ข่าว

'เหล็กคง'งานศิลป์ชาวไทยไปไกลถึงสากล

'เหล็กคง'งานศิลป์ชาวไทยไปไกลถึงสากล

19 เม.ย. 2559

“เหล็กคง” งานศิลป์ชาวไทยไปไกลถึงสากล เรื่อง... รพินทร์ ศรีวิไล

 
          เป็นหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่งานศิลปะจากฝีมือศิลปินไทยได้ไปเฉิดฉายไกลถึงแกลเลอรี่ดังระดับโลก ซึ่งเป็นผลงานที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร นำเหล็กกล้ามาดัด บิด เชื่อม ให้กลายเป็นตัวละครต่างๆ จากวรรณคดีที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วถึงอย่าง “รามเกียรติ์” ฝีมือการสร้างสรรค์จาก “บรรเจิด เหล็กคง” ซึ่งผลงานทั้งหมดกำลังจะนำไปจัดแสดงในรูปแบบแสดงเดี่ยว (Solo Exhibition) ที่ อโกรา แกลเลอรี่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้รับการสนับสนุนจาก สิงห์ปาร์ค เชียงราย โดยจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวศิลปินและนำผลงานมาจัดแสดงโชว์ที่ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ผ่านมา
 
          พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ ผู้จัดการบริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากจะดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความสุขให้กับคนที่มาเยือนและชุมชนโดยรอบแล้ว ยังได้ให้การสนับสนุนศิลปินชาวไทย ในการสร้างสรรค์และจัดแสดงผลงานมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เจอกับศิลปินอย่าง บรรเจิด เหล็กคง ซึ่งบริษัทมองเห็นว่างานระดับนี้สามารถไปสู่สากลได้จึงได้เข้ามาสนับสนุนการจัดแสดงผลงานทั้งหมด
 
          บรรเจิด เหล็กคง ศิลปิน เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของการสร้างสรรค์ผลงานว่า สมัยเด็กที่บ้านเปิดเป็นอู่ซ่อมรถ ได้ลงมืออ๊อกเหล็กตั้งแต่วัยประถม ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึี่งที่บ้านอยู่ใกล้วัดและโบราณสถานต่างๆ จึงทำให้กลายเป็นคนชอบความเป็นไทย หลังจากนั้นจบการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เริ่มประกอบอาชีพด้านการออกแบบสถาปัตฯ และเกิดความรู้สึกอยากจะทำอะไรที่ตัวเองชอบจึงนึกถึงงานเหล็ก เพราะเป็นงานที่ถนัดและรักมาตั้งแต่เด็ก ผลงานที่ทำออกมาตั้งชื่อว่า ประติมากรรม “เหล็กคง” ชื่อเดียวนามสกุล โดยใช้ความพยายามจนเกิดผลงานชิ้นแรกคือ องค์พระพิฆเนศ และได้ลองนำผลงานไปเสนอตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนแต่ได้รับการปฏิเสธ จนได้มาเจอกับ สันติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ท่านเห็นคุณค่าของศิลปะและอยากให้คนไทยได้ไปแสดงผลงานระดับโลกสร้างชื่อในระดับโลก จึงได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการนำผลงานไปจัดแสดงในครั้งนี้
 
          “การสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นจะเป็นคนคัดเลือกวัสดุจากโรงงานเหล็กเอง ซึ่งทางโรงงานให้มาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพราะเห็นว่านำเหล็กไปทำสิ่งที่มีคุณค่า หลังจากนั้นจะนำมาเปลี่ยนรูปและขึ้นรูปเป็นตัวละครต่างๆ โดยไม่ต้องมีการร่างในกระดาษ ระยะเวลาในการทำขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน ถ้าเป็นตัวเล็ก ใช้เวลาประมาณ 1 วัน หรือขนาดใหญ่เท่าตัวคนอาจจะใช้เวลาหลายเดือน จุดเด่นผลงานคือโครงเหล็กที่ดูพริ้วไหว คงเอกลักษณ์ในแบบไทย แสดงออกถึงอารมณ์ตัวละครจากสีหน้า ท่าทาง ดูมีชีวิต ศิลปะคือการคิดนอกกรอบตลอด ศิลปะไม่มีต้นแบบ ไม่มีขีดจำกัด” ศิลปินหนุ่มกล่าว
โดยนิทรรศการเดี่ยวในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “บรรเจิด เหล็กคง อะ โซโล เอ็กซิบิชั่น” ได้คัดเลือกประติมากรรมเหล็กที่มีความพิเศษเฉพาะตัวจำนวน 15 ชิ้น ได้แก่ ทศกัณฐ์ท่ายืนสู้รบและท่านั่งเจรจา, สิงห์, หนุมานไทยและหนุมานบาลีหยอกเย้า, หนุมานสู้รบกับวิรุณจัมบัง, หนุมาน (ใหญ่เท่าคนจริง), หนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน, 11 พญาวานรต่อกายเป็นช้างสามเศียรเดินสะบันงวง, มวยไทย, ฤาษีนารอด, เศียรพระพิฆเนศ, องค์พระพิฆเนศ 16 กร, พระรามแผลงศร และ นกฮูกขย้ำดวงจันทร์ นกอินทรีขย้ำพระอาทิตย์ จัดแสดงวันที่ 20 พ.ค. - 9 ม.ย. 2559 ที่ อโกร่า แกลเลอรี สหรัฐอเมริมา