ข่าว

โบรกเกอร์สาว-เมีย-ลูก‘บรรยิน’พบกองปราบขอความเป็นธรรม

โบรกเกอร์สาว-เมีย-ลูก‘บรรยิน’พบกองปราบขอความเป็นธรรม

05 ก.ค. 2559

“อุรชา” โบรกเกอร์สาว  “เมีย-ลูกบรรยิน” พบตร.กองปราบฯ วอนขอความเป็นธรรม-อย่าลำเอียง พร้อมสู้พิสูจน์ความจริง

          วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)  น.ส.อุรชา วชิรกุณฑล หรือป้อนข้าว อายุ 26 ปี โบรกเกอร์สาว คนสนิทบรรยิน หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด เสี่ยรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน พร้อมทนายความ และนางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต สส.นครสวรรค์และภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ภายหลังทางตำรวจ บก.ป.พบหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุมตัวได้ที่ ลานจอดรถโรงแรมทอซคาน่า สวีท วัลเลย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รักษาราชการแทน ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวน

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ น.ส.อุรชา นั้น ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง ทางผู้สื่อข่าวหลายแขนงซึ่งเฝ้ารอทำข่าวได้พยายามขอสัมภาษณ์ แต่ทาง น.ส.อุรชา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปพบพนักงานสอบสวนในทันที ขณะที่ นางวราภรณ์ กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา มีแต่สื่อมวลชนกับทางญาติผู้เสียชีวิต เป็นฝ่ายพูดอยู่ข้างเดียว มาปีกว่าๆ ตนจึงอยากขอพูดบ้างในข้อเท็จจริงที่ทุกท่านอาจยังไม่ทราบตั้งแต่ประเด็นแรก ที่บอกว่าเขาสองคนไม่รู้จักกัน ฝากย้อนไปดูตั้งแต่ต้น พ.ต.ท.บรรยิน พูดมาตลอดว่ารู้จักทั้งสองคนนี้

          นางวราภรณ์ กล่าวต่อว่า รู้จักกับ น.ส.อุรชา พร้อมๆ กับคุณชูวงษ์ แล้วเรื่องที่ไปไหนมาไหนกันสองคน จะไปต่างประเทศหรือไปเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ตนมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า พ.ต.ท.บรรยิน กับ น.ส.อุรชา ไม่ได้ไปกันสองคน ตนก็ทราบดี ทุกวันนี้ที่ป้อนข้าวเขาต้องถูกออกจากงานไปทำธุรกิจร่วมกับลูกสาว ลูกชายตน ซึ่งวันนี้ก็ให้กำลังใจ ต้องทำธุรกิจร่วมกัน เด็กสองคนนี้ทั้ง ป้อนข้าว และ กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล(พริตตี้) ก็เหมือนลูกตน เหมือนว่ามีลูกเพิ่มมาอีก

          “อีกเรื่องที่ดิฉันอยากจะพูด ที่ญาติเขาบอกว่าเราไม่เคยขอโทษ เราร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรากล่าวคำขอโทษหลายครั้ง ไปร่วมงานศพคุณชูวงษ์ ทุกวัน ลูกๆ ดิฉันก็ไป ดูแลเพื่อนฝูงที่ไปงาน ดูแลเรื่องหนังสือที่ระลึก ของที่ระลึกในงานศพ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเขาสองคนรักกันมาก ในระหว่างงาน ฝ่ายเขาก็บอกว่าเข้าใจ รู้ว่าสูญเสียเพื่อนที่รัก แต่พอมีเรื่องหุ้น เรื่องเงินขึ้นมา กลับมามโน เรื่องอะไรต่างๆ มากมาย ดิฉันไม่เข้าใจ มันตาลปัตรไปได้ยังไง แล้วทุกวันนี้ที่ดิฉันเสียใจอย่างยิ่ง คือการที่ครอบครัวและญาติต้องเดือดร้อนกับที่มาลงหุ้นกับคุณชูวงษ์” นางวราภรณ์กล่าว

          นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า ที่ญาติเขาบอกว่ารู้ทุกเรื่องของนายชูวงษ์ รู้หรือไม่ว่าเป้าหมาย นายชูวงษ์ อยากจะทำอะไรในอนาคตก็เป็นเรื่องที่พูดกับญาติเขาไม่ได้ เขาทราบหรือไม่ธุรกิจเราไม่ใช่แค่ที่นครสวรรค์ พิษณุโลก แล้วยังเรื่องอื่นๆ อีก ซึ่งปรากฏในสำนวน ตนก็มีหลักฐานพร้อมที่จะให้ดูทุกอย่างยังต้องฟ้องร้องกันที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตนก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นเลย แล้วอีกเรื่องที่ตนอยากจะพูดวันที่จำลองเหตุการณ์ สถานการณ์ที่มันไม่เหมือนกับความจริง ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน แล้ววันนั้นฝนตก กับฝนไม่ตก ที่สำคัญวันนั้นที่จำลองเหตุการณ์น่าจะใช้รถที่ติดแก๊สเช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับรถที่เกิดอุบัติเหตุ น่าจะใช้รถติดแก็สจำลองเหตุการณ์

          นางวราภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งหมดนี้ตนขออย่างเดียว ขอให้ทำทุกเรื่องให้ยุติธรรมเท่าเทียมกัน อย่างลำเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะพวกเราพร้อมที่จะสู้ ลูกๆ เราทั้งหมดก็พร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน เพื่อพิสูจน์ความจริงว่ามันคืออะไร ตนอยากพูดว่า พ.ต.ท.บรรยิน เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ในวันเกิดเหตุตอนเขากลับมาตนก็ยังเสียใจไปด้วย รู้ว่าเขาเสียใจขนาดไหน เรารู้เลยทันทีว่าเขารักกันจริง และเป้าหมายในอนาคตข้างหน้าของนายชูวงษ์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน ก็เป็นความฝันที่เขาจะร่วมกันทำ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ทาง พ.ต.ท.บรรยิน ก็เคยพูดไปแล้ว คิดว่าสื่อมวลชนก็น่าจะทราบดี

          จากนั้น นางวราภรณ์ ได้หยิบภาพในช่วงวันที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน โดยระบุว่า ในภาพจะเห็นชัดเจนว่า พ.ต.ท.บรรยิน ใส่ชุดตีกอล์ฟ และจะเห็นว่าเพื่อนๆ เขาก็อยู่ข้างๆ เป็นภาพที่ปรากฏชัดเจนแล้วก็มีเพื่อนๆ อีกหลายคน ไม่ใช่อยู่กันสองคน แล้วเด็กสองคน ลูกของตนก็ต้องลำบากกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้เราต้องช่วยเหลือดูแลกันมากขึ้น