
'อิโรฮะ ราเมน อิซากาย่า'ฉีกแนวสร้างความต่าง บนความอร่อย
'อิโรฮะ ราเมน อิซากาย่า'ฉีกแนวสร้างความต่าง บนความอร่อย : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดย เรื่อง : อนัญชนา สาระคู ภาพ : สุกล เกิดในมงคล
หลังจากประสบความสำเร็จกับธุรกิจห้องเย็น จนวางใจได้ว่า “อยู่ตัว” แล้ว ทำให้ “จิราวัฒน์ ศีลปพิพัฒน์ และหุ้นส่วน” มองหาธุรกิจใหม่ที่สามารถต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่เป็นผู้ให้บริการรับฝากและขนส่งสินค้าในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และในที่สุดก็มาลงเอยที่ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 2 เดือนก่อน ในชื่อร้านว่า อิโรฮะ ราเมน อิซากาย่า (Iroha Ramen Izakaya)
ฉีกความแตกต่างจากร้านราเมนทั่วไป ด้วยการเปิดให้บริการในรูปแบบร้าน อิซากาย่า ที่ญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงร้านเหล้า ทำให้ร้านราเมนที่นี่จะมีอาหารที่เป็นกับแกล้มเพิ่มเติมเข้ามาในเมนูด้วย
“ธุรกิจห้องเย็นของเราปัจจุบันอยู่ตัวแล้ว จึงเป็นความท้าทายที่อยากจะทำอะไรใหม่ๆ เป็นการต่อยอดจากซัพพลายเชนที่เรามีอยู่ จะเป็นการนำเข้าสินค้ามาขายหรือธุรกิจร้านอาหารก็ได้ พอดีช่วงนั้นได้ไปญี่ปุ่น ไปเจอกับแฟรนไชส์ร้านอาหารแห่งนี้เข้า ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบกินราเมน พอได้ลองก็รู้สึกว่าราเมนของร้านนี้มีความพิเศษ ต่างจากร้านราเมนที่ขายอยู่ในบ้านเรา จึงสนใจ และได้ขอซื้อเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ ผูกขาดรายเดียวในประเทศไทย” จิราวัฒน์ เล่า
“หนอ” จิราวัฒน์ ศีลปพิพัฒน์ กรรมการบริหาร ร้านอิโรฮะ ราเมน อิซากาย่า กล่าวว่า สาขาแรกเปิดอยู่ที่ ชั้น 4 ของโครงการ 9:53 Art Mall Community ทองหล่อ 9 และเตรียมจะเปิดสาขาที่ 2 ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมปีนี้ ที่โครงการฮาบิโตะ ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ รีเทล ในเครือแสนสิริ อยู่สุขุมวิท 77 จากแผนธุรกิจมีเป้าหมายจะขยาย 5 สาขาภายในระยะ 5 ปี
“เราจะขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจริงๆ แล้ว หลังจากเปิดสองสาขานี้แล้ว ก็อยากจะบุกเข้าไปเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า แต่ตอนนี้ขอฝึกวิชาก่อน เพราะเราไม่ได้ทำธุรกิจร้านอาหารมาโดยตรง เรียกได้ว่ามาลองถูกลองผิดก่อนก็ว่าได้ และคิดว่าหากมีประสบการณ์มากพอก็จะเข้าห้างเช่นกัน ส่วนผลตอบรับของร้านที่ทองหล่อ 9 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ มีลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะ ลูกค้าที่ได้มาลองชิมราเมนที่ร้านก็บอกว่าอร่อย ทำให้รู้สึกดี แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าคนไทย ตอนนี้จึงทำตลาดในกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งยังรอดูผลตอบรับว่าจะเป็นอย่างไร”
สำหรับ “อิโรฮะ ราเมน” เป็นร้านราเมนชื่อดัง พร้อมมีรางวัลการันตี ปัจจุบันมี 10 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนสาขาในต่างประเทศมีที่ฮ่องกง, จีน มีอยู่หลายสาขา และฟิลิปปินส์ เร็วๆ นี้เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ก็มีคนไทยหลายเจ้าติดต่อเข้าไปขอซื้อแฟรนไชส์นะ แต่ทางเจ้าของยังไม่ตัดสินใจให้ใคร จนเราเข้าไปคุย ซึ่งเขาบอกว่าเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของเรา และเชื่อว่าเรามีความตั้งใจจริง
โดยสาขาแรกในไทยจะเรียกว่าเป็น เรือธง (flag ship store) สำหรับร้านราเมนรูปแบบใหม่ก็ว่าได้ คือยังไม่มีในรูปแบบนี้เลยทั้งในบ้านเราและที่ญี่ปุ่น เพราะได้นำร้านสไตล์ อิซากาย่า เข้ามาผสมผสาน แม้ร้านราเมนในบ้านเราจะยังเติบโตไปได้ แต่ก็อยากหาจุดแตกต่างจากร้านทั่วไป ซึ่งแนวคิดเราคือ ใครอยากกินอาหารญี่ปุ่นทุกแนวก็ให้เข้ามาร้านนี้ คือเรียกได้ว่ามีเมนูอาหารญี่ปุ่นเกือบครบ เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งลูกค้าของร้านก็มีทั้งที่มาเป็นครอบครัว กลุ่มวัยรุ่น คนวัยทำงานมานั่งสังสรรค์ คือร้านเราสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
ในเรื่องการแตกแต่งบรรยากาศร้าน จะเป็นสไตล์ roof top อยู่ชั้นบนสุดของตัวตึก หากลูกค้าต้องการนั่งชิลๆ ก็จะมีโต๊ะนั่งด้านนอก เป็น out door มองเห็นวิวทองหล่อในเวลากลางคืนได้ หรือหากต้องการบรรยากาศแบบญี่ปุ่นด้านหลังร้านก็จะมีจัดบริการไว้ ซึ่งต่างจากร้าน “ราเมน พรีเมียม” ทั่วไปที่ส่วนใหญ่ตอนนี้จะไปเปิดอยู่ในห้างกันหมด
นอกจากนี้ อีกความแตกต่างของทางร้านคือ อาหาร ของทางร้านจะเป็นสไตล์โฮมเมด เหมือนทำรับประทานที่บ้านง่ายๆ ส่วนราเมน ก็มีจุดต่างตรงที่น้ำซุป ซึ่งปัจจุบันร้านราเมนในไทยมากกว่า 90% ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่น้ำซุปทงคัตซึ หรือซุปกระดูกหมู แต่ร้านเราจะเป็นซุปปลา และกุ้ง ส่วนเหล้าก็จะเน้นเหล้าญี่ปุ่น หรือสาเก ที่หาดื่มยากๆ เราก็มีไว้บริการ
วัตถุดิบเป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญไม่น้อย โดยจะใช้คุณภาพเกรดเอทั้งหมด เช่น ผักจะคำนึงในเรื่องสุขภาพ เน้นใช้ผักไฮโดรโปนิกส์ ส่วนเนื้อหมู เนื้อไก่ ก็ใช้จากฟาร์มที่มีคุณภาพ ตรวจสอบได้ และมีมาตรฐานรับรองทั้งหมด
สำหรับเป้าหมายของร้านอิโรฮะ ราเมนฯ นั้น หนอ บอกว่า อยากให้ประสบความสำเร็จ แต่การจะสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่ว่าอาหารอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่การบริหารจัดการภายในร้านต้องดีด้วย ซึ่งผู้บริหารของร้านเราทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารร้านให้ไปได้ดี พนักงานเราจะมีการอบรมตลอด ขณะที่ผู้บริหารเองก็ยืดหยุ่นกับกฎระเบียบ เรายอมรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน พูดคุยกันตลอด และอะไรที่ปรับได้ ก็ปรับ เพื่อให้ดีขึ้น นั่นเพราะเราเห็นว่าการรักษาบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนธุรกิจห้องเย็น ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 หรือกว่า 10 ปีมาแล้ว จากก่อนหน้าทางครอบครัวทำธุรกิจประมง แต่ด้วยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาอาหารทะเลกลับไม่ปรับขึ้น จึงร่วมกับญาติๆ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านราเมนในปัจจุบันด้วย ร่วมกันปลุกปั้นธุรกิจกันมา และนอกจากบริการรับฝากสินค้าแล้วในช่วง 2-3 ปี ให้หลังยังทำควบคู่ไปกับธุรกิจโลจิสติกส์ เราจึงเป็นเหมือนศูนย์กระจายสินค้าและจัดส่งสินค้าไปยังห้างโมเดิร์นเทรด โดยในปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับเรื่องอาหาร
“ทางเรายึดหลักลูกค้าเป็นสำคัญ จึงค่อนข้างยืดหยุ่นกับลูกค้าในเรื่องการบริการหลายๆ ด้าน หากต้องการอะไรที่สามารถจัดหาให้ได้ก็จะดำเนินการให้ และเราเน้นเรื่องความสะอาด ลูกค้ารายใหญ่ที่เข้ามาตรวจก็จะให้คะแนนเราในระดับเอ ลูกค้าจึงไว้ใจ และบริษัทก็ได้ลงทุนขยายโดยเพิ่มความจุจากเดิมสามารถจุได้ 4,000 ตัน ปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 10,000 ตัน ซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอรองรับกับตลาดในปัจจุบันแล้ว”
แต่สำหรับธุรกิจร้านราเมน จริงๆ เราตั้งเป้าหมายอยากให้คนรู้จักร้านเรา แบบที่ว่าไปไหนก็มีคนรู้จัก เปรียบได้เหมือนกับร้านราเมน เลข 8 คือเราอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่จะเน้นตลาดที่ขยับขึ้นมาหน่อย ซึ่งก็เป็นเป้าหมายในระยะยาว ส่วนการจะขยายสาขาในรูปแบบใดนั้นคงต้องดูโมเดลธุรกิจในอนาคตอีกที รวมถึงดูสภาพตลาดช่วงนั้นก่อนด้วย เช่น หากจะขยายในโมเดิร์นเทรดจริงๆ ก็อาจจะต้องย่อขนาดร้านให้เล็กลง ทำในราคาประหยัด ซึ่งคงต้องดูอีกที
น้องใหม่ในธุรกิจร้านอาหาร เจ้าของ อิโรฮะ ราเมน อิซากาย่า มองว่า การจะบริหารร้านอาหารให้ยาวนานได้นั้น ปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง คือการควบคุมวัตถุดิบ การเช็กสต็อกจะต้องแม่นยำ เพื่อควบคุมปริมาณของเสียและลดต้นทุน แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงคือในเรื่องบริการ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหาร ความสะอาด และการบริการลูกค้า ซึ่งคงจะเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ต้องดูแล
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรายังต้องทำตลาดให้คนรู้จักให้มากขึ้น เพราะถือว่าเราเป็นราเมนชื่อใหม่ในเมืองไทยด้วย คือต้องทำการบ้านตรงนี้ให้เป็นที่รู้จักก่อน แต่เราก็เชื่อมั่นว่าถ้าใครได้มาชิมราเมนที่ร้านเราแล้ว น่าจะชอบทุกคน” หนอ กล่าวปิดท้าย
แชมป์ 5 สมัยการันตีความอร่อย
แม้จะเป็นร้านราเมนแบรนด์ใหม่ล่าสุด ที่เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้ว “อิโรฮะ ราเมน” โดยเชฟคิโยชิ คูริฮาระ ซึ่งเป็นชาวเมืองโทยาม่า โดยกำเนิดนั้น เปิดมานานราว 24 ปีแล้ว พร้อมรางวัลการันตีจากการแข่งขัน “โตเกียว ราเมน โชว์” ซึ่งเป็นรายการแข่งขันร้านราเมนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยทางร้านคว้าแชมป์มาได้ถึง 5 สมัย และทำยอดขายภายในรายการแข่งขันสูงสุดถึง 1.5 หมื่นชาม ตลอดการจัดงาน 5 วัน ในปี 2555 สูงที่สุดตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันและยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิติได้
หนอ กล่าวว่า สำหรับสาขาในไทยเรานำราเมน ที่เป็นซิกเนเจอร์ของอิโรฮะ ราเมน ที่ญี่ปุ่นมาเลยทั้ง 2 รายการ คือ “โทยาม่า แบล็ก” คือซุปปลาน้ำดำ สามารถคว้าแชมป์มาได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน และ “ไวท์ ชริม ราเมน” ซึ่งเป็นซุปกุ้งน้ำใส ที่ได้แชมป์มาอีก 1 สมัย รวมเป็นแชมป์ 5 สมัย ส่วนราคาจำหน่ายราเมนในไทยก็มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ชามละ 195 บาท ถึง 320 บาท และยังมีเมนูอื่น อาทิ ไก่ย่างโทยามะ ไก่คาราเกะ กุ้งเทมปุระ เกี๊ยวซ่า และข้าวแกงกะหรี่ ที่นี่ก็มี รวมทั้งอื่นๆ อีกหลายเมนู
“ร้านเราเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-14.00 น. และเวลา 17.00-01.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-01.00 น. ไม่มีหยุดพัก อย่างไรก็ตามสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของทางร้านได้ที่ IG : IROHARAMEN Line : @iroharamen และ Facebook :IROHA Ramen & Izakaya” หนอ กล่าว