
คสช.ไม่สน 2 พรรคใหญ่คว่ำรธน.
12 เม.ย. 2559
คสช.ไม่สน 2 พรรคใหญ่คว่ำ รธน. ส่ง ฉก.เคลียร์ทุกปม - วางแผนรับมือหากไม่ผ่าน : โดย...ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน
“รัฐบาล-คสช.” ได้กำหนดให้เดือนสิงหาคม เป็นเดือนแห่งการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่มีการการันตีจาก “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุด และเหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองในยุคเปลี่ยนผ่านการปฏิรูปประเทศ แม้ว่าขณะนี้ “พรรคเพื่อไทย” ขั้วใหญ่ทางการเมืองจะประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ขณะที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ยังคงเล่นบทแทงกั๊กอยากจะรับแต่มีเงื่อนไขอยู่ก็ตาม
แต่ “รัฐบาล-คสช.” ยังคงเดินหน้าในการรณรงค์และทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้ได้รับรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในทุกพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการจัดชุดเฉพาะกิจ ชนิดทำความเข้าใจแบบตัวต่อตัวบ้าง หรือแบบประชาคม ซึ่งไม่ได้มีการเจาะจงว่าจะเป็นพื้นที่สีแดง สีเขียว หรือสีเหลือง หรือเป็นพื้นที่กลุ่มก้อนของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งชุดเฉพาะกิจก่อนลงพื้นที่จะต้องทำความเข้าใจกับร่างธรรมนูญฉบับดังกล่าวก่อน
นายทหารจากด้านการข่าวจากชุดเฉพาะกิจที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เล่าให้ฟังว่า ก่อนลงพื้นที่ชุดเฉพาะกิจจะต้องศึกษา และทำเข้าใจกับรัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐบาลและคสช.ต้องการให้ประเทศไทยมีการขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาในอดีต เมื่อชุดเฉพาะกิจทำความเข้าใจแล้ว ก็จะสุ่มเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนเพื่อให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของร่างรัฐธรรมนูญ
“การลงพื้นที่ก็ไม่ได้มีอะไรมากและไม่ได้กดดันหรือชี้นำอะไร เพราะปกติชุดเฉพาะกิจที่ลงไปในพื้นที่ก็พบปะกับประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะจะใช้ชุดเดียวกับการช่วยเหลือประชาชนตามภาคประชาคม ทั้งช่วยภัยแล้งหรือแจกเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งเราจะใช้การสื่อสารด้วยถ้อยคำง่ายๆ เพื่อถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจมากที่สุด”

นายทหารคนเดียวกันนี้ บอกด้วยว่า การลงพื้นที่ชุดเฉพาะกิจจะต้องแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันในหมู่บ้านที่ชุดเฉพาะกิจลงไปทำความเข้าใจว่าวันนี้มีเรื่องจะพูดคุยกับประชาชนในเรื่องใดบ้าง ไม่ได้ว่าอยากจะไปจุดไหนก็ไป ซึ่งเราจะดำเนินการคล้ายกับเสียงตามสาย เอาเวลาที่เหมาะสมมานั่งพูดคุยกัน แม้แต่ในเวลาค่ำคืนก็มีการพูดคุยกันมาแล้ว
“การทำความเข้าใจจะเสนอจุดเด่นและข้อดีของรัฐธรรมนูญ ปี 2559 อาทิ การดูแลสิทธิของประชาชนที่ต้องการให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรมต่อทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับรายได้ รวมถึงการดูแลเฉพาะด้าน เช่น เด็ก สตรี คนชรา และคนพิการ โดยไม่ลด ไม่ตัด ไม่จำกัดสิทธิ์ และยังให้สิทธิ์เพิ่มขึ้น” นายทหารคนเดียวกัน เล่า
นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึงกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ต้องดูแลสิทธิและเสรีภาพของประชาชน คือประชาชนมีสิทธิและรัฐมีหน้าที่ดูแลให้ประชาชนได้รับสิทธินั้นอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและเป็นธรรม ส่วนการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องการสร้างระบบและกลไกที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ และใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในการป้องกันการตรวจสอบ และการปราบปราม เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ และป้องกันไม่ให้คนที่ทุจริตคอร์รัปชั่นลอยนวล หรือกลับเข้ามามีอำนาจได้
นายทหารจากชุดเฉพาะกิจ กล่าวอีกว่า ยังมีการรับรู้การพัฒนาคน และทรัพยากรบุคคลของชาติ โดยให้ความสำคัญกับสิทธิในการได้รับหรือเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมตั้งแต่ศึกษาขั้นพื้้นฐาน หรือแรกเริ่ม ตั้งแต่อนุบาลขึ้นไปโดยรัฐมีหน้าที่สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผ่านกองทุนและงบประมาณที่เหมาะสม รวมถึงการพัฒนากฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย ที่สำคัญคือการพัฒนาประชาธิปไตยและการพัฒนาประเทศ โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์แนวทาง และกลไกการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศที่ชัดเจน
สิ่งที่บอกกล่าวกับประชาชน สำหรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้คือเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ได้มากกว่าที่เคยมี เช่น การกำหนดอนาคตชุมชนท้องถิ่นและอนาคตของประเทศไทยได้ด้วยตัวเอง โดยให้อำนาจประชาชนมากขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมแบบประชารัฐในการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาและการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ตามแนวทางประชาธิปไตย

หัวใจสำคัญในการทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น นายทหารผู้นี้ได้อธิบายว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตยที่สามารถกินได้ ใช้ได้ และได้มากกว่าที่เคย โดยร่างรัฐธรรมนูญที่กินได้ คืออยู่ดีกินดี มีกินมีใช้มากขึ้น โดยกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนทุกระดับให้ดีขึ้น โดยเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐและเม็ดเงินในการลงทุนได้ง่ายและเท่าเทียมกันมากขึ้น
“ร่างรัฐธรรมนูญที่ใช้ได้จริง คือประชาชนเป็นใหญ่ การเมืองใสสะอาดได้จริง โดยสร้างระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็ง และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถใช้อำนาจของตนในการตรวจสอบการทำงานของรัฐ นักการเมือง และถอดถอนเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่น ใช้เงินผิดประเภทหรือใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องได้ง่ายขึ้น” เขา ระบุ
นายทหารด้านการข่าวของชุดเฉพาะกิจ สรุปว่า จากการลงพื้นที่ แม้ในพื้นที่ที่อยู่ในการครอบงำของพรรคการเมือง ที่ประกาศว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่นายทหารที่ลงภาคสนามก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ และมั่นใจว่าประชาชนมีความเข้าใจเนื้อหาและโครงสร้างของรัฐธรรมนูญใหม่มากพอที่จะให้พรรคการเมืองชี้นำ
แต่ในขั้นประชามติ รัฐธรรมนูญใหม่นี้จะผ่านหรือไม่ นายทหารผู้นี้ สรุปเพียงประโยคสั้นๆ ว่า "ยังคงมีปัจจัยแทรกซ้อนๆ หลายอย่างที่ไม่อาจกะพริบตา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น การลงประชามติอาจไม่ผ่าน หรือบางทีอาจจะไม่มีการลงประชามติก็ได้เช่นกัน แต่คสช.ก็มีแผนรองรับไว้แล้ว อาจนำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ที่ "บวรศักดิ์ อุวรรณโน" อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญมาผสมกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ "มีชัย" ก็เป็นไปได้
---------------------------
(คสช.ไม่สน 2 พรรคใหญ่คว่ำ รธน. ส่ง ฉก.เคลียร์ทุกปม - วางแผนรับมือหากไม่ผ่าน : โดย...ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน)