อุบลฯสุดเศร้า!พญาเทียนวัดผาสุการามหักเกี่ยวสายไฟ | คมชัดลึก

           เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ก.ค.59 กองอำนวยการประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าประจำขบวนวัดผาสุการามว่า เกิดอุบัติเหตุขบวนเทียนพรรษาเกี่ยวสายไฟที่ห้อยต่ำลงมาจนหัก บริเวณเชิงสะพาน เสรีประชาธิปไตย ถนนอุปราช ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จนพญาเทียนหักลงมาได้รับความเสียหาย 

           ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณเชิงสะพานพบ ขบวนเทียนวัดผาสุกรามและคณะนางรำจอดอยู่ข้างทาง บนสะพานพบต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่(พญาเทียน)นอนล้มอยู่บนฟุตบาธ ปลายเทียนมีร่องรอยถูกสายไฟเกี่ยว 2 รอย ลำต้นเทียนได้รับความเสียหายกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มชาวชุมชนวัดผาสุกาที่ร่วมขบวนแห่ ต่างพากันเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคาดหวังว่าต้นเทียนของต้นจะได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ประจำปีนี้ด้วย เพราะต้นเทียนวัดผาสุการามได้ความรางวัลชนะเลิศ กิจกรรมเยือนชุมชนคนทำเทียนไปครองแล้ว 1 รางวัล ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวขึ้น ทางช่างทำเทียนของวัดต่างเร่งนำรถเครนมายกต้นเทียนขึ้นและรีบแก้ไข เพื่อให้สามารถร่วมโชว์ได้ในขบวนแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราธานี ประจำปี 2559 ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) 

           ด้านเจ้าหน้าที่ประจำต้นเทียนรายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางด้านขวัญกำลังใจของชาวชุมชนยังคงดีอยู่ เพราะเราได้รางวัลมาแล้ว 1 รางวัลชนะเลิศกิจกรรมเยือนชุมชนตนทำเทียน ไม่ได้ทำให้กำลังใจเราเสียแต่กับทำให้เราอยู่เคียงคู่กันจนกว่าต้นเทียนกลับมาสวยงามเหมือนเดิม 
 

นครราชสีมาเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชาเหงาเหตุฝนตก

            เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นที่วัดป่าสาลวัน ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ทางวัดต้องนำเต็นท์ผ้าใบมากางไว้รอบอุโบสถ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน สามารถเดินเวียนเทียนรอบอุโบสถได้โดยที่ไม่ต้องเปียกฝน แต่เนื่องจากฝนที่ตกได้ส่งผลให้การเดินทางออกจากบ้านเรือนของประชาชน เป็นไปค่อยข้างที่จะลำบาก ทำให้บรรยากาศการออกมาบูชาธูป เทียน และดอกไม้ที่ทางวัดจัดไว้ให้ เพื่อเวียนเทียนรอบอุโบสถไม่ค่อยคึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าหากฝนหยุดตกประชาชนก็จะออกมาเดินเวียนเทียนกันอย่างต่อเนื่อง อย่างแน่นอน
 

ปทุมธานีเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธโสธรวัดโบสถ์

           เมื่อเวลา 18.30 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นำข้าราชการพร้อมประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา จำนวน 1,000 คน เดินเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธโสธร ในวันวันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญคือเป็นวันที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาคือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแก่ปัญจวัคคีย์ โดยพุทธศาสนิกชนจะเวียนเทียนกันเพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่มณฑปร่วมใจพระพุทธโสธร วัดโบสถ์ ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

           โดยก่อนประกอบพิธีเวียนเทียน พระราชวรเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ นำสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบท อิติปิโส ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวด สวากขาโต และระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวด สุปะฏิปันโน จนเวียนครบ 3 โดยพุทธศาสนิกชนที่มาจะเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธโสธร ซึ่งเป็นองค์พระปฏิมาขนาดฐานกว้าง 24 เมตร หน้าตักกว้าง 16 เมตร สูง 37 เมตร ประชาชนสามารถเดินเวียนเทียนได้ 2 ชั้น

           ทั้งนี้วัดโบสถ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมาจาก เมืองหงสาวดี เดิมเป็นวัดเก่าโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อเหลือ ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง ของเมืองปทุมธานี บริเวณรอบวัดมีทิวทัศน์ที่สวยงาม สถานที่ตั้งของวัดโบสถ์อยู่บริเวณคุ้งน้ำท้องมังกรของแม่น้ำเจ้าพระยา มีรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ปางเทศนาธรรมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 28 เมตร

           ด้านพระราชวรเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ กล่าวว่า วันอาสาฬหบูชา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรก จึงถือได้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาแก่ชาวโลก และด้วยการที่พระพุทธเจ้าทรงสามารถ แสดง เปิดเผย ทำให้แจ้ง แก่ชาวโลก ซึ่งพระธรรมที่ตรัสรู้ได้ จึงถือได้ว่าพระองค์ได้ทรงกลายเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ คือทรงสำเร็จภารกิจแห่งการเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็น สัมมาสัมพุทธะ คือเป็นพระพุทธเจ้าผู้สามารถแสดงสิ่งที่ตรัสรู้ให้ผู้อื่นรู้ตามได้