
ผบ.ตร.ระบุมีเอกชนหนุนกลุ่มพลเมืองโต้กลับ
ผบ.ตร.พอใจผลงาน 6 เดือน ย้ำกำชับทุกหน่วยจับตาเคลื่อนไหวในโซเชียล ระบุมีเอกชนหนุนกลุ่มพลเมืองโต้กลับ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 เมษายน ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวแสดงความพอใจในผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน ของแต่ละส่วนงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มากกว่าร้อยละ 70 โดยจุดที่พบว่ายังคงมีปัญหามากที่สุดคือ ปัญหาเรื่องการจราจร ที่พบว่ามีปริมานรถมากบนท้องถนน จึงได้มีารสั่งการให้มีการแบ่งกำลังของแต่ละส่วนมเข้าช่วยเหลือด้านงานจราจรมากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับกรณีที่ตำรวจมีการฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก ในส่วนนี้จพดำเนินการแก้อย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกว่า ได้มีการเน้นย้ำให้ผู้กำกับทุกโรงพักเข้าไปดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อจะได้รับทราบปัญหาของผู้ใต้บังคับบัญชาได้ทันท่วงที รวมถึงเพื่อนตำรวจ ให้คอยจับตาเฝ้าระวัง ดูแลกันและกันมหากพบความผิดปกติ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทันที
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ประเด็นที่โลกโซเชียลมีเดียที่ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ตำรวจเข้ามาดูแลมากขึ้น เพราะถูกใช้เป็นช่องทางในการปลุกระดม และสร้างความปั่นป่วนขัดแย้งในสังคม จะทำอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ดูแลเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ ส่วนในเรื่องของกฏหมาย จะมีการขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาดูแล ส่วนจะมีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเกี่ยวกับเรื่องโซเชียลมีเดียและสังคมออนไลน์โดยเฉพาะหรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผย โดยเฉพาะกรณีของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ที่มีการกระทำความผิดในโซเชียลมีเดียหลายครั้ง ไม่รู้ว่ามีเจตนาในการท้าทายหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า กรณีเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงอดีตนักการเมืองเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มพลเมืองโต้กลับนั้น พล.ต.อ.ศรีวรรห์ ตอบว่า เรื่องนี้จะต้องมีการสอบสวนติดตามข้อเท็จจริงว่า มีบุคคลใดบ้างเกี่ยวข้อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีบริษัทเอกชนเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว พร้อมสืบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ หากมีความเกี่ยวข้อง ในส่วนของบุคคลในประเทศจะมีการออกหมายเรียก ส่วนบุคคลต่างประเทศ ขณะนี้มีขั้นตอนในการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีอยู่แล้ว