
พม่าจับมือรัสเซียและโสมแดงพัฒนานุกร้องอาเซียนจับตาใกล้ชิด
ซิดนีย์-ชาวพม่าแปรพักตร์ระบุ พม่าร่วมมือกับรัสเซียและเกาหลีเหนือพัฒนานิวเคลียร์ ชี้เลื่อนตัดสินคดีซูจี พม่าได้ประโยชน์
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ของออสเตรเลียรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (2 ส.ค.) อ้างผลการสืบสวนนาน 2 ปีของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของพม่าว่า รัฐบาลทหารพม่าได้ร่วมมือกับรัสเซียและเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เพื่อพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งจะสามารถใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ปีละ 1 ลูกภายในปี 2557
รายงานการสืบสวนครั้งนี้ เป็นผลงานของนายเดสมอนท์ บอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในภูมิภาค จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และนายฟิล ธอนตัน นักข่าวชาวออสเตรเลีย ที่ทำข่าวอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า โดยข้อมูลเหล่านี้ ได้จากคำให้การของชาวพม่าแปรพักตร์ 2 คน ได้แก่ นายโม โจ เจ้าหน้าที่ในกองทัพพม่า และนายทิน มิน พนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพพม่า
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า พม่าได้ขุดหาแร่ยูเรเนียมจากพื้นที่ 10 แห่ง และมีโรงงานยูเรเนียม 2 แห่งเพื่อกลั่นยูเรเนียมให้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่พม่าต้องสร้างโรงงาน
แปรรูปซ้ำพลูโทเนียมก่อน จึงจะมีความสามารถในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งรัฐบาลพม่าได้วางแผนจะก่อสร้างโรงงานดังกล่าวบริเวณตอนกลางของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จับตาดูโครงการนิวเคลียร์ของพม่าใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน นายวิน มินท์ นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญชาวพม่าเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลทหารพม่าเลื่อนการอ่านคำตัดสินคดีของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าออกไปจากกำหนดการเดิมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เป็นวันที่ 11 สิงหาคมนี้เพราะมีความวิตกต่อแรงกดดันจากนานาชาติ และความกังวลว่า จะทำให้ความโกรธแค้นในพม่าทวีความรุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากสื่อของทางการพม่า ที่ได้ระบุในบทบรรณาธิการเตือนประชาชนไม่ให้ออกมาประท้วงถ้านางซูจี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง
นายวิน มินท์มองว่า อาจจะมีแรงกดดันจากจีน พันธมิตรสำคัญของพม่าด้วย เพราะหากรัฐบาลจีนประกาศอย่างที่เคยทำว่า เป็นกิจการภายในของพม่า รัฐบาลทหารคงคำตัดสินตามความต้องการไปแล้ว แต่ขณะนี้รัฐบาลจีนยังนิ่งเฉย และเลี่ยงไม่สนับสนุนรัฐบาลทหารชัดเจนอย่างในอดีต พร้อมบอกว่า ท่าทีของรัฐบาลทหารพม่า เป็นความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่าง ความตั้งใจที่จะจำคุกนางซูจีระหว่างการเลือกตั้งในปีหน้า กับความปรารถนาที่จะแสดงให้นานาชาติเห็นว่า การพิจารณาคดีดังกล่าวมีความชอบธรรม
ขณะที่ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนางซูจี จาเรด เจนเซอร์มองว่า การเลื่อนการอ่านคำตัดสินเป็นยุทธศาสตร์อันชาญฉลาดของรัฐบาลทหารพม่า ที่เลือกจะประกาศผลการตัดสินในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายชาติรวมถึงสหประชาชาติ อยู่ในช่วงหยุดพักผ่อน