นปช.รวมตัวคึกคัก เปิดหอประชุมรำลึก "อภิวันท์" | คมชัดลึก

 

          วันที่ 9 ก.ค. 59 - กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จัดกิจกรรมเปิดหอประชุม "พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย" อย่างเป็นทางการ ที่ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. และมวลชนคนเสื้อแดงหลายร้อยคนเดินทางร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โดยเฉพาะแกนนำนปช.ได้พร้อมใจกันใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำ มีข้อความ "สร้างประชาธิปไตย ด้วยปลายปากกา 7 สิงหา.. ประชาชนจงเจริญ" ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยแต่ละพื้นที่การจัดงานเป็นระยะ ส่วนพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดมาร่วมงานครั้งนี้ ได้แจ้งว่าป่วยไม่สามารถมาร่วมงานได้ 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดกิจกรรมเปิดหอประชุม "พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย" กลุ่มนปช.ต้องการใช้รำลึกถึงพ.อ.ดร.อภิวันท์ และเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ส่วนลักษณะภายห้องนั้นเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ มีป้ายชื่อพ.อ.ดร.อภิวันท์ เป็นภาษาอังกฤษ "Apiwan Wiriachai" พร้อมภาพขาวดำพ.อ.ดร.อภิวันท์ขนาดครึ่งตัวยืนถือไมค์อยู่ โดยก่อนการเปิดงานมีการจัดเวทีคอนเสริตเพลงลูกทุ่ง โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงเข้ามาร่วมชมการแสดงคนเสริ์ตจนแน่นหอประชุม และมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีพีชทีวีตลอดการจัดงาน จากนั้นเวลา 15.00 น. แกนนำนปช.ได้ร่วมกันตัดริบบิ้นเพื่อเปิดใช้หอประชุม"พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย" อย่างเป็นทางการ และแกนนำนปช.ทั้งหมดได้เดินเข้ามาภายในห้องประชุม โดยมีการเปิดเทปการปราศรัยและชีวะประวัติของพ.อ.ดร.อภิวันท์ พร้อมทั้งได้เปิดเพลงชื่อ "ด้วยความอาลัย" และเพลง "อภิวันท์ วิริยะชัย" คำร้องโดยนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ มีเนื้อหาชื่นชมการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพ.อ.ดร.อภิวันท์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมอบภาพเขียนพ.อ.ดร.อภิวันท์ มอบให้กับนางรัชนี วิริยะชัย ภรรยาพ.อ.ดร.อภิวันท์ เป็นที่ระลึก
           นายจตุพร กล่าวบนเวทีว่า ท้ายที่สุดก็สิ้นสุดการรอคอย เพราะสถานที่แห่งนี้จะใช้กิจกรรมเชิงประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการ ตนมีความผูกพันธุ์กับพ.อ.ดร.อภิวันท์กว่า 25 ปี ตั้งแต่วัยเด็กถึงกระบวนการต่อสู้เดียวกัน โดยสิ่งหนึ่งที่เสมอต้นเสมอปลายอะไรที่ผิดพ.อ.ดร.อภิวันท์ไม่มีทางเห็นด้วย ถ้าวันนี้พ.อ.ดร.อภิวันท์ยังอยู่ พ.อ.ดร.อภิวันท์ก็ยังสู้กับเราไม่เปลี่ยนแปลง แม้พ.อ.ดร.อภิวันท์ไม่อยู่ชื่อแต่พ.อ.ดร.อภิวันท์ยังอยู่ และเป็นแบบอย่างให้นายทหารทุกรุ่นว่า ถ้าอยากเข้าสู่การเมืองต้องถอดเครื่องแบบออกมา ที่ผ่านมาหากพ.อ.ดร.อภิวันท์คิดจะเป็นพล.อ.อยู่เฉยๆก็ได้แล้ว แต่เมื่อพล.อ.ชวลิตเข้าเส้นทางการเมือง พ.อ.ดร.อภิวันท์ก็ถอดเครื่องแบบเช่นเดียวกัน ดังนั้นความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่มีชีวิตเป็นท่านคนนั้น ท่านคนนี้ แต่วันตายของพ.อ.ดร.อภิวันท์เป็นปรากฏการณ์ที่มีคนมากที่สุดจากหัวใจประชาชน 
          "พวกผมเห็นว่าเป้าหมายปลายทางคือประชาธิปไตย ห้องประชุมพ.อ.ดร.อภิวันท์ จะเป็นเส้นทางหนึ่งพาประเทศไทยเข้าสู่ประชาธิปไตยให้ได้ โดยคนที่จะได้รับการยกย่องคือคนที่ยืนเคียงข้างฝ่ายประชาธิปไตย เรายังมีห้องลุงนวมทอง ไพรวัลย์ หรือห้องนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพญี่ปุ่นที่เสียชีวิต วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุข และขอขอบคุณภรรยาพ.อ.ดร.อภิวันท์ด้วย ไม่ว่าไปไหนพี่แดงไปหมดอยู่ร่วมกับทุกคนมาตลอด เวลาที่ผ่านไป 1 ปี 9 เดือนที่พ.อ.ดร.อภิวันท์เสียชีวิต ทุกคนก็ช่วยกันสร้างห้องประชุมนี้ขึ้นมา วันนี้จึงเป็นวันเปิดห้องประชุม ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้ว่าเป็นวันเปิดห้องประชุมจริงๆ และไม่มายุ่งเกี่ยว" นายจตุพร กล่าว 

          นางรัชนี กล่าวพร้อมน้ำตาว่า ขอขอบคุณที่คนที่รำลึกถึงพ.อ.ดร.อภิวันท์ ที่ทำงานเพื่อประชาธิปไตยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ และร่วมกันสร้างห้องนี้ขึ้นมาเป็นอนุสรณ์เพื่อคอยรำลึกถึงตามแนวทางประชาธิปไตยที่พ.อ.ดร.อภิวันท์ได้ทำมา จึงหวังว่าจะใช้ห้องนี้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป พ.อ.ดร.อภิวันท์ไม่เคยจากพวกเราไปไหน พ.อ.ดร.อภิวันท์ยังอยู่ในหัวใจเรา ขอขอบคุณทุกคนที่จะช่วยสานประชาธิปไตยของพวกเราต่อไป

            ด้านนายวีระกานต์ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกยินดีในวันนี้ เพราะตนยังได้เห็นว่าคนไทยยังไม่ลืมชื่อพ.อ.ดร.อภิวันท์ ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะทุ่มเทชีวิตและจิตใจเพื่อรำลึกถึงพ.อ.ดร.อภิวันท์ ที่สำคัญพ.อ.ดร.อภิวันท์ เป็นคนที่ได้ทำความดี มีความอาจหาญ มีความรู้สึกว่าประชาธิปไตยที่พ.อ.ดร.อภิวันท์ได้ทำไว้ เป็นการปลูกฝั่งระบบประชาธิปไตย โดยใช้หน่อซึ่งเป็นรากแก้วลงในพื้นดิน จึงหวังว่าจะไม่มีใครมาทำลายหน่อประชาธิปไตยนี้ไปได้ เราต้องการวีรบุรุษที่ตายทับทมกันให้มากกว่านี้ ตายโดยไม่มีการเรียกร้อง จึงหวังว่าประชาชนที่มาร่วมกันในวันนี้จะได้รำลึกตลอดเวลาว่าชีวิตของพ.อ.ดร.อภิวันท์ จะเป็นวีรบุรุษที่ตายทับทมกันลงไปเช่นเดียวกับในอดีต กี่ศพก็ยังไม่มากพอ แม้ไม่มีการต่อสู้ทางอาวุธ แต่หวังว่าเราจะตายทับทมกันเพราะความแก่เถ้าเช่นตน เพราะตนไม่มีเสียงที่จะพูดกับท่านทั้งหลายให้ร่วมกันสร้างประชาธิปไตยอีกแล้ว แต่ตนจะเปล่งเสียงจนนาทีสุดท้ายในชีวิต 
            "ผมขอทำหน้าที่เป็นเจ้าของเวทีแห่งนี้ โดยการอุทิศเวทีเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประชาชนทั้งชาติ ทุ่มเทชีวิตส่งกายทับถมลงไป จนกว่าหน่อประชาธิปไตยจะเติบโตจนไม่มีใครโค่นล้มทำลายได้อีกต่อไป" นายวีระกานต์ กล่าว
            ขณะที่นางธิดา กล่าวว่า เรามีสถานีโทรทัศน์พีชทีวี แต่มีความพยายามจะปิดสถานีนี้ให้ได้ เรามีห้องสมุด ห้องกาแฟ ห้องประชุมในนามพ.อ.ดร.อภิวันท์ ซึ่งเหล่านี้อาจจะดูเล็กถ้าเทียบกับคนที่ใช้งบประมาณรัฐบาลทำสิ่งใหญ่ เรามีแค่นี้ถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว ทั้งนี้ ที่เราได้ทำหอประชุมนี้ขึ้นมาเพราะความยิ่งใหญ่ของพ.อ.ดร.อภิวันท์ แต่อยากส่งสารไปยังทหารว่าประชาชนก็รักทหาร แต่ต้องเป็นทหารแบบพ.อ.ดร.อภิวันท์ ซึ่งเป็นทหารเพื่อประชาธิปไตย 
            ส่วนนายยงยุทธ กล่าวว่า ในช่วงที่พ.อ.ดร.อภิวันท์ได้ลี้ภัยไปที่ประเทศฟิลิปินส์ และพ.อ.ดร.อภิวันท์ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองด้วย ท้ายที่สุดพ.อ.ดร.อภิวันท์ก็เสียชีวิต แต่ร่างของพ.อ.ดร.อภิวันท์ได้ยืนยันว่าพ.อ.ดร.อภิวันท์ยังอยู่และพร้อมสู้กับประชาชนตลอดไป ซึ่งคณะนปช.ได้จัดประชุมเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตเพื่อประชาธิปไตย ตนก็เชื่อว่าเรายังรำลึกถึงคนเหล่านี้ เพื่อสร้างสถาปนาประชาธิปไตย ให้กลายมาเป็นห้องประชุม และจะพูดแต่เรื่องประชาธิปไตยและอำนาจของประชาชนเท่านั้น 

          นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ กล่าวว่า พ.อ.ดร.อภิวันท์ถ้าจะเติบโตทางอาชีพทหารคงได้เป็นพลเอกแน่ๆ แต่การเป็นพลเอกจะต้องมุ่งมั่นเรื่องความมั่นคงของประเทศ แต่พ.อ.ดร.อภิวันท์เห็นว่าเพื่อนบ้านไม่ใช่ศัตรู แต่ศัตรูของประเทศคือความยากจน ความล้าหลัง พ.อ.ดร.อภิวันท์จึงถอดดาวบนบ่าออกและลงสมัครเลือกตั้ง โดยให้ประชาชนตัดสินว่าพ.อ.ดร.อภิวันท์พร้อมเป็นผู้แทนประชาชนหรือไม่ และพ.อ.ดร.อภิวันท์ก็ได้รับการคัดเลือกเป็นส.ส. จนถึงได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ทั้งนี้ ตัวเองคิดว่าศัตรูของความยากจนคือเผด็จการ 

          นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้นปช.จัดกิจกรรมที่ดี และตนใกล้ชิดกับพ.อ.ดร.อภิวันท์เป็นเวลานานมากตั้งแต่พรรคความหวังใหม่ และร่วมต่อสู้ทางการเมือง โดยยกแรกเป็นการต่อสู้กับเผด็จการช่วงพฤษภาทมิฬ และร่วมงานกับ พ.อ.ดร.อภิวันท์ มาเรื่อยๆในเรื่องการเลือกตั้ง และได้ปรึกษากันบ่อยๆ พ.อ.ดร.อภิวันท์เป็นคนกล้าคิด กล้าพูด ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย วันนี้จึงเป็นการรำลึกถึงผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เชื่อว่าภารกิจนี้อยู่กับพวกเราอีกนาน ยิ่งเรานำชื่อผู้ที่มีเกียรติมาเป็นหอประชุม เพื่อคอยนึกถึงผู้มีอุดมการณ์ และอยู่กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ถ้าพ.อ.ดร.อภิวันท์ยังอยู่จะนึกถึงวันที่ 7 ส.ค.อย่างไร จะนึกถึงบ้านเมืองอย่างไร เพราะเวลานี้มีคนจำนวนไม่น้อยถูกทำให้เข้าใจผิดว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่าน คสช.จะไปเร็วๆ และเลือกพรรคการเมืองได้รัฐบาลเป็นสมใจ 
              "มีคนบอกผมว่าจะเลือกท่านแน่ ผมก็บอกเลือกได้แต่ไม่ได้ผมกลับมาหรอก กตต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ต้องไปตรวจดูว่ามีการบิดเบือนผิด แต่เลือกตั้งแล้วคสช.ยังมีอำนาจทุกอย่าง แถมเข้มเเข็งขึ้น ประเด็นสำคัญจึงอยู่ตรงนี้ที่ทำให้เข้าใจผิด ก็จะมีคนจะไปสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้นเราต้องทำให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยให้ได้" นายจาตุรนต์ กล่าว.