ข่าว

 “เบงกอล”สายเลือดแมวป่า  เชื่อง-ฉลาด-ไม่ขลาดกลัว

“เบงกอล”สายเลือดแมวป่า เชื่อง-ฉลาด-ไม่ขลาดกลัว

03 ก.ค. 2559

โดย - เม่นแคระ

                 ปัจจุบันแมวพันธุ์เบงกอล (BENGAL) เริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมเลี้ยงในบ้านเรามากขึ้น แต่อาจยังไม่แพร่หลายเหมือนแมวชนิดอื่นๆ เหตุผลหนึ่งที่ยับยั้งการตัดสินใจไม่ให้คนรักแมวบ้านเราหาซื้อมันมาเลี้ยงอาจเพราะราคาที่ค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 1.7 หมื่นบาท-1.7 แสนบาท

                 เหมียว “เบงกอล” เป็นผลจากการทดลองผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างแมวดาว (Asian Leopard Cat) เป็นแมวข้างถนนในอินเดีย กับแมวบ้าน (Domestic Shorthair) เป็นพันธุ์แมวอียิปต์โบราณ (Egyptian Mau) ที่มีโครงสร้างลำตัวเป็นลายจุด คล้ายแมวป่า (wild cat) โดยหญิงสาวชาวอเมริกัน แห่งมลรัฐอริโซนา ซึ่งเธอชื่นชอบหลงใหลในลวดลายจุดเป็นทุนเดิม จึงได้เป็นแมวพันธุ์ใหม่ที่มีความตื่นตัวแคล่วคล่องว่องไวเหมือนแมวป่ายังไงยังงั้น

                จากนั้นเธอจึงใช้เวลานานถึง 20 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 1980 คิดค้นพัฒนาให้เหมียวมีจุด จนสามารถสร้างจุดให้ใหญ่และมีสีที่ตัดกันในจุดมากขึ้น มีลวดลายสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปร่างหน้าตาที่ไม่ต่างจากแมวบ้าน ทว่า หากมองอีกมุมมันก็ดูเหมือนลูกเสือดาวน้อย และตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า เบงกอล ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis bengalensis... ถึงวันนี้มันได้รับความนิยมเลี้ยงมากจากผู้คนในฟากฝั่งอเมริกา และยุโรป

               เป็นแมวขนาดกลางถึงตัวใหญ่ มีกล้ามเนื้อใหญ่ หัวกลม หูกว้างใหญ่และเป็นทรงโค้งไม่แหลม ผิวสีขน มีทั้งแบบจุด แบบลายเสือดาว และเป็นทางขวางเหมือนเสือลายพาดกลอน หรือลายหินอ่อนนัยน์ตากลมโต มีทั้งสีอัลมอนด์ สีฟ้า ฟ้าอมเขียว และมีอายุขัยราว 8-12 ปี

              นิสัยของเหมียว “เบงกอล” ไม่ได้ดุดันแถมยังเชื่องแสนเชื่อง เป็นมิตร น่ารัก คล่องแคล่วปราดเปรียว นุ่มนวลตามธรรมชาติ ที่สำคัญยังคงมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าหลงเหลือให้เห็นบ้างเป็นบางจังหวะ อันเป็นลักษณะเด่นของพวกมัน นั่นคือ ความกล้าหาญ ความมั่นใจในตนเอง ไม่ขลาดกลัว ฉลาดในการเอาตัวรอด ทว่าที่แตกต่างจากแมวอื่นๆ คือ นิสัยที่ชอบเล่นน้ำเป็นกิจวัตร

             สำหรับผู้ที่อยากจะเลี้ยงเหมียวสายพันธุ์นี้ ควรเลือกที่มีโครงสร้างใหญ่ ลำตัวยาว มีลวดลายบนตัวที่เด่นชัด จุดข้างลำตัวต้องเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบในแนวนอน และมีสีอื่นผสม คล้ายๆ กับลายของเสือจากัวร์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากกว่าแมวที่มีจุดสีเดียวตามปกติ

             การเลี้ยงดู เมื่อตัดสินใจซื้อมาแล้ว ควรใส่ใจ ดูแลมันอย่างใกล้ชิด วิธีการเลี้ยงไม่ยาก เหมือนกับแมวทั่วๆ ไป เพราะครึ่งหนึ่งของมันก็มีกำเนิดมาจากแมวบ้านเช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่น ทว่าถ้าหากอยากให้มันสุขภาพดี มีขนที่สวยงาม อาหารสำเร็จรูปจะถูกปากมันมากที่สุด

             เป็นความรู้ครับ! อย่างที่บอกมันยังคงมีสัญชาตญาณแมวป่าอยู่บ้าง โดยเฉพาะชอบกินเนื้อวัวสด (อย่างเดียว) ฉะนั้น ผู้เลี้ยงอาจให้วันละครั้งเพิ่มเติมจากอาหารที่มันกินอยู่เป็นประจำ และเนื้อสดที่ให้ควรระมัดระวังความสะอาดด้วยการแช่แข็งเอาไว้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย

             ส่วนการดูแลความสะอาด ทั้งอาบน้ำ แปรงขน เช็ดหู ตัดเล็บ ฯลฯ เหมือนกับแมวทั่วๆ ไป อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง

            เรื่องสุขภาพ ด้วยมันเป็นแมวที่แข็งแรงจึงไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน แต่คุณผู้เป็นเจ้าของก็อย่าชะล่าใจ ปลีกเวลาพามันไปตรวจเช็กร่างกายกับสัตวแพทย์สักเดือนละหน 

            ทำให้เป็นประจำ อย่างนี้มันก็จะอยู่กับเราไปนานแสนนานครับ!