ข่าว

หิ้ว!8มือโพสต์ป่วนคสช.ฝากขังศาลทหาร

หิ้ว!8มือโพสต์ป่วนคสช.ฝากขังศาลทหาร

29 เม.ย. 2559

ตร.กองปราบคุมตัว 8 ผู้ต้องหาโพสต์วิจารณ์คสช. ไปฝากขังศาลทหารผัดแรก ด้าน ทนายเตรียมยื่นประกันคนละ 1 แสน ขณะที่ ‘บก.ลายจุด’ ปัดร่วมผังล้ม คสช.

 
        29 เม.ย.59 เมื่อเวลา 09.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้นำตัว 8 ผู้ต้องหาที่ศาลทหารกรุงเทพอนุมัติออกหมายจับในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยั่วยุปลุกปั่น และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย น.ส.ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ หรือนัท นายนพเก้า คงสุวรรณ นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ หรืออ้วน นายโยธิน มั่งคั่งสง่า หรือโย นายธนวรรธน์ บูรณศิริ นายศุภชัย สายบุตร หรือตั๋ม นายหฤษฏ์ มหาทน และนายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา หรือที ในขณะที่นายชัยธัช รัตนจันทร์ ผู้ต้องหาที่มีหมายจับอีกรายยังคงอยู่ต่างประเทศ เพื่อมาขออำนาจศาลทหารฯฝากขังผัดแรกตามคำร้องของพนักงานสอบสวน โดยทั้ง 8 คน เดินทางมาด้วยรถของกองบังคับการปราบปราม จำนวน 5 คัน ซึ่งทุกคนมีสีหน้าเรียบเฉยท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารที่ดูแลพื้นที่โดยรอบศาลทหารฯและกระทรวงกลาโหม 
 
        ทั้งนี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ในคดีดังกล่าวนี้ตนจะเป็นทนายความให้กับ 8 ผู้ต้องหาร่วมกับทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เบื้องต้นจะขอยื่นประกันตัวทั้ง 8 คน ในวงเงินหลักทรัพย์ คนละ 1 แสนบาท
 
 
‘บก.ลายจุด’ ปัดร่วมผังล้ม คสช.
 
 
        29 เม.ย. 2559 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ “สำนักข่าวเนชั่น” ถึงกรณีที่มีชื่อปรากฏในผังผู้กระทำผิดต่อความมั่นคง ว่า ถ้าได้ฟังทางตำรวจแถลงเขาบอกว่าตน ตนยังไม่ได้ร่วมกับน้องๆในการล้ม คสช. ผมปฏิเสธไม่ได้ร่วมกับน้องกลุ่มนี้ในการสร้างโครงข่ายในการล้ม คสช. และเท่าที่ดูในเพจ เช่น เพจเรารัก พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าไปดูเป็นเพจล้อเลียน ไม่ใช่เพจล้มล้าง ดังนั้นการตีความว่าเป็นภัยความมั่นคง หากจะผิดกฎหมายก็เป็นเรื่องการหมิ่นประมาท ไม่ใช่เรื่อง ม.116 การหมิ่นประมาท พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีผลต่อความมั่นคง และนายกฯในสังคมประชาธิปไตยต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ และหากเกินไปก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายเฉกเช่นประชาชนคนอื่น คุณไม่ได้รับสิทธิในลักษณะในการห้ามวิจารณ์ นี่ไม่ใช่เกาหลีเหนือ
 
        เมื่อถามว่า เป็นผู้ว่าจ้างคนทำเพจ นายสมบัติ กล่าวว่า น้องพวกนี้เคยอยู่ในทีมก่อนวันที่ 22 พ.ค. ทำเรื่องกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงก็เป็นสตาฟฟ์มีเบี้ยเลี้ยงเล็กน้อย หากผิดก็ให้แจ้งความมา แต่ไม่ใช่การเขียนผังและให้ตนเข้าใจผิดว่าอยู่เบื้องหลังการกระทำ ตนอยู่ในที่สาธารณะ และแสดงจุดยืนตลอด
 
 
‘กัณสิทธิ์’ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาผิดพ.ร.บ.คอมพ์-ม.116 กลับคำรับสารภาพ
 
 
        เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคำฟ้องของพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามที่ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาจำนวน 8 คน ประกอบด้วย น.ส.ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ นายนพเก้า คงสุวรรณ นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรนันท์ นายโยธิน มั่งคั่งสง่า นายธนวรรธน์ บูรณศิริ นายศุภชัย สายบุตร นายหฤษฏ์ มหาทน และนายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา ในขณะที่นายชัยธัช รัตนจันทร์ ผู้ต้องหารายที่ 9 ที่มีหมายจับอีกรายยังคงอยู่ต่างประเทศ ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยั่วยุปลุกปั่น และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.59 -10 พ.ค. 59 เนื่องจากพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีกประมาณ 15 ราย รวมทั้งต้องรอผลงานที่ตรวจสอบเว็บไซต์จากกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) และหลักฐานทางคดี ตลอดจนตรวจสอบลายนิ้วมือของ 8 ผู้ต้องหา
 
        ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะที่ทางด้านผู้ต้องหาทั้ง 8 คนได้ขอคัดค้านการฝากขังครั้งนี้ พร้อมกับให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมาทั้ง 8 คน ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างชัดเจน พร้อมทั้งทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดเสร็จสิ้นหมดแล้วและระหว่างการสอบพยานเพิ่มเติมก็ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมาร่วมรับฟัง นอกจากนี้นายกัณสิทธิ์ ยังขอแถลงต่อศาลทหารฯเรื่องการขอกลับให้การที่รับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน โดยตุลาการศาลทหารฯได้ชี้แจงว่าให้ทนายความไปแจ้งต่อพนักงานสวน เพราะฉันนี้เป็นขั้นตอนของการยื่นคำร้องขอฝากขัง ด้านทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เพจเรารักพล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพจที่มีขึ้นมาเพื่อล้อเลียน ไม่ใช่การยุยงปลุกปั่น อีกทั้งขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฝากขังจำเลยทั้ง 8 คน แต่คณะตุลาการศาลทหารฯได้พิจารณาอนุญาตฝากขังผัดที่ 1 ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายตามที่พนักงานสอบสวน โดยให้นำตัวผู้ต้องหาเพศชายไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนผู้ต้องหาเพศหญิงให้นำตัวไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
 
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทางเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ได้นำรถตู้ของกรมราชทัณฑ์มารับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะที่ทนายความได้ดำเนินการเรื่องการขอประกันตัวต่อไป
 
        จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ยอมรับในชั้นศาลว่า เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้นำตัว
 
        ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกแจ้งข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ และ ม.116 ทั้งนี้มองว่า หากเป็นเพียงข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพ์ จะไม่อยู่ในอำนาจศาลทหาร แต่เมื่อมีข้อหา ม.116 จึงทำให้คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลทหารตามประกาศ คสช.37/2557 ถือเป็นการตั้งข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผล เพื่อต้องการให้คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร เนื่องจากองค์ประกอบความผิดและการกระทำที่อ้างว่ามีการใช้เพจ “รักพล.อ.ประยุทธ์” นั้นไม่มีข้อความใดที่ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา116 จึงไม่ควรที่จะเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณาศาลทหาร ซึ่งควรจะอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลพลเรือน
 
        นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือการควบคุมตัวจำเลยทั้ง 8 คน ตามคำสั่ง หัวหน้า คสช.3/2558 เป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวพลเรือน หรือประชาชนก่อนที่จะมีการออกหมายจับ โดยใช้อำนาจของ คสช. เพราะฉะนั้นกระบวนการเช่นนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับประชาชน แต่ยอมรับว่าการโต้แย้งประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องลำบาก แต่เราต้องการชี้ให้ศาลเห็นว่าการจับตัวพลเรือน และมาแจ้งข้อหาทีหลัง และอ้างการหลบหนี จะปิดโอกาสของผู้ต้องหา และเราเห็นว่าผู้ต้องหาควรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ แต่ศาลได้ใช้ดุลพินิจในการรับฝากขัง ขณะนี้เราได้ยื่นประกันจำนวนคนละ1แสนบาท อย่างไรก็ตามยืนยันผู้ต้องหาทั้ง 8 คนยังไม่มีใครถูกแจ้งข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112