
บิ๊กตู่ปลื้ม!คนไทยอ่านนานขึ้น66นาทีต่อวัน
09 เม.ย. 2559
สรรเสริญ เผย นายกฯ ปลื้ม!คนไทยอ่านหนังสือนานขึ้น 66 นาทีต่อวัน มอบ สธ.-พม. ส่งเสริมหญิงตั้งครรภ์อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ขอบคุณทุกภาคส่วนช่วยรณรงค์รักการอ่าน
9 เม.ย.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบสถิติการอ่านของคนไทย จากการแถลงข่าวนำเสนอผลสำรวจการอ่านของประชากรคนไทย พ.ศ.2558 โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเอ พาร์ค) และรู้สึกยินดีที่คนไทยให้ความสำคัญกับการอ่านมากขึ้น โดยมีเวลาการอ่านเฉลี่ย 66 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556 ที่อ่านเพียง 37 นาทีต่อวัน ทั้งนี้ นายกฯ ปรารภว่า การอ่านทำให้คนรอบรู้และฉลาดขึ้น หลายคนรู้จักใช้ประโยชน์จากการอ่านในการสร้างอาชีพจนมีฐานะร่ำรวย แม้จะไม่ได้รับการศึกษาที่สูงนัก ในปัจจุบันการอ่านไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในหนังสืออย่างเดียว แต่ยังมีสื่อประเภทอื่น เช่น สื่อออนไลน์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ อีเมล์ ฯลฯ ที่คนนิยมใช้มากขึ้น เพื่ออ่านข้อมูลที่มีสาระ ไม่นับรวมข้อความการสนทนาหรือติดต่อสื่อสาร และต้องอ่านอย่างมีวิจารณญาน รู้จักสืบค้นข้อมูลจากรอบด้าน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือถูกชักจูง
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า โดยปกตินายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่รักการอ่านมาก ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ทุกวันนี้ท่านจะอ่านหนังสือพิมพ์วันละหลายฉบับ รวมถึงหนังสือที่ส่วนราชการต่างๆ เสนอขึ้นมา รวมทั้งยังติดตามข่าวสารและสาระที่มีประโยชน์จากเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์อีกหลายประเภท ดังนั้น จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการอ่านของคนไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี มีเวลาการอ่านนานขึ้น เป็น 34 นาทีต่อวัน จากเมื่อก่อน 27 นาที ขณะที่วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่ชอบอ่านมากที่สุดถึง 94 นาทีต่อวัน รองลงมาคือ วัยเด็กและวัยทำงานที่ชอบอ่าน 60 นาทีต่อวัน
“นายกฯ ฝากขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยตื่นตัวรักการอ่านมากขึ้น แต่ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งเสริมให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในครรภ์ 6-7 เดือนถึงปฐมวัย ซึ่งจะทำให้เมื่อโตขึ้นเด็กจะมีนิสัยรักการอ่าน แต่สิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจหรือยังเป็นจุดอ่อนการอ่านของคนไทย คือ การนิยมดูโทรทัศน์ และบางส่วนยังอ่านหนังสือไม่ออก นายกฯ จึงได้เน้นย้ำให้กระทรวงศึกษาธิการ เร่งส่งเสริมให้ผู้ที่ขาดโอกาสได้รู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ และควรเพิ่มพื้นที่สาระดีทางโทรทัศน์ให้แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัยให้มากขึ้น” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว