
สืบจากศพล่าบอดี้เแพ็กเกอร์ขนไอซ์ข้ามโลก
สืบจากศพล่าเครือข่ายยาเสพติด บอดี้เแพ็กเกอร์ขนไอซ์ข้ามโลก : เรื่องเล่าข่าวดัง โดยทีมข่าวอาชญากรรม
กระเป๋าสีดำถูกนำมาทิ้งในคลองโอ่งอ่างใกล้แยกสำราญราษฎร์ เขตพระนคร คงไม่แตกต่างจากขยะชิ้นอื่นๆ ที่ถูกคนมักง่ายนำมาทิ้งในแหล่งน้ำ หากเมื่อช่วงสายของวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา แรงงานชายชาวเมียนมาร์ที่พักอาศัยอยู่ในละแวกนั้นจะไม่ทันสังเกตเห็นพฤติกรรมของตัวเงินตัวทองที่พยายามฉีกกระเป๋าสีดำใบนั้นจนเห็นศพที่ถูกซุกอยู่ในกระเป๋าใบนั้น
หลังจากเห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าใบนี้คือ ศพชายชาวเมียนมาร์รายนี้ จึงแจ้งให้พนักงานร่วมบริษัท ซึ่งเป็นคนไทยแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้อาจถูกฆ่าแล้วนำมาทิ้งแหล่งน้ำเพื่ออำพรางคดีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะศพมีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมหลายแห่ง
แต่ร่องรอยบาดแผลที่ปรากฏอยู่บนศพนั้น ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้ชันสูตรศพว่า ไม่ได้เกิดจากอาวุธ แต่เป็นบาดแผลที่เกิดจากเล็บและเขี้ยวของตัวเงินตัวทองที่พยายามจะกัดกินศพ และเมื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดพบยาไอซ์จำนวน 58 ก้อน ในท้องและช่องทวาร และยังมีอีกบางส่วนที่แตก เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต เพราะร่างกายได้รับสารเสพติดมากเกินไป
ลักษณะการเสียชีวิตแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ในกลุ่มชาวต่างชาติที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในไทย หรือที่เรียกกันว่า “ม้า” ประเด็นการสืบสวนหาเบาะแสของคนตายจึงถูกมุ่งไปในกลุ่มขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มตะวันออกกลาง
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น.ซึ่งกำกับดูแลงานด้านสืบสวน ระดมกำลังนักสืบในสังกัด ได้แก่ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ต.จักริน พิริยะ จิตตะ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมทีมงาน ประสาน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ที่มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.บก.สส.สตม. และ ร.ต.ท.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ รองสว.กก.สส.สตม. เร่งติดตามหาเบาะแสของคนตาย
ตำรวจตรวจสอบแหล่งที่มาของกระเป๋าสีดำ ยี่ห้อ PODIUM ซึ่งถูกใช้บรรจุศพ พบว่าในละแวกนั้นมีขายอยู่เพียงร้านเดียวคือ ร้านบางกอกแฟชั่นส์ จึงสอบถามนายสัตนาม ซิงค์ เจ้าของร้านทราบว่า วันที่ 1 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 19.00 น. มีชายชาวต่างชาติซื้อกระเป๋ายี่ห้อ PODIUM ไปจากร้าน
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางของชายชาวต่างชาติรายนี้ กระทั่งทราบว่า เข้าไปยังโรงแรมบูรพา และมีกล้องวงจรปิดหน้าลิฟต์ชั้น 1 เวลากล้อง 19.42.23 น. เวลาจริง 19.46.15 น. พบชายคนนี้ถือถุงสัมภาระสีเขียว ภายในบรรจุวัตถุคล้ายเป้สีดำ เดินเข้าไปในลิฟต์ ขึ้นไปที่ชั้น 5 ก่อนจะเข้าห้องพักหมายเลข 520 และเมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าพักห้องนี้พบว่าเป็น นายทานดิน วังชุก อายุ 31 ปี สัญชาติภูฏาน หมายเลขหนังสือเดินทาง G053687 เดินทางเข้าไทยมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 เวลา 07.38 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี0314 จากเมืองกัลกัตตาหรือโกลกาตา รัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย โดยแจ้งที่พักในไทยคือโรงแรมบูรพา
ในวันเข้าพักที่โรงแรม ชายชาวภูฏานรายนี้ยืนรอเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์โรงแรมพร้อมกับพวกรวม 6 คน โดยมีภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมเป็นหลักฐาน โดยเปิดห้องพัก 2 ห้อง โดย นายทานดิน วังชุก ได้เปิดห้องพัก เลขที่ 704 และเพื่อนที่มาด้วยเปิดห้องพัก เลขที่ 502 โดยใช้หนังสือเดินทางชื่อ นายปีมา คานฏู อายุ 51 ปี สัญชาติภูฏานหนังสือเดินทาง G073638 เป็นหลักฐานในการขอเปิดห้องพัก เมื่อตรวจสอบพบว่า นายปีมา คานฏู เดินทางเข้าไทยมาพร้อมกับ นายทานดิน วังชุกk ส่วนอีก 4 คน คือ นางโซนัม ซาม อายุ 23 ปี สัญชาติภูฏาน หนังสือเดินทาง G602335 นายอูเกน เทียริ่ง อายุ 46 ปี สัญชาติภูฏาน หนังสือเดินทาง G085368 นางดีเชน ดีมา อายุ 31 ปี สัญชาติภูฏานหนังสือเดินทาง G061073 และ นายคินซาง อายุ 34 ปี สัญชาติภูฏาน หนังสือเดินทาง G062338
การตรวจสอบพบว่า ในกลุ่ม 6 คนที่เดินทางมาด้วยกันนี้ ผู้ที่พักอยู่ที่ห้อง 502 ได้เช็กเอาท์ออกไปจากโรงแรมบูรพา แล้วเดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 18.46 น. โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ คิวแซด0253 เดินทางไปยังเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนห้อง 704 พบว่า วันที่ 1 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 16.00 น. มีการย้ายห้องมาพักอยู่ห้อง นายทานดิน วังชุก, นางโซนัม ซาม, นายอูเกน เทียริ่ง และพบว่า นางโซนัม ซาม เดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 19.39 น.โดยสายการบิน คิวแซด0253 เดินทางไปยังเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลการเดินทางของ นางโซนัม ซาม พบว่า ได้เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยในวันที่ 3 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 20.43 น. โดยสายการบิน คิวแซด0252 จากเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และเดินทางออกไปอีกครั้งวันที่ 7 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 06.24 น. โดยสายการบิน ทีจี0323 ไปกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงรปิดภายในโรงแรมบูรพาเพิ่มเติมพบว่า มีชายชาวต่างชาติที่พักในห้อง 518 เดินเข้าไปในห้อง 520 ในวันที่ 1 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 17.46 น. ซึ่งเป็นการเข้าห้องในขณะที่มี นายทานดิน วังชุก, นางโซนัม ซาม, นายอูเกน เทียริ่ง พักอาศัยอยู่ จึงน่าเชื่อว่ารู้จักกันและมีการติดต่อสัมพันธ์กัน น่าเชื่อว่ามีการแบ่งหน้าที่ในการทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เกี่ยวข้องกับยาไอซ์ ซึ่งต่อมาได้ตรวจพบภายในศพนายอูเกน เทียริ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบผู้เช่าพักห้อง 518 คือ นายฮารี บาฮาดูร์ ทามาง เข้าเมืองไทยเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 01.53 น. และเข้าพักที่โรงแรมบูรพาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 เวลา 08.00 น. โดยเช็กเอาท์ออกไปจากโรงแรมบูรพาในวันที่ 2 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 11.00 น.
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบพฤติการณ์ นายมาโรจ คูมาร์ ดากา ซึ่งพักอยู่ห้อง 602 เข้าไปในห้อง 520 และต่อมาวันที่ 2 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 01.39 น. ได้ช่วยเหลือ นายทานดิน วังชุก ในการขนกระเป๋าสีดำ ยี่ห้อ PODIUM ซึ่งภายในน่าจะบรรจุศพนายอูเกน เทียริ่ง ไปทิ้งคลองโอ่งอ่าง บริเวณสะพานดำรงสถิต ฝั่งโรงแรมมิรามา ซึ่งอยู่ใกล้กับ โรงแรมบูรพา ในวันที่ 2 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 01.47 น. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันว่า มีชายสองคน ซึ่งก็คือ นายทานดิน วังชุก และ นายมาโนจ คูมาร์ ดากา เป็นผู้ยกกระเป๋าสีดำ ยี่ห้อ PODIUM โยนลงคลองโอ่งอ่าง ซึ่งหลังจากนั้น นายทานดิน วังชุก ได้เรียกแท็กซี่โดยสารมุ่งหน้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางออกจากประเทศไทยวันที่ 2 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 03.08 น. โดยสายการบินสไปซ์เจ็ท เที่ยวบินที่ ทีจี0084 ไปยังเมืองกัลกัตตา รัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย ส่วน นายมาโนจ คูมาร์ ดากา หลังจากช่วยโยนศพลงคลองโอ่งอ่างแล้วได้กลับมาที่ห้องพักเลข 602 เก็บเสื้อผ้าเดินทางออกจากโรงแรมบูรพาไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และออกจากประเทศไทยไปวันที่ 2 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 07.37 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี0323 ไปกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
หลักฐานที่พบเชื่อว่า คนกลุ่มนี้คือม้า ที่เข้ามารับยาไอซ์จากเครือข่ายยาเสพติดที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน โดยปัจจุบันแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญมี 2 แหล่ง คือ แหล่งพระจันทร์เสี้ยว ในตะวันออกกลาง และแหล่งสามเหลี่ยมทองคำ รอยต่อระหว่างไทยและเพื่อนบ้านทางตอนเหนือ ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม
ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลของเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดกลุ่มนี้อย่างละเอียด เพราะก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏข้อมูลว่ากลุ่มลำเลียงยาเสพติดหรือที่เรียกกันว่าม้า ที่เข้ามาใช้ไทยเป็นจุดพักและกระจายยาเสพติดนั้น จะเป็นชาวภูฏาน ที่ผ่านมามักเป็นชาวต่างชาติกลุ่มผิวสี หรือหญิงไทย หรือหญิงฟิลิปปินส์ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายชาวผิวสี เป็นหลัก