ข่าว

ตื่นตาตื่นใจ...หิ่งห้อยส่องแสงระยิบระยับเต็มป่าบ้านรักไทย

ตื่นตาตื่นใจ...หิ่งห้อยส่องแสงระยิบระยับเต็มป่าบ้านรักไทย

08 มิ.ย. 2559

"หิ่งห้อย" บ้านรักไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ส่องแสงระยิบระยับ เต็มป่าสวนยางพารา ต้อนร้บนักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มด่ำธรรมชาติที่บริสุทธิ์

      คืนวานนี้(7มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านรักไทย ม.7 ต.ชมพู ต.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้ปรากฏการณ์หิ่งห้อย เริ่มบินว่อนเต็มสวนยางพาราของชาวบ้านรักไทย มีทั้งหิ่งห้อยกิ่งไม้ ที่มีขนาดเล็กและหิ่งห้อยด้วงช้างขนาดใหญ่ ที่เปล่งแสงจากตัวเรืองแสงระยิบระยับสวยงามเป็นอย่างมาก ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวต่างมาชมหิ่งห้อยเรืองแสงในช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไปเป็นจำนวนมาก และเนื่องจากปีนี้มีหิ่งห้อยออกมามากนานกว่าฤดูปกติ คือช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และเริ่มพบเห็นปรากฏการณ์หิ่งห้อยจำนวนมหาศาลมาอย่างต่อเนื่องร่วม 6 ปีแล้ว

        นายพิทักษ์ สุดจันทร์ ส.อบต.หมู่ 7 บ้านรักไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพิสูจน์ก็พบว่า จุดที่หิ่งห้อยออกมาบินเปล่งแสงมากที่สุด อยู่บริเวณสวนยางพาราของชาวบ้านหรือบริเวณด้านหลังโฮมสเตย์บ้านรักไทยของตน โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนยางพารา ที่ปลูกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี อยู่ใกล้แนวเขตป่าของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นแปลงสวนยางพาราของชาวบ้านหลายราย เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ พบว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 น.ถึงเวลาประมาณ 22.00 น. จะมีหิ่งห้อยขนาดเล็กจำนวนมาก บินเต็มพื้นที่สวนยางพารา โดยเริ่มบินเหนือระดับพื้นดิน 1-2 เมตร และจะค่อยๆ บินไต่ระดับสูงไปเรื่อยๆ ขณะที่บริเวณพื้นดินของสวนยางพารา ที่ถับถมด้วยใบไม้ยางพาราก็พบแมลงชนิดอีกหนึ่ง เปล่งแสงเต็มพื้นไปหมด เป็นแมลงขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 2 นิ้ว คล้ายแมลงสาปหรือชาวบ้านเรียกว่า หิ่งห้อยด้วงช้าง หรือพญาหิ่งห้อย

        นายพิทักษ์ สุดจันทร์ กล่าวว่า ปกติแล้ว ที่บ้านรักไทยในช่วงฤดูฝน ก็มักจะมีหิ่งห้อยออกมาบินอยู่แล้ว แต่ปีนี้กลับพบว่า มีหิ่งห้อยออกมาบินในสวนยางพารามากกว่าปกติ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา โดยเฉพาะช่วงฝนเริ่มตกใหม่ๆ จะมีหิ่งห้อยออกมาบินจำนวนมาก จนส่องแสงสว่างเต็มสวนยางพาราเต็มไปหมด ชาวบ้านที่ทราบข่าวก็แห่พากันมาชมโดยในปี 2556 ที่ผ่านมา มีอาจารย์จากภาควิชากีฏวิทยา(กี-ตะ-วิทยา) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นมาทำการวิจัยและพบว่าหิ่งห้อยที่บ้านรักไทยพบว่าหิ่งห้อยขนาดเล็ก มีกว่า 6 สายพันธุ์ ซึ่งบางสายพันธุ์ ก็หาชมได้ยาก แต่ที่พบมากคือ ก็หิ่งห้อยด้วงช้างและหิ่งห้อยกิ่งไม้

         ซึ่งปีนี้ชุมชน 4 หมู่บ้านในเขต ต.ชมพู ได้แก่บ้านซำต้อง บ้านรักไทย บ้านเผ่าไทยและบ้านร่วมเกล้า รวมกลุ่มกันทำมัคคุเทศก์ท้องถิ่นชุมชนรักไทย เพื่อบริการนำเที่ยว บริหารจัดการ การท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศ และเที่ยวชมพญาหิ่งห้อยนับแสนตัว ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการมาเที่ยวหิ่งห้อยก็สามารถติดต่อมาที่กลุ่มมัคคุเทศน์นำเที่ยว จะมีโปรแกรมพาเที่ยวชมสวนผลไม้ในช่วงเย็นและไปเที่ยวชมหิ่งห้อยในช่วงหัวค่ำ หรือหากต้องการพักชมความงามก็มีโฮมสเตย์ใน 4 หมู่บ้านพร้อมบริการ

         โดยชุมชนมีรถบริการนำเที่ยว จัดมัคคุเทศน์พาเข้าไปชม เก็บค่าบริการนำเที่ยวเข้ากลุ่ม และมีข้อปฏิบัติในการเข้าชมหิ่งห้อย อาทิ ควรเข้าชมในคืนเดือนแรม ไม่ฉายไฟ ไม่ถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ไม่ก่อกวนหิ่งห้อย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ส่งเสียงดัง นักท่องเที่ยวกลุ่มใดต้องการมาชมปรากฏการณ์หิ่งห้อยในช่วงต้นฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฏาคม 2559 สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่มัคคุเทศน์ท้องถิ่นชุมชนรักไทย ได้เป็นประจำทุกวัน