ข่าว

การ์ตูนล้อ'นายกฯ'จ่อคุก1ปีปรับ4แสน

การ์ตูนล้อ'นายกฯ'จ่อคุก1ปีปรับ4แสน

06 มิ.ย. 2559

ศิลปินนักเคลื่อนไหวชื่อดังในมาเลเซีย ถูกแจ้งข้อหาละเมิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ จากภาพการ์ตูนเสียดสีนายกฯ เป็นตัวตลก เพื่อประท้วงปัญหาทุจริต

 
                    เว็บไซต์นิวสเตรทสไทมส์ ในมาเลเซีย และสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า นายฟาห์มี เรซา โมห์ด ซาริน กราฟฟิกดีไซเนอร์มาเลเซียที่โด่งดังจากภาพการ์ตูนเสียดสีนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เป็นตัวตลกหน้าผู้ร้าย เดินทางไปขึ้นศาลวันนี้ ( 6 มิ.ย. 59 ) เพื่อรับฟังข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายสื่อสารโทรคมนาคมและมัลติมีเดีย ที่ห้ามเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ที่สร้างความรำคาญ ล่วงละเมิด คุกคาม หรือรังควานผู้อื่น จากการอัพโหลดภาพการ์ตูนล้อพร้อมกับข้อความว่า "ในประเทศที่เต็มไปด้วยทุจริต เราทุกคนเป็นพวกปลุกระดม" บนเว็บไซต์อินสตาแกรม เมื่อวันที่ 31 มกราคม 
 
                    ฟาห์มี วัย 38 ปี ให้การปฏิเสธหลังรับฟังข้อหาในศาล และศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 พันริงกิต วันเดียวกัน ศิลปินหนุ่มยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันจะปกป้องสิทธิของตนเองในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้ปกครองทุจริต โดยใช้ศิลปะเป็นอาวุธต่อไป 
 
                    นายไซอาเรดซาน โยฮัน ทนายของเขากล่าวว่า ข้อหานี้คือการทำให้การแสดงความเห็นอย่างเสรี กลายเป็นอาชญากรรม และอาจทำให้ลูกความ เผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับ 5 หมื่นริงกิต ( 4.27 แสนบาท ) หรือทั้งจำและปรับ ทนายกล่าวด้วยว่าตำรวจยังกำลังสอบสวนฟาห์มี ข้อหาปลุกระดมเพื่อล้มล้างรัฐบาลด้วย 
 
                    ภาพการ์ตูนล้อนายกรัฐมนตรีนาจิบของฟาห์มี เรซา ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประท้วงรัฐบาล ทั้งในรูปแบบโปสเตอร์ และสติ๊กเกอร์ ปรากฏอยู่ตามที่สาธารณะ จนมีผู้เปรียบเทียบนักเคลื่อนไหวและนักออกแบบผู้นี้ว่าคล้ายกับ แบงซี ศิลปินกราฟฟิตีชื่อดังและลึกลับ ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะข้างถนนเพื่อจุดชนวนคิดประเด็นสังคม 
 
                    ผู้นำมาเลเซียเผชิญมรสุมทางการเมืองอย่างหนัก นับตั้งแต่ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ที่หายไปจากบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐ วันเอ็มดีบี นายนาจิบปฏิเสธข้อหาและผลสอบสวนของอัยการไม่พบความผิดของนายกรัฐมนตรี แต่ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจการสอบสวน เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ออกมาเรียกร้องความโปร่งใสก็ถูกขับออกจากรัฐบาล อีกทั้งมีความพยายามปิดกั้นสื่อที่พยายามขุดคุ้ยเรื่องนี้