"จี้“ประชาสัมพันธ์ร่างรธน.  | คมชัดลึก

         9 ก.ค.59 - นายราเมศ  รัตนะเชวง รองโฆษกและฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดส่งเอกสารสรุปย่อสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ แจกจ่ายตามครัวเรือนให้ประชารับทราบว่า เข้าใจว่าเอกสารดังกล่าวจะเริ่มทยอยแจกให้กับผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงประชามติ ตามครัวเรือนต่าง ๆ แต่เสียงสะท้อนสังคมพบว่ายังไม่ทั่วถึงการทำหน้าที่ชี้แจงของกกต.คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ตนถือว่าไม่ให้ผ่านเพราะล่าสุดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งให้ทุกอำเภอจัดพิมพ์ สำเนาร่างรัฐธรรมนูญ แจกจ่ายให้ทุกหมู่บ้าน ๆ ละ 300 ชุด 

         นายราเมศ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลกกต.และกรธ. เร่งทำความเข้าใจในสาระสำคัญ ของร่างรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ประชาชนจะใช้ข้อมูลในการตัดสินใจลงประชามติ ว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนี้  ซึ่งภาครัฐควรใช้สื่อ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลให้ดีที่สุด ส่วนกรณีความเห็นต่างในข้อดี ข้อด้อยของร่างรัฐธรรมนูญ อย่าวินิจฉัยตามคำพูดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  หรือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.  แต่ขอให้ยึดหลักกฎหมาย ว่าข้อมูลนั้นมีความเห็นต่าง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง 

         ทั้งนี้หากมีการบิดเบือนก็ให้ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย หากเป็นความเห็นต่าง ก็สามารถใช้เป็นข้อมูล ประกอบการพิจารณา ทั้งนี้เห็นด้วยที่นายมีชัยจะเปิดเวทีชี้แจงต่อสาธารณชน แต่จะดีที่สุด ขอให้เชิญฝ่ายที่มีความเห็นต่างเข้าร่วมเวทีนี้ด้วย เพราะประชาชนมีสิทธิรู้ มีสิทธิคิด ถ้าไม่มีการมีส่วนร่วม ที่สุดแล้วอาจจะเกิดปัญหาในการยอมรับร่างรัฐธรรมนูญนี้

          “สำหรับตนยืนยันจะไปใช้สิทธิลงประชามติแน่นอน แต่จะรับหรือไม่รับนั้น ส่วนตัวเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถอยหลังไปมากจากรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงขอเรียกร้องให้คสช. บอกทางเลือกสังคมไทยให้ชัดเจน ว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน ประชาชนหรือประเทศชาติจะเดินไปในทิศทางใด”

          นายราเมศ กล่าวว่า กรณีที่นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภาคอีสาน เข้ามอบตัวรับโทษภายหลัง ศาลฎีกาพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในคดีร่วมทำร้ายร่างกายกลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อุดรธานี โดยศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี  ที่หลบหนีคดีไปก่อนหน้านี้ว่า เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด  ขอให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูนายขวัญชัยเป็นตัวอย่าง เพราะการที่นักการเมืองไม่เคารพกฎหมาย เป็นต้นเหตุสำคัญของความวุ่นวายในประเทศ 

          นายราเมศ กล่าวว่า หรือแม้แต่กรณีการทุจริตในโครงการรับจำข้าว ที่มีการบิดเบือนว่ารัฐบาล คสช. เร่งรัดลงโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาล คสช.ต้องชี้แจงให้รู้ข้อเท็จจริง ว่าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เริ่มในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ให้ตรวจสอบ และคดีก็ดำเนินการตามกฎหมาย โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ตั้งขึ้นมาตั้งปี 2540 และมีนักการเมืองหลายคนถูกตัดสินลงโทษมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนแรก หรือทำคดีในรัฐบาลนี้ ทั้งนี้หากไม่มีการปฏิวัติ คดีก็ต้องดำเนินต่อไป แต่รัฐบาล คสช. ไม่ได้ทำความเข้าใจต่อสังคม จึงเรียกร้องขอให้ชี้แจงต่อสังคมด้วย