ข่าว

ไทยร่วมอาลัย"อาคีโน"ถึงแก่อสัญกรรม

ไทยร่วมอาลัย"อาคีโน"ถึงแก่อสัญกรรม

01 ส.ค. 2552

นายกฯและรมว.ต่างประเทศ ของไทย ส่งสาส์นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ วัย 76 ปี จากอาการหัวใจล้มเหลวหลังป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้

(1ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส่งสาส์นแสดงความเสียใจ ต่อการอสัญกรรม ของนางคอราซอน อาคีโน อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ คนที่ 11 ในนามรัฐบาลไทยและปวงชนชาวไทย
 
 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ว่า อดีตประธานาธิบดีคอราซอน อาคีโน ของฟิลิปปินส์ ได้ถึงแก่อสัญกรรม  ด้วยวัย 76 ปี หลังจากป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ มานานกว่า 1 ปี และปฏิเสธการรักษาพยาบาลก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตไม่นาน
 
 วุฒิสมาชิกเบนิกโน อาคีโน จูเนียร์ บุตรชายของนางอาคีโน กล่าวว่า มารดาจากไปอย่างสงบ ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อเวลา 03.18 น.วันที่ 1 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง มารดาของตนต้องการให้ลูกๆ และครอบครัว ขอบคุณชาวฟิลิปปินส์ทุกคน ที่พร้อมใจกันสวดมนต์ให้เธอ และยังได้ส่งความรัก ความปรารถนาดี มาอย่างต่อเนื่อง
 
 ก่อนหน้านี้ ชาวฟิลิปปินส์พากันนำริบบิ้นสีเหลือง ผูกไว้ตามเสาไฟฟ้า ต้นไม้ รั้ว และอาคารต่างๆ ทั่วกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นเกียรติกับอดีตประธานาธิบดี คอราซอน อาคีโน่ สัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตยของประเทศ ที่กำลังป่วยหนักจากโรคมะเร็ง  ขณะที่โบสถ์หลายแห่งทั่วประเทศได้สวดมิซซากันทุกวัน เพื่อขอพรให้อดีตผู้นำของพวกเขาหายจากอาการป่วย โดยนางอาคีโน่ ผู้นำการปฏิวัติพลังประชาชนแบบไม่มีการนองเลือดเมื่อปี 2529 ในการโค่นล้มเผด็จการ เฟอร์ดินาน มาร์กอส ต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มานานกว่าปี เธอถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในย่านมากาติ ของกรุงมะนิลา ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว หลังจากที่อาการแย่ลง
 
 นางอาโรโย่ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ กล่าวในแถลงการณ์ว่าชาวฟิลิปปินส์ทั้งชาติต่างรู้สึกเศร้าเสียใจต่อการจากไปของนางอาคีโน  และรัฐจะมีการจัดพิธีไว้อาลัยต่อไป
 
 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตราดา กล่าวว่า วันนี้ประเทศของเราได้สูญเสียผู้เป็นมารดาไปแล้ว
 
 ทั้งนี้  นางอาคีโนก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ลำดับที่ 11 ในปีพ.ศ. 2529 โดยพลังของประชาชน ที่ก่อการปฏิวัตินายเฟอร์ดินานด์ มากอส อดีตผู้นำที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง และยังกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก ของฟิลิปปินส์ โดยนางอาคีโนอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ ปีพ.ศ. 2529-2535
 
 ระหว่างการดำรงตำแหน่ง นางอาคีโนได้เผชิญกับรัฐประหารถึง 7 ครั้ง จากความพยายามของกองทัพ ที่ต่อต้านการบริหารประเทศของเธอ แต่ก็ยังสามารถผ่านอำนาจ ไปยังนายฟิเดล รามอส ในปี พ.ศ.2535 นอกจากนี้ ยังได้ปกป้องประชาธิปไตยของฟิลิปปินส์ และปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง
 
 นางอาคีโนได้รณรงค์ต่อต้านอดีตประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตราดา แต่ได้ปรองดองกันในเวลาต่อมา อีกทั้งยังร่วมกันประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ทั้งนี้ นางอาคีโนเคยได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในปี พ.ศ.2529 และได้รับรางวัลอีกหลายรางวัล รวมถึงการพูดถึงการทำงานของเธอ ด้านการสนับสนุนประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน