
"เม็ดแมงลัก"ลดอ้วน-ลดเสี่ยงโรคหัวใจ!
โดย - นายสวีสอง
“เม็ดแมงลัก” มาจากต้นแมงลัก ซึ่งบ้านเราโดยเฉพาะตามต่างจังหวัด จะมีการปลูกกันมากพอสมควรในโหมดเป็นพืชผักสมุนไพร แต่ยังน้อยกว่ากะเพรา หรือโหระพา ชื่อเรียกตามท้องถิ่น มังลัก (ภาคกลาง) กอมก้อขาว (ภาคเหนือ) ผักอีตู่ (เลย)
เป็นพืชล้มลุก วงศ์ Labiatae ในสกุลโหระพา กะเพรา ชื่อสามัญเดิมเรียกกันว่า hoary basil ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Lemon basil
ต้น ขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-3 ฟุต โคนลำต้นแข็ง แตกกิ่งก้านมาก กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม
ใบ เป็นใบเดี่ยว ลักษณะของใบกลมรี ปลายใบแหลม มีสีเขียวอ่อน มีขนนิ่ม กลิ่นใบหอม
ดอก ออกเป็นช่อ บริเวณปลายกิ่ง ดอกมีลักษณะเป็นกลีบสีขาว คงทน และยาวนาน
ผล เมื่อกลีบดอกร่วง ก็จะเป็นผล ผลมีขนานเล็ก มีสีน้ำตาลเข้ม ภายในมี 4 เมล็ด
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดเต็มวัน
นับเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์สารพัด ด้านสมุนไพร มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนัก บรรเทาเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ แก้อาการท้องผูก ท้องอืด แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้กลากเกลื้อน
วิธีรับประทาน
เม็ดแมงลัก ในปริมาณ 2 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้ว โดยเทเม็ดแมงลักลงไปในแก้วน้ำสะอาดทิ้งไว้จนกว่าเม็ดแมงลักจะฟองเต็มที่ (ประมาณ 15–30 นาที) สามารถดื่มได้ทุกวันก่อนนอน เพื่อให้เม็ดแมงลักลากเศษอาหารที่ตกค้างในลำไส้ออกมา