เออาร์ 15ไรเฟิลคู่ใจฆาตกรสังหารหมู่

    ไม่น่าประหลาดใจเลยที่ในเหตุการณ์ฆาตรกรรมหมู่ในสหรัฐอเมริกา  ไม่ว่าจะเป็นเหตุกราดเหตุยิงสังหารเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในวันคริสมาสต์อีฟ ในเมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปีที่แล้ว การเลือกเป้าสังหารนักศึกษาในวิทยาลัยชุมชนอัมคัว ในเมืองโรสเบิร์ก รัฐโอเรกอน และ การสังหารหมู่ที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุค ในเมืองนิวทาว์น รัฐคอนเนคติกัต จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ฆาตรกรอำมหิตเลือกใช้ปืนคู่มือคือ โคลท์ เออาร์  15 (Colt AR-15)

   ปืนรุ่นนี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับโคลท์ เอ็ม 16 ปืนเล็กยาวประจำกายทหารอเมริกัน ที่มีประสิทธิภาพการทำลายล้างสูง ยิงได้เร็ว และมีปัญหาน้อย จึงไม่แปลกใจเลยที่โคลท์ เออาร์ 15 นี้จะได้รับความนิยมในกลุ่มชาวอเมริกันนักเล่นปืน ที่โชคดีที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพในการซื้อหาปืน

  แต่ที่สุดแล้ว เสรีภาพนั้นก็ทำให้ชาวอเมริกัันตกอยู่ในความเสี่ยงเสียเอง จากการที่ปืนตกอยู่ในมือฆาตรกรใจโหดใช้ก่อเหตุดังกล่าว

    ปืนโคลท์ เออาร์ 15 จัดอยู่ในกลุ่มปืนจู่โจม ที่ได้รับการดัดแปลงมาจากปืนประจำกายของทหารอเมริกันที่ออกไปรับยังต่างแดน ในสหรัฐอเมริกา ปืนรุ่นนี้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่กระบอกละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ บรรจุกระสุนขนาด 5.56 มิลลิเมตร ในแมกกาซีนมาตรฐานได้ 30 นัด ระยะหวังผลที่ 500 หลา ระบบการยิงเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ แทนที่จะเป็นระบบอัตโนมัติแบบรุ่นพี่เอ็ม 16 โดยเออาร์ 15 จะยิงได้ทีละนัดแต่ผู้ใช้ไม่ต้องขึ้นลำใหม่เพื่อบรรจุกระสุนเท่านั้น 

   ในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว มีประชากรปืนโคลท์ เออาร์ 15 เป็นจำนวนมาก จนยากที่จะเก็บสถิติได้แม่นยำ จึงมีการปรเมินกันจากยอดผลิตออกจำหน่าย เมื่อปี 2537 มีการประมาณว่าประชากรปืนเออาร์ 15 นั้นอยู่ที่ 1.5 ล้านกระบอก ส่วนผู้เก็บสถิติอีกรายประเมินว่าในช่วงปีการผลิตปืนเออาร์  15 ระหว่างปี 2529-2550 นั้น มีปืนรุ่นนี้ในสหรัฐราว 1.7 ล้านกระบอก 

   ส่วนสมาคมปืนยาวแห่งชาติ (เอ็นอาร์เอ) ผู้ที่เป็นแกนหลักในการต่อต้านกฏหมายควบคุมปืน ของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ประเมินว่าประชากรปืนเออาร์ 15 ในสหรัฐมีอยู่ด้วยกันราว 5 ล้านกระบอก 

   ชาวอเมริกันนิยม และ ชื่นชมในภาพลักษณ์ของเออาร์ 15 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพลเรือนของเอ็ม 16 ปืนไรเฟิลทหารที่ผ่านสงครามมาหลายสมรภูมิ ตั้งแต่สงครามเกาหลี สงครามเวียดนามจนถึงปัจจุบัน ทำให้เอ็ม 16 มีความเป็น “ฮีโร” และ “ผู้รับใช้ชาติ” 

    เอ็นอาร์เอยังเปิดเผยด้วยว่าความนิยมในตัวปืนเออาร์ 15 ในเร็วๆนี้นั้นยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับยอดขายปืนชนิดต่างๆในสหรัฐอเมริกา ในช่วงที่สมาคม คัดค้านนโยบายควบคุมปืนของประธานาธิบดีโอบามาอย่างหัวชนฝา ทำให้ชาวอเมริกันต้องรีบซื้อหาปืนก่อนที่กฏหมายนี้จะคลอดออกมา แต่ที่สุดแล้วกฏหมายควบคุมปืนของประธานษธิบดีโอบามา ก็ดูเหมือนจะแท้งตั้งแต่อยู่ในทำเนียบขาว เนื่องจากเผชิญแรงต้านสำคัญจากหลากหลายด้าน

   ส่วนปืนที่นายโอมาร์ มาทีน ใช้ในการก่อเหตุกราดยิงในไนท์คลับ “พัลส์” ในเมืองออร์แลนโด  รัฐฟลอริดา ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าเป็น โคลท์ เออาร์ 15 แต่ตรวจสอบในภายหลังแล้วปรากฏว่าเป็นปืนไรเฟิล ซิก เซาเออร์ เอ็มซีเอ็กซ์