา ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดวันปลูกที่เหมาะสม การวางแผนการปลูก การเลือกพันธุ์ การวิเคราะห์ว่าควรใช้ปุ๋ยอะไรมากน้อยเพียงใดในที่นาของตนเองไปจนถึงราคาของข้าวในตลาด แล้วก็ยังเป็นที่รวมความรู้ต่างๆ ที่ได้จากการวิจัยของหน่วยงานต่างๆ

 

การปลูกข้าวด้วยเทคโนโลยี่ฯ

         สรุปแล้วฐานข้อมูลนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก หากชาวนาสามารถเข้ามาใช้ความรู้เหล่านี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ด้วยข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกร หากตรงนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ก็คิดว่าเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร หรือแม้กระทั่งร้านค้าเคมีเกษตร หากสามารถเข้าใช้ฐานข้อมูลนี้และให้บริการแก่เกษตกรโดยตรง

         ลองเปิดเข้าไปดูตั้งแต่หน้าแรกของเว็บไซต์นี้ก็จะเห็นตัวเลือกต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ธนาคารความรู้ข้าว ซึ่งรวบรวมความรู้ต่างๆ ไว้พร้อมใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพันธุ์ข้าว โรค แมลง ซึ่งสามารถค้นหาได้และมีคำแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่นวิธีการป้องกันกำจัดโรคแมลงที่่สำคัญ

            นอกจากนี้ก็มีส่วนของฐานข้อมูลงานวิจัยซึ่งได้เก็บรายละเอียดของผลงานวิจัยไว้หลายพันเรื่อง เพียงแต่ว่าฐานข้อมูลงานวิจัยเหล่านี้ไม่ได้ใส่รายละเอียดของผลงานแต่ละเรื่องไว้ แต่ต้องไปหาต่อยังแหล่งที่มาหรือแหล่งที่เก็บผลงานเหล่านั้นไว้ แต่อย่างน้อยก็มีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาอย่างละเอียดหรือลึกซึ้งลงไปในแต่ละเรื่อง ยังมีระบบประเมินการใช้ปุ๋ย การกำหนดปฏิทินการปลูก และอื่นๆ เพียงกรอกข้อมูลรายละเอียดของแต่ละพื้นที่เข้าไปก็จะได้คำตอบออกมา เช่น ให้ข้อมูลว่าอยู่ที่จังหวัด อำเภอ ตำบล อะไร ปลูกข้าวพันธุ์อะไร เป็นต้น

 

การเพาะกล้าในถาดเพาะ

          ปัญหาอย่างหนึ่งของระบบฐานข้อมูลเมืองไทยก็คือผู้ที่จะรับผิดชอบต่อเนื่องเพื่อการนำข้อมูลที่ทันสมัยมาเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นในระบบฐานข้อมูลนี้ก็เช่นกัน บางส่วนอาจยังไม่ครบถ้วน เพราะยังขาดผู้ที่ทำหน้าที่ปรับปรุงข้อมูล ต่อไปก็น่าจะทำให้มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

          การเข้าสู่เว็บไซต์ของฐานข้อมูลนี้ สามารถเข้าได้ที่ <http://ricewatch.org/> ซึ่งจะมีรายละเอียดเกือบทุกอย่างที่ชาวนาต้องการใช้ในการผลิตข้าว หรือแม้แต่ผู้ที่สนใจอยากหาความรู้เกี่ยวกับข้าวทั้งหมด ก็สามารถหาได้ที่นี่เช่นกัน

          อนาคตหากมีการพัฒนาฐานข้อมูลของพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ในทำนองนี้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และเชื่อว่าน่าจะทำให้การเกษตรของประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นได้อย่างแน่นอน