ข่าว

เรือโวถึงแชมป์ดับเปแอสเช1-0

เรือโวถึงแชมป์ดับเปแอสเช1-0

13 เม.ย. 2559

กุนซือ แมนฯ ซิตี โวถึงแชมป์แน่ หลังพาทีมผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้เป็นครั้งแรกจากการเฉือนชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2

 
                    ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 12 เมษายน “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทะยานเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ หลังเปิดรังซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เฉือนชนะ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส 1-0 โดยเจ้าบ้านมีโอกาสขึ้นนำไปก่อนจากลูกจุดโทษในนาที 30 ทว่า เซร์คิโอ อาเกโร กลับสังหารพลาด ก่อนจะมาได้ประตูชัยจาก เควิน เดอ บรอยน์ นาที 76 รวมผล 2 นัด แมนฯ ซิตี เป็นฝ่ายชนะ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นทีมจากอังกฤษทีมที่ 10 ที่ได้เข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของรายการนี้ต่อจาก ดาร์บี, ฟอเรสต์, แอสตัน วิลลา, สเปอร์ส, ลีดส์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และลิเวอร์พูล ส่วนปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องจอดป้ายเพียงรอบนี้ถึง 4 ปีซ้อน
 
                    หลังจบเกม มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ได้ทีคุยโวด้วยความมั่นใจว่าทีมของเขามีโอกาสคว้าแชมป์ได้เหมือนกัน แม้จะเคยโดนวิจารณ์เรื่องผลงานที่กระเด็นตกรอบไปก่อนอยู่ตลอด แต่ตอนนี้แมนฯ ซิตี สามารถยกระดับของตัวเองให้กลายเป็นสโมสรฟุตบอลระดับชั้นนำของยุโรปได้แล้ว จึงเชื่อว่าลูกทีมจะสามารถไปถึงตำแหน่งแชมป์ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดได้เสียที
 
                    “แน่นอนว่า แมนฯ ซิตี สามารถคว้าแชมป์ได้ เพราะผมคิดว่ามันคือหนึ่งในเป้าหมายหลักของสโมสรในทุกๆ ปี เราได้รับคำวิจารณ์ต่างๆ อยู่เป็นประจำ แต่เราก็มีการพัฒนาขึ้นในทุกๆ ปีด้วยเหมือนกัน ผมมั่นใจว่าเรามีโอกาสไปถึงตำแหน่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นมันจะยังเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของสโมสรต่อไปจนกว่าจะกลายเป็นจริง” เปเยกรินี กล่าว
 
                    ด้าน โลรองต์ บลองก์ กุนซือ “เปแอสเช” รู้สึกเสียดายที่ต้องตกรอบนี้อีกครั้ง เพราะลูกทีมเล่นได้ดีทั้ง 2 เกม แต่ฉวยโอกาสเอาไว้ไม่ได้เอง และมองว่า แมนฯ ซิตี เป็นเพียงแค่แขกรับเชิญในรอบรองชนะเลิศเท่านั้น เพราะจะต้องเจอศึกหนักในรอบต่อไปอย่างแน่นอน
 
                    “ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีทั้ง 2 นัด แต่เรายังขาดเรื่องความเฉียบขาด ผมผิดหวังที่เราต้องตกรอบนี้อีกแล้ว เราต้องแสดงความยินดีกับ แมนฯ ซิตี ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก แต่ผมคิดว่า พวกเขาคงจะเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญที่ได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ของบาร์เซโลนา, รีล มาดริด และบาเยิร์น มิวนิค ในรอบต่อไป” บลองก์ กล่าว
 
                    ส่วนผลอีกคู่ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน พลิกกลับมาเป็นฝ่ายผ่านรอบตัดเชือกได้สำเร็จ หลังเปิดรังซานติอาโก เบอร์นาบิว ไล่ต้อนชนะ “หมาป่า” โวล์ฟสบวร์ก ทีมดังจากศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี 3-0 ได้ทั้ง 3 ลูกจาก คริสเตียโน โรนัลโด ซัดแฮตทริกเหมาทั้งหมดในนาที 16, 17, 77 และยังนำเป็นดาวซัลโวจากการยิงไปแล้ว 16 ลูก รวมผล 2 นัด รีล มาดริด เฉือนชนะ 3-2 แซงผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
 
                    หลังจบเกม “ซิซู” ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือ “ราชันชุดขาว” เอ่ยปากชมลูกทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะโรนัลโด ที่ซัดแฮตทริกให้ทีมพลิกกลับมาเข้ารอบ แม้ก่อนเกมนี้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากผลนัดแรกที่แพ้ 0-2 แต่นักเตะทุกคนยังพร้อมเล่นด้วยความมุ่งมั่นจึงเป็นแรงผลักดันให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
 
                    “ผมพูดได้เลยว่าเราทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก แม้มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยก็ตาม ผมภูมิใจในตัวผู้เล่นทุกคน มันเป็นคืนค่ำที่พิเศษมาก ส่วน โรนัลโด ยังคงเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก เขาเป็นผู้เล่นคนพิเศษของเรา เพราะเกมนี้เขายิงได้ 3 ประตู และทำให้เราผ่านเข้าสู่รอบต่อไป” ซีดาน กล่าว
 
                    ด้าน ดีเตอร์ เฮคคิง กุนซือ “หมาป่า” ยอมรับว่า รีล มาดริด สมควรผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เพราะโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าทีมของเขา แม้จะรู้สึกเสียดายที่ต้องจอดป้ายเพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ลูกทีมทุกคนทำดีที่สุดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสียใจอะไร หากดูจากผลงานที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้แบบไกลเกินคาด
 
 
 
----------------------------
 
(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : AFP)