เก็บ"หนอนหลน"ขายโลละพัน! เดือนเดียวเงินสะพัดกว่า2ล้าน! | คมชัดลึก

           ชาวประมง ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หัวใสเก็บหนอนหลนขาย กก.ละพัน มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เดือนเดียวเงินสะพัดในพื้นที่กว่า 2 ล้านบาท
           เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศครื้มฟ้าครื้มฝน ทำให้ผีเสื้อกลางคืนฟักไข่เป็นตัวหนอนตามป่าชายเลนเป็นจำนวนมากหรือชาวบ้าน จ.สุราษฎร์ธานีเรียกว่า”หนอนหลน” ซึ่งชาวบ้านเรียกตามสภาพที่เห็นคือตัวหนอนที่หล่นออกมาจากต้นตาตุ่ม ซึ่งเป็นต้นไม้ในป่าชายเลน โดยภาคใต้คำว่าหล่นจะออกเสียงว่า”หลน”ในอดีตหนอนหลนเป็นอาหารชั้นเลิศของชาวบ้าน อ.กาญจนดิษฐ์ มาเป็นเวลานานร่วม 100 ปี และขาดหายไปยาวนานหลายปีเนื่องจากระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลงเพราะถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์
           ทว่า มาปีนี้หลังจากที่ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี )ได้กวดขัน ทวงคืนผืนป่าจากที่บุกรุกกลับคืนมาและปรับระบบนิเวศน์ให้สมดุลทำให้ช่วงเดือนนี้หนอนหลนจำนวนมากที่กินใบตาตุ่มกลายเป็นดักแด้ ก่อนจะฟักตัวเป็นผีเสื้อ ซึ่งช่วงที่เป็นดักแด้นี้หนอนหลนจะม้วนตัวนิ่งอยู่ในใบตาตุ่ม ชาวบ้านอาศัยช่วงนี้นี้ออกเก็บหาหนอนหลนขายกิโลกรัมละ 1,000 บาท บางครอบครัวมีรายได้จากการเก็บหนอนหลนสัปดาห์เดียว 20,000 – 30,000 บาท (2หมื่นถึง3หมื่นบาท) มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ หากนำไปคั่วเกลือหรือผัดน้ำมันขายจะได้ราคาเพิ่มอีกเกือบ 2 เท่าตัว
           ทำให้บริเวณป่าชายเลน ม.2 บ้านท่าโพธิ์ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ มีชาวบ้านจำนวนมากขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดตามริมป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่กว้างประมาณ 2 พันไร่เพื่อลงไปเก็บหนอนหลนเป็นรายได้ เนื่องจากช่วงนี้ชาวบ้านที่ทำการประมงออกทะเลไม่ได้มีคลื่นลมแรงหันมาเก็บหนอนหลนขาย
           นางเมตตา สุขสม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านท่าโพธิ์ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับหนอนหลนชาวบ้านใน อ.กาญจนดิษฐ์ รู้จักและกินกันมานานเป็น 100 ปีแล้ว แต่ระยะหลังระบบนิเวศน์ถูกทำลายทำให้หายไปนานหลายปี เพิ่งจะมาปีนี้ที่มีหนอนหลนจำนวนมาก ชาวบ้านแห่ไปเก็บขาย
           นายสุทิน โอชุม อายุ 53 ปี กับนางนฤมล โอชุม 50 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.2 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีลูก 2 คนคนโตเป็นทหารเกณฑ์ คนเล็กยังเรียนหนังสือ เริ่มหาหนอนหลนมาร่วม 1 สัปดาห์เต็มแล้วมีรายได้ 2 คนวันละ ประมาณ 5,000 – 6,000 บาท โดยเก็บหนอนหลนสดๆได้วันละไม่ต่ำกว่า 5-6 กิโลกรัม ตลอด 1 สัปดาห์มีรายได้กว่า 50,000 บาทแล้ว ซึ่งช่วงนี้หนอนหลนเริ่มฟักเป็นผีเสื้อกลางคืนแล้ว เริ่มหมดเก็บได้น้อยลงคิดว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์คงต้องไปหารายได้อย่างอื่นเสริมอีก
          ขณะที่นายวิชัย สมรูป ผอ.ส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี )ผู้ซึ่งได้ทำวิจัยเกี่ยวกับวงจรชีวิตของหนอนหลน กล่าวว่า หนอนหลนคือผีเสื้อที่ฟักไข่ตัวละหลายร้อยฟองจากนั้นเป็นตัวหนอน แล้วกลายเป็นดักแด้ ระยะดักแด้หนอนจะนอนนิ่ง ก่อนที่จะเป็นผีเสื้อกลางคืน ช่วงที่เป็นดักแด้จะม้วนตัวอยู่ในใบตาตุ่มนานประมาณ 1 สัปดาห์ ช่วงนี้ชาวบ้านจะเก็บใบตาตุ่มนี้คลี่หาหนอนนำไปขายหรือประกอบอาหาร ขายได้ราคาดีมาก
          "หากเป็นตัวสีเข้มขึ้นราคาจะลดหลั่นกันไป โดยจากการทำวิจัยเกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารตามหลักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่าในตัวหนอนหลนน้ำหนักสด 100 กรัมมีโปรตีนสูงถึง 19.5 กรัมใกล้เคียงกับเนื้อหมู เนื้อไก่และเนื้อวัว มีไขมันต่ำเพียง 5.5 กรัม พลังงาน 126 กิโลแคลลอรี่ ที่สำคัญมีสารเพิ่มสมรรภาพทางเพศชายอีกด้วยซึ่งวิธีการทำกินชาวบ้านนำไปคั่วเกลือหรือผัดน้ำมันรสชาดจะมัน ๆ เค็ม ๆ อร่อยคล้ายๆกับการกินตัวต่อหรือกินดักแด้จากตัวไหม"
          โดยพื้นที่หลักๆ คือป่าชายเลนที่สมบูรณ์ซึ่งพบในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ที่ยังมีป่าชายเลนกว่า 5,000 ไร่ โดยมีหนอนหลนในพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ ทั้งนี้ อยากจะย้ำเตือนชาวบ้านที่ไปหาหนอนหลนเมื่อเห็นว่าหนอนหลนมีราคาดีพบว่ามีการตัดกิ่งต้นตาตุ่มที่หนอนหลนเกาะอยู่ไปฟักต่อที่บ้าน เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่รุนแรงมีความผิด ขอให้เก็บแต่หนอนหลนตามวิถีชีวิตดั้งเดิมเท่านั้นเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ให้สมดุลมากที่สุด