‘ออรัลเซ็กส์’ปลอดภัยจริงหรือเปล่า? | คมชัดลึก

 

      ออรัลเซ็กส์ (Oral sex) หรือการใช้ปากในการทำกิจกรรมทางเพศ เป็นสิ่งต้องห้ามและผิดกฎหมายในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เคร่งศาสนา ซึ่งมักจะเกี่ยวโยงกับการมีเซ็กส์กับคนเพศเดียวกัน ทำให้กิจกรรมอย่างการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก และออรัลเซ็กส์ กลายเป็นตัวบ่งชี้ถึงการกระทำความผิด

 

      ในสังคมอเมริกัน ออรัลเซ็กส์ กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น จากการสำรวจล่าสุด โดยศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ วัยรุ่นอายุ 15-24 ปี 2 ใน 3 ตอบว่า ใช้วิธีออรัลเซ็กส์ และกิจกรรมดังกล่าวก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

      เหตุผลสำคัญ ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่นิยมใช้วิธีนี้ เกือบทั้งร้อยตอบว่า “คิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย” ที่แน่ๆ คือปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่ที่ลืมนึกถึงกันก็คือ เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการมีเซ็กส์ด้วยวิธีดังกล่าว

 

      ไม่มีข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับออรัลเซ็กส์ในบ้านเรา แต่คุณหมอพบหลายกรณีที่ผู้ป่วยสงสัยว่าทำไมตนเองถึงติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง สอบถามกันต่อไปถึงรู้ว่า ไม่ได้มีการป้องกันเวลาใช้วิธีออรัลเซ็กส์

 

      ข้อเท็จจริงก็คือ ถึงออรัลเซ็กส์จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ แต่ไม่ได้ทำให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ แม้เมื่อเปรียบเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะเพศหรือทวารหนักจะมีโอกาสรับเชื้อได้มากกว่าก็ตาม แต่ออรัลเซ็กส์สามารถทำให้ติดโรคได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นซิฟิลิส เริม งูสวัสดิ์ ตับอักเสบบี หนองในแท้และหนองในเทียม ไปจนถึงเชื้อเอชพีวี และเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์

 

      ทั้งนี้ เป็นเพราะเชื้อโรคต่างๆ สามารถส่งผ่านติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งทางเยื่อบุใดก็ตามที่มีการสัมผัส และแม้จะไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิ แต่ในน้ำหล่อลื่นทั้งของผู้ชายและผู้หญิงต่างก็มีสารพัดเชื้อปะปนอยู่ได้ทั้งนั้น ฉะนั้น ไม่ต้องคิดจะใช้วิธี “หลั่งนอก” เพื่อลดความเสี่ยง เพราะช่วยไม่ได้อย่างแน่นอน

 

      โอกาสส่งผ่านเชื้อจะยิ่งเพิ่มขึ้น หากในช่องปากของผู้ที่ทำออรัลเซ็กส์มีบาดแผล เชื้อโรคจะสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง ทำให้มีโอกาสติดโรคสูงขึ้นอีก ดังนั้น จึงมีคำเตือนด้วยว่า ไม่ควรออรัลเซ็กส์หลังจากการทำฟัน รวมทั้งไม่ควรแปรงฟัน หรือใช้เดนทัลฟรอสต์ก่อนและหลังการทำออรัลเซ็กส์ เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผล แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็จะกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคติดต่อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยสะดวก

 

      อีกกลุ่มเสี่ยงสำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการออรัลเซ็กส์ ได้แก่ กลุ่มหญิงรักหญิง ที่ทำให้เสี่ยงเป็นพิเศษก็เพราะกลุ่มหญิงรักหญิงมักมีความเข้าใจที่ว่า เมื่อไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ไม่ได้มีการสอดใส่ ทำให้ไม่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดถนัด

 

      แม้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บางชนิดเป็นแล้วรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ข่าวดีก็คือ ทุกโรคสามารถป้องกันได้ โดยการใช้ถุงยางอนามัยในทุกช่องทางที่มีเพศสัมพันธ์ สำหรับหญิงรักหญิงสามารถใช้เดนทัล แดม (Dental dam) เพื่อออรัลเซ็กส์ที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน