
มาร์คกำชับลูกพรรคระวังแจกของ
12 เม.ย. 2559
อภิสิทธิ์ กำชับลูกพรรคระวังแจกของ หลังทหารยึดกล่องยา ยันพร้อมให้ความร่วมมือ ด้าน หมอวรงค์ วอนดูที่เจตนา ชี้ ยา กับ ขันแดง เทียบกันไม่ได้
12 เม.ย.59 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารยึดกล่องยาสามัญประจำบ้านที่ติดสติ๊กเกอร์ภาพนายอภิสิทธิ์ พร้อมข้อความด้วยรักและห่วงใย พร้อมผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ที่บ้านพักของนายแพทย์ปรีชา มุสิกุล อดีต รมช.กระทรวงวิทยาศาสตร์ และอดีตส.ส.จังหวัดกำแพงเพชรหลายสมัย เมื่อวันจันทร์ที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า มีการแจกจ่ายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ให้ทำ ก็ได้บอกสมาชิกไปแล้วว่าไม่ให้ทำ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย เพราะไม่ได้มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ยังมี แว่นตา ปฏิทิน และของใช้อื่น ๆ แต่ไม่มีสัญลักษณ์การต่อสู้ใด ๆ ที่จะทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง จึงพร้อมให้ความร่วมมือ แม้แต่การเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อปฏิบัติภารกิจเมื่อมีการแจ้งไม่ให้เดินทางตนก็ให้ความร่วมมือทุกครั้งรวมถึงการห้ามไม่ให้จัดกิจกรรมใด ๆ ด้วย
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เปรียบเทียบกันไม่ได้ต้องดูที่เจตนาสำหรับยาที่พรรคแจก ก็เป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่เคยแจกเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมข้อความ “ด้วยรักและห่วงใย ลงชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งข้อความที่เขียน ก็สื่อชัดเจนครับว่า เป็นการสะท้อนถึงความห่วงใย และเยี่ยมเยียนตามปกติในช่วงเทศกาล หัวใจสำคัญคือ ข้อความไม่มีเจตนาเพื่อแอบแฝงยั่วยุ หรือกระตุ้นปลุกระดมใดๆ และผู้ลงชื่อก็ไม่ใช่นักโทษหนีคดี
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า แต่กรณีขันแดงนั้นประเด็นอยู่ที่ข้อความ “แม้สถานการณ์จะร้อน ขอให้พี่น้องได้รับความเย็น จากน้ำผ่านขันใบนี้ด้วยครับ” ข้อความมีความชัดเชนว่ามีเจตนาเพื่ออะไร เป็นการสื่อเชิงกระตุ้น ยั่วยุ ปลุกระดม ประชดประชัน แบบมีนัยยะแอบแฝงชัดเจน ที่สำคัญผู้ที่ลงชื่อก็กลายเป็นนักโทษหนีคดี ที่เหิมเกริมในอำนาจ
“ผมคิดว่าระหว่างยากับขันแดง อย่านำมาเปรียบเทียบกัน จะเอามาเป็นข้ออ้างว่า ถ้าไม่ให้แจกขันแล้ว ต้องห้ามแจกยาด้วยคงไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องดูที่เจตนาครับ เพราะถึงจะมองว่าเป็นเชิงสัญลักษณ์เหมือนกันแต่เจตนานั้นต่างกัน ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีเจตนายั่วยุ ปลุกปั่น แม้จะเป็นพรรคการเมืองก็เพียงแค่เยี่ยมเยียน แต่ของเพื่อไทยนั้น คำพูดนั้นส่อเจตนาชัดเจน ใครที่อ่านหนังสือออกก็รับรู้ว่าต้องการสื่อสารเพื่ออะไรผมก็เข้าใจว่า การใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่คงต่างกัน บางท่านไม่มีประสบการณ์หรือเกรงข้อครหาก็ริบไปเลย บางท่านก็แนะนำ ไม่ได้ยึด เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาเลือกปฏิบัติ ผมคิดว่าจากนี้ไป คสช.คงต้องตั้งหลักให้ดีในการให้สัญญาณเรื่องความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่างๆ เพราะ ต้องดูเจตนาเป็นหลักครับ” นพ.วรงค์ กล่าว