
ไม่ฟ้อง'เจนภพ'เจตนาฆ่า
26 เม.ย. 2559
'พงศพัศ' ตรวจสำนวนคดี 'เจนภพ' ซิ่งเบนซ์ชน 2 ศพ ก่อนส่งอัยการ แจ้ง 8 ข้อหา แต่ไม่มีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แนะญาติยื่นฟ้องเอง ยัน ตร.ทำตามข้อมูลหลักฐาน-ประจักษ์พยาน
26 เม.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยและความครบถ้วนของสำนวนคดีที่ นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด เป็นเหตุให้ น.ส.ธัญฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย และนายกฤษณะ ถาวร สองนักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำสำนวนส่งให้พนักงานอัยการในวันนี้ เพื่อสั่งฟ้องผู้ต้องหา โดยมีญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เดินทางมาด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้มาตรวจสอบสำนวนร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 8 ข้อกล่าวหาแก่นายเจนภพ ได้แก่
1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ 3. ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4. ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของบุคคลอื่น 5. ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 6. เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่ายาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ว่าด้วยกฎหมายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 7. เป็นผู้ขับขี่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานสอบสวนที่ให้มีการตรวจสอบผู้ขับขี่ตามมาตรา 43 ทวิ ที่พนักงานสอบสวนสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในการที่จะขับขี่ จากการเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ฝ่าฝืนของพนักงานสอบสวนไม่ยอมให้ทดสอบ 8. ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีข้อแก้ตัวและเหตุผลโดยสมควร
ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ญาติของผู้เสียชีวิตขอให้พนักงานสอบสวนแจ้งเพิ่มนั้น ยังไม่มีข้อบงชี้ชัดว่าผู้ต้องหามีเจตนาฆ่าผู้อื่น แต่หากญาติจะไปฟ้องเอง หรือจะยื่นหลักฐานกับอัยการเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้ ซึ่งข้อกล่าวหาที่แจ้งทั้งหมดนั้นอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลพยานหลักฐานทุกด้าน มีประจักษ์พยานที่หนักแน่น พร้อมยืนยันว่า พนักงานสอบสวนที่ตั้งขึ้นทุกคนทุ่มเททำงานด้วยความเสียสละ พนักงานสอบสวนดำเนินการด้วยความโปร่งใส สุจริต และยุติธรรม ทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริงพยานบุคคลพยานวัตถุ เร่งรัดเต็มที่เพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงจะต้องรออัยการลงความเห็นต่อไป ทั้งนี้ แม้ว่าคดีดังกล่าวจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ แต่ก็เป็นคดีที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการหาหลักฐานไปสู่คนที่กระทำผิด