ข่าว

วัดถ้ำลิเจียอดีตพระยันตระโดนบ้างรุกที่อุทยาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 หัวหน้าชุดพญาเสือสนธิกำลัง อช.เขาแหลม ทหาร-ตร.ตชด.ฝ่ายปกครอง ลุยตรวจสอบบ้านพักอุบาสก อุบาสิกา วัดถ้ำลิเจีย ของอดีตพระยันตระ พบทั้ง 9 หลังรุกที่อุทยานฯ

             เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 26 ก.ค.59 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ ศูนย์ฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ร่วมกับนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส.พ.ต.ท.จุมพล เลขสุนทรากร รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ฐิติยุทธ บรรจงธุรการ สวป.สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 134 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี พร้อมกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบบริเวณวัดลิเจีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เนื่องจากนายชัยวัฒน์ได้รับการร้องเรียนจากผู้หวังดีว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และมีการแบ่งล็อกขายให้กับกลุ่มนายทุน ที่เป็นลูกศิษย์ของวัดดังกล่าว

             จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ของวัดลิเจียได้ขออนุญาตพุทธอุทยาน ดำเนินการทางด้านพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องตามกฎหมายของกรมอุทยานฯ แต่มีพื้นที่จำนวนหนึ่งที่เป็นเชิงเขาติดกับพื้นที่ของวัดลิเจีย มีการจัดพื้นที่แบ่งออกเป็นแปลง รวมทั้งหมด 13 โดยแปลงที่ 1-9 ปลูกเป็นบ้านพักตากอากาศหลังขนาดเล็ก มีทั้งชั้นเดียวและ 2 ชั้น แต่ละหลังปลูกในพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร หากมองจากด้านบนลงมาด้านล่าง จะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามและร่มเย็น เป็นอย่างมาก

             ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันตรวจสอบบ้านแต่ละหลัง พบนางเห่ย เหงียน ถิ อายุ 59 ปี เป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ชาวจังหวัดระยอง อยู่ภายในบ้านพักแบบน็อกดาวน์ของที่ดินแปลงที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงสอบถามถึงที่มาที่ไป ก็ทราบจากนาง เห่ย เหงียน ถิ ว่า บ้านหลังดังกล่าวตนสร้างขึ้นมาในราคา 1.5 แสนบาท และได้ถวายให้กับเจ้าอาวาสวัดลิเจียไปแล้ว ส่วนตนพักอยู่บ้านที่อยู่ติดกัน โดยสร้างในราคาประมาณ 3 แสนบาท สำหรับบ้านหลังที่ตนถวายให้กับเจ้าอาวาสนั้น เจ้าอาวาสมีไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ที่มานั่งวิปัสสนาได้นอนหลับพักผ่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกพื้นที่

             ก่อนที่จะสร้างบ้านพักนั้น ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเป็นการรุกที่ดินของกรมอุทยานฯ เนื่องจากเจ้าอาวาสบอกกับลูกศิษย์ทุกคนว่า สามารถสร้างบ้านพักได้เลยเพราะที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของวัดเอง ดังนั้นลูกศิษย์จึงสร้างบ้านพักขึ้นมา จุดประสงค์ก็เพียงแค่มีไว้สำหรับพักผ่อน เมื่อยามที่เดินทางมานั่งวิปัสสนาที่วัดลิเจียเท่านั้น จากนั้นนายชัยวัฒน์ จึงเชิญตัวนางเห่ย เหงียน ถิ ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

จากนั้นนายชัยวัฒน์ พร้อมด้วย นายเทวินทร์ มีทรัพย์ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินสำรวจบ้านพักหลังอื่นๆที่เหลืออยู่ พบสองแม่ลูกที่อายุมากแล้ว อยู่ในชุดขาวนั่งเล่นอยู่บนบ้านพักชั้นที่ 2 เมื่อสองแม่ลูกเห็นคณะเจ้าหน้าที่ต่างแสดงอาการตกใจเล็กน้อย และได้มีการพูดคุยกันด้วยดี โดยนายชัยวัฒน์ ได้อธิบายความให้สองแม่ลูกได้รับฟังจนเข้าใจ และได้เชิญตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรีเช่นเดียวกัน

             ล่าสุดคณะของนายชัยวัฒน์ ได้เดินตรวจสอบบ้านพักแล้วเสร็จทั้ง 9 หลัง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพิกัดดาวเทียว ว่าพื้นที่ของบ้านพักอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหรือไม่ สำหรับที่ดินแปลงที่ 10-13 เดิมทีเป็นไร่ส้ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจวัดค่าพิกัดจากดาวเทียวเช่นกัน ทั้งนี้ยังไม่มีการตั้งห้อหากับใครแต่อย่างใด

             เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสำนักสงฆ์อีก 2 แห่งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับวัดลิเจีย เบื้องต้นพบอุปกรณ์เลื่อยโซ่ยนต์และเลื่อยวงเดือนจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ชนิดดังกล่าวนั้นถูกกฎหมายหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นบ้านพักทั้ง 9 หลัง และแปลงไร่ส้ม 3 แปลง รุกที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมอย่างแน่นอน ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำอุบาสกอุบาสิกาทั้ง 3 คน ที่พบต่อไป

             สำหรับวัดถ้ำลิเจีย เป็นวัดที่เคยมีชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยเป็นวัดของอดีตพระยันตระ อีกทั้งเมือหลายปีก่อน ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ อดีต สส.จังหวัดราชบุรี เคยนำทีมงานมาขุดหาขุมทองโบริ ภายในถ้ำลิเจียมาแล้ว และล่าสุดอดีตพระยันตระบ้านทางกลับบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ก็มีกระแสข่าวว่าจะเดินทางมาพักที่นี่ไม่กลับประเทศสหรัฐอเมริกาอีก 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ