ข่าว

ป้อมพระจุลฯอนุสรณ์พระราชปณิธานรักชาติร.5

ป้อมพระจุลฯอนุสรณ์พระราชปณิธานรักชาติร.5

03 ส.ค. 2552

ราว 17.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2436 เรือรบของฝรั่งเศส 2 ลำ คือ เรือแองคองสตังต์ (Inconstant) และ เรือโคแมต (Comete) ได้แล่นรุกล้ำสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา หวังจะฮุบสยามให้ตกเป็น "เมืองขึ้น" ในยุคที่การล่าอาณานิคมกำลังเฟื่องฟูถึงขีดสุด

 แต่ "ปืนเสือหมอบ" จำนวน 7 หลุม ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ได้เปิดฉากยิงสกัดกั้นหมู่เรือรบฝรั่งเศสไว้อย่างสุดความสามารถ แม้จะไม่อาจหยุดยั้งหมู่เรือรบอันเกรียงไกรของฝรั่งเศสได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถจมเรือนำร่องของฝรั่งเศสได้ 1 ลำ

 การยุทธ์ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาในครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ "วิกฤติการณ์ ร.ศ.112" ซึ่งแม้จะทำให้ต้องสูญเสียดินแดนของสยามถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมดในเวลาต่อมา

 แต่วีรกรรมครั้งนั้นที่ต้องสูญเสียทหารไป 3 นาย และบาดเจ็บอีก 40 กว่านายทำให้สยามยังรักษาดินแดนส่วนใหญ่ไว้ได้ ด้วยแนวทางการปรับปรุงกองทัพครั้งใหญ่ควบคู่ไปกับการดำเนินวิเทโศบายทางการทูตอันชาญฉลาดของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5

 ในเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์เมื่อ 116 ปีก่อน ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า ก็ถือฤกษ์อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมทหารกล้าในครั้งนั้น พร้อมเปิดตัวชมรมดังกล่าวที่จะสืบสานปณิธานความรักชาติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบป้อมพระจุลฯ

 สงวน รัถการโกวิท ประธานชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้า กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของชมรมว่า นักศึกษา พสบ.ทร. จึงรวมตัวกันตั้งชมรมขึ้นมาเพื่อมาช่วยกองทัพเรือ และมูลนิธิพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 เพื่อช่วยพัฒนาป้อมพระจุลจอมเกล้า ใน 2 เรื่องหลัก 1.ให้ความรู้ความเข้าใจ และปลูกฝังวิถีชีวิตพอเพียงแก่เยาวชน และประชาชนที่มาเที่ยว และ 2.การพัฒนาป้อมพระจุลจอมเกล้าให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน

 สาเหตุที่ต้องเน้นเรื่องวิถี "พอเพียง" เป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันเรากำลังถูกล่าเมืองขึ้นทางวัฒนธรรมด้วย "กระแสวัตถุนิยม" ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้ายังวางโครงการทั้งระยะสั้น และระยะยาวเพื่อปลูกฝังวิถีพอเพียงอย่างต่อเนื่อง 

 สนธยา แตงอุไร นายก อบต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ กล่าวถึงการสนับสนุนการดำเนินงานป้อมพระจุลฯ ว่า อบต.แหลมฟ้าผ่า ได้เปิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 โดยบรรจุป้อมพระจุลฯ ไว้เป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวด้วย

 สำหรับโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จะเริ่มต้นด้วยการ นมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ ต่อด้วย การสักการะเสด็จพ่อ ร.5 ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ก่อนจะพาไปปิดทริปที่ "โบสถ์กลางทะเล" ในพื้นที่หมู่ 9

 ส่วนการสนับสนุนการดำเนินงานของป้อมพระจุลฯ แม้พื้นที่แห่งนี้จะเป็นของทหาร แต่ถ้าต้องการงบประมาณบูรณะซ่อมแซม ทาง อบต.พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เช่น การจัดเก็บขยะ และการพัฒนาถนนหนทาง ซึ่ง อบต.แหลมฟ้าผ่า ได้ให้การสนับสนุนมาตลอด

 นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ด้วยระยะทางจากวงเวียนใหญ่ถึงป้อมพระจุลฯ ราว 27 กิโลเมตร ท่านใดไม่มีรถ หรือขี้เกียจขับรถมาเองสามารถเดินทางมาได้ด้วยรถ ปอ.20 (ท่าดินแดง-พระสมุทรเจดีย์-ป้อมพระจุลจอมเกล้า)

อาคม ไชยศร