
"โคทม” เสนอแนวทางทำร่างรธน. "ฉบับฉันทามติ" แทนฉบับลงประชามติ
“โคทม” เสนอแนวทางทำรธน. ฉบับฉันทามติ แทนร่างรธน.ฉบับลงประชามติ หากปชช. ไม่เห็นชอบ เชื่อ “ประยุทธ์” ไม่เขียนร่างรธน.ใหม่เอง เพราะไร้ความชอบธรรม
12 ก.ค.59 นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์เครือเนชั่น ต่อกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงประเด็นการทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยตนเอง หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชน ว่า ตนไม่ติดใจในประเด็นที่นายกฯ กล่าว เพราะเข้าใจว่า เป็นการพูดทีเล่นทีจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากประเด็นดังกล่าวเป็นความจริง เชื่อว่ากระบวนการออกร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 โดย พล.อ.ประยุทธ์ นั้นจะไม่ได้รับความชอบธรรมและไม่ได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าวตนมองว่าอาจกระทบต่อแผนตามโร้ดแม็พของรัฐบาล ที่ประกาศให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2560 อย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวตนมีข้อเสนอคือ หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ไม่ผ่านความเห็นชอบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรพิจารณาเลือกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 หรือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาปรับปรุง หรือแก้ไขเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเพื่อให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ จากนั้นให้ใช้บังคับรัฐธรรมนูญฉบับที่เลือกและแก้ไขนั้น เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือประมาณ 1 สมัยของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม เช่น การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับฉันทามติ
นายโคทม กล่าวด้วยว่า สำหรับบรรยากาศก่อนการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค. นี้ ตนมองว่าไม่มีความคึกคัก หรือ เรียกได้ว่ามีความซบเซาอย่างมาก ซึ่งหากปล่อยให้มีบรรยากาศเหมือนปัจจุบันต่อไป อาจจะกระทบต่อเป้าหมายของผู้ที่จะออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ตั้งเป้าหมายไว้ได้ ดังนั้นทางที่จะช่วยฟื้นฟูบรรยากาศระหว่างการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้ดี คือ กกต. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกาศให้ชัดเจนต่อการใช้สิทธิแสดงความเห็นของประชาชน ตามมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่ระบุให้เสรีภาพแก่บุคคลในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยสุจริต และไม่ขัดต่อกฎหมาย ว่าสามารถทำได้ตามขอบข่ายของกฎหมาย ไม่ใช่เน้นแต่การปราบปราบ หรือจับกุม ผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเท่านั้น



