เสือของกลาง'วัดเสือ'ตาย1ป่วย2 | คมชัดลึก

               นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ติดตามการดูแลเสือโคร่งของกลางจำนวน 147 ตัวที่ขนย้ายจากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี ไปอยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี เป็นเวลาครบ 1 เดือน โดยยอมรับว่าเสือโคร่ง 1 ตัวที่ขนย้ายล็อตแรกในเดือนมกราคม จำนวน 10 ตัว มีอาการป่วย และตายไปแล้ว 1 ตัว ชื่อเมฆเหนือ เป็นตัวผู้ อายุ 5 ปี
               ผลการผ่าชันสูตรซากจากคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อหาสาเหตุการตาย ระบุว่า เกิดจากภาวะเป็นแผลในลำไส้ กระเพาะอาหารอักเสบ ท่อไตอักเสบ ทำให้ติดเชื้อตาย
               ทั้งนี้ ส่วนอีก 2-3 ตัวที่เพิ่งขนย้ายไปช่วงวันที่ 30 พ.ค.-4 มิ.ย. อยู่ในภาวะที่แพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่ยอมกินอาหาร มีภาวะเครียด และน่าจะป่วย ชื่อไททัน และดอกรัก ขณะนี้ได้แยกมาดูแลเป็นพิเศษ และจัดทีมสัตวแพทย์คอยสังเกตอาการ นอกจากนี้พบว่ามีเสือตัวเมียอีก 1 ตัวอายุ 4-5 ปีที่คาดว่าจะตั้งท้องอ่อนๆ 2 เดือน รวมอยู่ด้วย
               อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเสือส่วนใหญ่ที่ขนย้ายมีการปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ มีเพียงส่วนน้อยที่ยังมีภาวะเครียด ส่งเสียงคำรามเมื่อเจอคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ๆ โดยกรมอุทยานฯ เพิ่มการดูและตรวจสุขภาพเสือทุกวัน เก็บปัสสาวะ อุจจาระ พฤติกรรม และการกินอาหาร
               ด้านสัตวแพทย์ ตั้งข้อสังเกตว่า การติดเชื้อไวรัสลำไส้อักเสบในเสือโคร่ง สะท้อนถึงภาวะการดูแลเสือโคร่งจากวัดป่าที่ไม่มีระบบเวชกรรมป้องกัน ไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับเสือ ที่อยู่สภาพแวดล้อมเดียวกับสัตว์อื่นๆ ที่มีกวางป่า หมูป่า ควาย และสัตว์เลี้ยง โดยที่วัดไม่มีสัตวแพทย์ในการดูแลเสือมานานแล้ว เรื่องนี้สามารถตอบคำถามสังคมได้ว่า เสือมีภาวะป่วยและเสี่ยงจากโรคมาก่อนที่กรมอุทยานฯ รับมา