
บาร์ซาตกรอบเอ็นริเกชี้สมควร
14 เม.ย. 2559
หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือ เจ้าบุญทุ่ม ยอมรับสมควรตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังออกนอกบ้านไปแพ้ ตราหมี 0-2 รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 ชี้ลูกทีมเล่นผิดฟอร์ม
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 วันที่ 13 เมษายน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ออกไปเยือน “ตราหมี” แอต.มาดริด ที่บิเซนเต กัลเดรอน หลังจากเกมแรกเอาชนะมาก่อน 2-1 แต่เกมนี้เจ้าถิ่นได้ประตูออกนำตั้งแต่นาทีที่ 36 จากการโหม่งของ อองตวน กรีซมันน์ ทำให้นำอยู่ในครึ่งแรก 1-0 ก่อนที่ครึ่งหลังก่อนหมดเวลา 2 นาที แอต.มาดริด มาได้ประตูย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาดจากจุดโทษของกรีซมันน์ ทำให้ แอต.มาดริด ชนะในเกมนี้ 2-0 และผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2
หลังจบการแข่งขัน หลุยส์ เอ็นริเก เทรนเนอร์ของบาร์เซโลนา ยอมรับว่าจากฟอร์มการเล่นของลูกทีมในเกมนี้สมควรแล้วที่จะต้องตกรอบ และมองว่า แอต.มาดริด เป็นทีมที่เล่นได้ดีกว่าจริงๆ แม้ว่าทีมของตัวเองจะครองบอลได้มากกว่าแต่หาจังหวะเข้าทำประตูได้น้อย
“พวกเขาใช้ความได้เปรียบจากความผิดพลาดของพวกเราและเข้ารอบไปได้ พวกเขาเล่นอย่างดีที่สุดที่พวกเขาทำได้ คือการตั้งรับในแดนตัวเอง พวกเขาทำได้ดีมาก พวกเขาเล่นได้อย่างครบเครื่องและเราขาดเรื่องความฟิต เราอยากคุมเกม แต่มันลำบากในการขึ้นบอล ผมขอแสดงยินดีกับแอตเลติโก มาดริด พวกเขาทำได้ดีกว่าพวกเรา”
“เราไม่สามารถสร้างโอกาสในพื้นที่อันตรายได้มากพอ เรารู้ว่าหนึ่งประตูนั้นสำคัญมาก เราครองบอลได้แต่ไม่มีอันตรายอะไรมากนัก ในครึ่งหลังเราเพิ่มคนในเกมรุก สร้างโอกาสได้ แต่มันก็ลำบาก เราอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ ทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่ผมก็ยังภูมิใจในตัวลูกทีมของผม แต่เราต้องดึงตัวพวกเราขึ้นมาให้ได้ เรายังเหลือลุ้นอีกสองการแข่งขันในตอนนี้และมีโอกาสที่ดีมากที่จะคว้าแชมป์ได้ แต่เราก็ยังต้องปรับปรุงกัน” เอ็นริเก กล่าว
ด้าน ดิเอโก ซิเมโอเน เทรนเนอร์ของ แอต.มาดริด หวังถึงขั้นการเป็นแชมป์ในถ้วยนี้ หลังจากที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าไม่ว่าจะเจอทีมใดในรอบรองชนะเลิศก็หนักทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี, “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด และ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค
“ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องรอบรองชนะเลิศมากไปกว่าชัยชนะ เราไม่มีทีมง่ายๆ ให้เจออยู่แล้ว ซิตี เป็นทีมที่มีพลังทางการเงิน และรีล มาดริด กับ บายเยิร์น ก็เป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ในการแข่งขันถ้วยนี้ สำหรับ แอตเลติโก ที่เข้ามาเป็น 4 ทีมที่ดีที่สุดของยุโรป เป็นก้าวย่างที่สำคัญ แต่เราอยากได้มากกว่านี้” ซิเมโอเน กล่าว
ขณะที่เกมอีกคู่ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จหลังจากบุกไปเสมอ “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิกา 2-2 เป็นเบนฟิกา ที่ออกนำก่อนนาทีที่ 27 จาก ราอูล คิมิเนซ นาทีที่ 27 แต่บาเยิร์น มาได้ 2 ประตูรวดจาก อาร์ตูโร บิดัล นาทีที่ 38 กับ โธมัส มุลเลอร์ นาทีที่ 52 ก่อนที่เจ้าถิ่นตีเสมอได้จาก อันแดร์สัน ทาลิสกา นาทีที่ 76 ทำให้ บาเยิร์น เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2
--------------------------
(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : AFP)