
ฎีกายกฟ้อง'หมอพรทิพย์'ไม่ผิดคดีห้างทอง
20 เม.ย. 2559
ฎีกายืนยกฟ้อง 'หมอพรทิพย์' ไม่ผิดให้ความเห็นแพทย์คดีห้างทองเสียชีวิต หลัง 'นพดล ธรรมวัฒนะ' ฟ้องคดีปี 50 ศาลชี้พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักความเห็นเป็นเท็จ
20 เม.ย. 59 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.656/2550 ที่นายนพดล ธรรมวัฒนะ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และ นพ.ธำรง จิรจริยเวช ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานเบิกความเท็จ กรณีเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2547-28 มกราคม 2548 จำเลยได้เบิกความเท็จ ต่อองค์คณะศาลอาญาว่า การตายของนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายคนโต ไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตายโดยใช้อาวุธปืน แต่เกิดจากการถูกฆาตกรรมโดนของแข็งตีที่ศีรษะ และให้คนทั่วไปเชื่อว่า โจทก์ มีส่วนร่วมในการฆ่านายห้างทองด้วย
โดยศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้มีคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์ เนื่องจากเห็นว่าคดีไม่มีมูล ต่อมานายนพดล โจทก์ ยื่นฎีกา
ขณะที่นัดฟังคำสั่งฎีกาวันนี้ มีเพียงทนายความโจทก์ และผู้รับมอบอำนาจจำเลย เดินทางมาศาล เนื่องจากคดีเป็นการฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ทั้งนี้ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า แม้ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์จะมีแพทย์ตำรวจ เป็นผู้ร่วมชันสูตรศพผู้ตายครั้งแรก แพทย์ที่เป็นคณะกรรมการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายครั้งที่ 3 และนายแพทย์ผู้ร้องเรียนจำเลยที่ 1 ต่อคณะกรรมการแพทยสภา มาเป็นพยานเบิกความ แต่แพทย์ที่มาเป็นพยานโจทก์นั้น ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช ซึ่งมีความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายห้างทอง ตรงข้ามกับจำเลยที่ 1 ดังนั้นพยานโจทก์ดังกล่าว ย่อมต้องเบิกความว่าความเห็นของจำเลยที่ 1 ต่อการเสียชีวิตของนายห้างทองไม่ถูกต้อง ซึ่งศาลเห็นว่า ความเห็นของพยานโจทก์ รวมทั้งความเห็นของจำเลยที่ 1 ต่อการเสียชีวิตนายห้างทอง ย่อมเป็นไปตามความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล
ส่วนเอกสารของคณะแพทยสภา ที่โจทก์อ้างว่า มีมติว่าจำเลยที่ 1 ประพฤติผิดจริยธรรมวิชาชีพแล้วต่อมามีคำสั่งลงโทษจำเลยที่ 1 แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้สรุปสาเหตุการตายของนายห้างทองว่าเกิดจากสาเหตุใด จึงไม่สามารถยืนยันความเห็นของจำเลยที่ 1 ว่าเป็นเท็จหรือถูกต้องได้
นอกจากนี้ ยังมีคำเบิกความของโจทก์ที่ยอมรับว่า มีหนังสือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือแต่งตั้งคณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช และแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ร่วมวิเคราะห์สาเหตุการตายของนายห้างทอง ซึ่งความเห็นของแพทย์ที่ได้รับแต่งตั้ง ก็ขัดแย้งกับจำเลยที่ 1 โดยสรุปความเห็นถึงสาเหตุการตายของนายห้างทองเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง คือ ฆ่าตัวตายและฆาตกรรม
ดังนั้นพยานโจทก์ เบิกความมาจึงยังไม่อาจชี้ชัดว่า ความเห็นของจำเลยที่ 1 เป็นเท็จ พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักรับฟังว่าจำเลยที่ 1 เบิกความเท็จ ที่ศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืน