ข่าว

'ตู่'เหน็บ'ประยุทธ์'กลัวแพ้ถึงไล่ปิดศูนย์ปราบโกง

'ตู่'เหน็บ'ประยุทธ์'กลัวแพ้ถึงไล่ปิดศูนย์ปราบโกง

19 มิ.ย. 2559

“จตุพร”เหน็บ“พล.อ.ประยุทธ์”กลัวแพ้ถึงไล่ปิดศูนย์ปราบโกงฯนปช. ระบุ“ประชามติ"ล้มคนที่รับชอบคือ“นายกฯ” ด้าน “ณัฐวุฒิ”จี้แจงเอกสารลับเด็ดหัว“ฮาร์ดคอร์”หมายถึงอะไร

          นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงภายหลังหารือร่วมกับพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 ถึงการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศ ว่า ได้มีการพูดคุยกับตัวแทน น.4 ซึ่งตนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และตนข้อสรุปเหตุการณ์วันนี้ คือ 1.มีการใช้กำลังเข้ามายังศูนย์ปราบโกงฯ 2.มีการยึดป้าย 3.มีการควบคุมตัวก่อนจะมีการเปิดศูนย์ ซึ่งภาพรวมในการเปิดศูนย์ทั่วประเทศของนปช.ในวันนี้ ทั้ง 76 จังหวัด มีการเปิดได้และเปิดไม่ได้ จำนวนไม่ต่างกันมาก ทั้งนี้เรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีการควบคุมตัวประชาชนในต่างจังหวัด ให้ปล่อยตัวผู้ที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ และยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการชุมนุมเกินกว่า 5 คน และไม่ต้องการให้เกิดการกระทบกระทั่ง แต่ยืนยันว่าทุกศูนย์ยังทำหน้าที่อยู่และเดินหน้าต่อไป

          ทั้งนี้ฝากไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ตนกับท่านหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันมาใน 2 ปีนี้ การมีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด จบลงด้วยการตระบัดสัตย์ แม้มีอำนาจมากเพียงใด ยิ่งไม่มีสิทธิตระบัดสัตย์ อย่าใช้ความโมโหมาข่มขู่ความผิดที่ตนเองผิดคำพูดของตนเอง ตนไม่เคยกลัว เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไม่โกงจะกลัวอะไร

          ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า จากการหารือได้ข้อยุติ 3 ข้อ 1.มีการเจรจาตกลงไม่ให้มีการจัดกิจกรรมใดๆที่ศูนย์ปราบโกง ห้างอิมพีเรียล 2.สถานีพีซทีวี ยังออกอากาศตามปกติ ไม่มีการถ่ายทอดกิจกรรมพิเศษ ในการเปิดศูนย์ปราบโกง 3.หากมีการจับกุมพี่น้องในส่วนภูมิภาค หากไม่ได้ทำผิดอะไร ขอให้ปล่อยตัวอย่างไม่มีเงื่อนไข สิ่งที่เกิดขึ้น อธิบายความถึงความไร้สาระของผู้มีอำนาจว่า ประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการทำประชามติ แต่กลับถูกใส่ร้าย จับกุม หากสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการคือป้าย ก็ยินดีจะจัดส่งมอบให้ ทั้งนี้ภารกิจติดตามตรวจสอบยังมีอยู่ จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานแจ้งต่อกกต.ให้ดำเนินการ ภารกิจนี้ไม่ใช่ของเสื้อสีใด หรือฝั่งการเมืองฝั่งใด เพียงแต่เราเห็นว่าเราต้องการเรียกร้องกเสรีภาพให้กับประชาชน ที่จะลงประชามติ หากเรียกร้องได้ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าการเปิดศูนย์ฯ เพื่อต้องการยั่วยุหรือเพื่อให้เกิดความรุนแรงจนกระทั่งมีการลงไม้ลงมือกันนั้น ไม่เป็นความจริง เมื่อมีการมาขอให้ยุติการเปิดศูนย์ฯ เพื่อให้เกิดความสงบเราก็ไม่ได้ดำเนินการต่อ

          นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขอฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และคณะผู้มีอำนาจ ส่วนตัวไม่เคยคิดเป็นปฏิปักษ์ เมื่อท่านรัฐประหารพวกเรายอมรับไม่ได้ รัฐธรรมนูญที่จะใช้บังคับกับคน 70 ล้านคน แต่กลับปล่อยให้เป็นเรื่องของคนกลุ่มเดียวแบบนี้จะเรียกว่าเป็นประชามติไม่ได้ และไม่ทราบว่าที่พล.อ.ประยุทธ์พูดว่าคนพวกนี้จะทำอะไรไม่ได้อีกหลายอย่างนั้น หมายถึงอะไร นอกจากนี้ขอถามประเด็นที่มีการเผยแพร่เอกสารทางโลกโซเชียลซึ่งเป็นเอกสารของกองทัพภาคที่ 3 ที่สั่งการให้ติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีภารกิจปฏิบัติการต่อกลุ่มฮาร์ดคอร์ โดยมีการระบุว่าถ้าขัดขืนให้ดีลีท หรือจับตายได้ ขอฟังจากปากของพล.อ.ประยุทธ์ นิยามคำว่าฮาร์ดคอร์หมายถึงอย่างไร หากเป็นคนที่พยายามจะไปขึงป้ายผ้าอย่างนั้นถือเป็นฮาร์ดคอร์และต้องจับตายหรือไม่ ขอทราบว่าแนวปฏิบัตินี้จริงหรือไม่ หากไม่เป็น ขอทราบแนวปฏิบัติของทหารที่แสดงออกต่อกลุ่มเห็นต่างว่ามีแนวปฏิบัติอย่างไร เพราะถ้ารัฐบาลยังไม่ให้ความชัดเจน เท่ากับประชาชนยังตกอยู่ในอันตรายใช่หรือไม่อย่างไรก็ตามในช่วงทำประชามติ หากเรื่องที่ประชาชนส่งมา เราเห็นว่ามีข้อมูล พยานหลักฐานที่เพียงพอ ก็จะส่งไปให้กกต.พิจารณาดำเนินการต่อไป ภารกิจเราคือปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายถึงจะไปทำหน้าที่ตรวจสอบเหมือนกับกกต.

          เมื่อถามว่าหากประชามติต้องล้มลงไป ใครต้องรับผิดชอบ นายจตุพร กล่าวว่า จากนี้ขอให้ติดตาม เฟซบุ๊ค “ศูนย์ปราบโกงประชามติ” หากมีการล้มประชามติคนที่ต้องรับผิดชอบคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบ เพราะท่านตอนแรกบอกอยากให้มีการทำประชามติ แต่จากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เชื่อว่าประชามติจะไปไม่ถึงวันที่ 7 ส.ค. ผู้มีอำนาจมองศูนย์ปราบโกงประชามติเป็นปัญหา เท่ากับรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว หากปล่อยให้มีการทำประชามติจะเป็นอย่างไร หากคนคิดว่าจะชนะจะไม่แสดงอาการแบบนี้ แบบนี้เรียกว่า กลัวแพ้