ข่าว

รวบ4โจ๋รุมฟันแทงพลทหารอดีตคู่อริดับ

รวบ4โจ๋รุมฟันแทงพลทหารอดีตคู่อริดับ

16 มิ.ย. 2559

ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 โจ๋รุมฟันแทงพลทหารอดีตคู่อริดับ อ้างแค้นเคยถูกทำร้ายก่อน

           วันที่ 16 มิ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้าย 8 คนเป็นเยาวชน 2 คน แต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ ใช้อาวุธมีดแทงพลทหารศรายุทธ อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณสามแยกไปรษณีย์ ปากซอยสุวินทวงศ์ 14 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. เหตุเกิดวันที่14 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล 3  ตำรวจสืบสวน สน.มีนบุรี  ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 4 รายคือ นายภูวรินทร์ จินดา หรือ หนึ่ง อายุ 20 ปี(คนขับขี่รถจักรยานยนต์) นายทวิพัฒน์ อุดมทรัพย์ หรือ อาร์ท อายุ 18 ปี(คนซ้อนท้ายใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย) นายสหรัฐ อิ่มคง หรือ ทีม อายุ 19 ปี(คนขี่รถจักรยานยนต์อีกคันและใช้อาวุธขวานทำร้ายผู้ตาย)และนายจักรกฤษณ์ เงินเทศ หรือ เบ็นซ์ อายุ 19 ปี(คนซ้อนท้าย) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ภายหลังจับกุมตัวได้ทั้งหมด

รวบ4โจ๋รุมฟันแทงพลทหารอดีตคู่อริดับ

            พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า จุดแรกที่ทำแผนบริเวณแยกไฟแดงสุวินทวงศ์  เป็นช่วงเวลาที่่ พลทหารศรายุทธขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาโดยมี น.ส.สุนิตรา วิไลรักษ์ อายุ 19 ปีน้องสาว  ซ้อนท้ายจอดติดไฟแดง มีรถจักรยานยนต์ 3 คันขี่ประกบโดยนายภูวรินทร์ ได้สอบถามผู้ตายว่า เรียนไหน เมื่อผู้ตายตอบว่าไม่ได้เรียนพร้อมถอดหมวกออกและหยิบบัตรทหารมาแสดงให้ดู  จากนั้นนายภูวรินทร์ได้ถอยรถจักรยานยนต์ไปเล็กน้อยและหันไปบอกเพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังว่า “เด็กเทคโนว่ะ”  จากนั้นทั้งหมดได้ขี่รถจักยานยนต์มาถึงบริเวณโรงแก้วที่เกิดเหตุ

            พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวต่อว่า จุดที่ 2 ทำแผนบริเวณโรงแก้ว กลุ่มรถจักรยานยนต์คนร้ายได้ขี่ปาดหน้าจนรถของพลทหารศรายุทธเสียหลักล้มลง  ขณะที่ น.ส.สุนิตราเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหลบหนีไป  จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุโดยนายทวิพัฒน์ใช้อาวุธมีดแทงพลทหารศรายุทธจนล้มลง แต่พลทหารศรายุทธลุกขึ้นมาพยายามจะวิ่งหนีแต่ไม่สำเร็จก่อนจะถูกนายสหรัฐใช้อาวุธขวานทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยมีสาเหตุทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวมาก่อน  ถึงแม้พลทหารศรายุทธจะไปเป็นทหารแล้วก็ตาม แต่คนร้ายจำได้ว่าเคยมีปัญหากัน ซึ่งในวันเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบังเอิญพบพลทหารศรายุทธ ขณะขับขี่จักรยานยนต์มากับน้องสาวบริเวณไฟแดง 3 แยกไปรษณีย์ ได้ขับรถเข้าไปพูดคุยปกติ แต่เมื่อมั่นใจแล้วว่าผู้ตายคือ คู่อริที่เคยใช้อาวุธปืนไล่ยิงเมื่อ 2 วันก่อนจึงหันมาบอกเพื่อนๆว่า ถูกคนแล้ว  จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับสารภาพว่า  ก่อนหน้านี้เคยถูกกลุ่มผู้ตายทำร้ายมาก่อน โดยคนร้ายมีทั้งหมด  8 คน ถูกจับแล้วก่อนหน้านี้ 3 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นเยาวชน  กำลังติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยทั้งหมดเคยเรียนที่วิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านหัวหมากและมีนบุรี  

            พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหานักเรียนก่อเหตุยกพวกตีกัน ยิงกันและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตว่า  ที่ผ่านมามีการประสานสถาบันการศึกษาในพื้นที่ีมาตลอด ไม่อยากให้นักศึกษาสถาบันต่างๆมีปัญหากัน และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน ตำรวจวางมาตรการป้องกันเหตุตลอดเวลา โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้จัดโครงการที่สร้างรัก สร้างสามัคคีในสถานศึกษาคู่อริต่างๆ สร้างจิตสำนึกทำความเข้าใจกัน ลดความหวาดระแวง  โดยบูรณาการร่วมทั้งกระทรวงการศึกษาและโรงเรียนอาชีวะ ถือเป็นเรื่องที่ดีต้องดำเนินการต่อเนื่อง

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  ตำรวจให้กลุ่มผู้ต้องหาจุดธูปไหว้บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อขอขมาผู้ตาย โดยผู้ต้องหา 1 ใน 4 คน เป็นคนกล่าวนำว่า เราไม่ได้อยากจะทำ แต่นายทำเราก่อนจึงอยากจะให้นายอโหสิกรรมให้” จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคมตัวผู้ต้องหาไปยัง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป