ข่าว

ทบ.เสียใจ!ชาวบ้านเก็บระเบิดบึ้มดับ5

ทบ.เสียใจ!ชาวบ้านเก็บระเบิดบึ้มดับ5

09 เม.ย. 2559

‘พ.อ.วินธัย’เผย ทบ.เสียใจเหตุชาวบ้านเก็บลูกระเบิดด้านสนามฝึกจนเกิดระเบิดเสียชีวิต คาดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ วอนนำระเบิดส่งคืนจนท. ยืนยันไม่เอาผิด -ทภ.3 พร้อมเยียวยา

 
       9 เม.ย. 59 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีมีชาวบ้านเก็บลูกระเบิดด้าน หรือระเบิดที่อาจยังทำงานไม่สมบูรณ์ในบริเวณพื้นที่สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 3 ณ อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย โดยเหตุการณ์แรก เกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 8 เม.ย. มีชาวบ้านคาดว่าน่าจะพยายามไปเก็บลูกระเบิดด้านที่บริเวณเป้าตำบลกระสุนตกของเครื่องยิงลูกระเบิด โดยเมื่อไปหยิบจับต้องแล้วจึงเกิดการระเบิดขึ้นทำให้เกิดการเสียชีวิตทันทีจำนวน 1 คน ส่วนอีกเหตุการณ์เกิดเมื่อ เวลาประมาณ 17.30 น. ของ 8 เม.ย.ได้เกิดการระเบิดขึ้น ณ บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 12 ตำบลโป่งแดง อ.เมือง. จ.ตาก คาดว่าเกิดจากการแอบเก็บลูกระเบิด ณ บริเวณเดียวกัน แล้วนำกลับไปไว้ที่บ้าน จากนั้นอาจจะมีการหยิบหรือขยับจึงอาจทำให้เกิดการระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ผู้พักอาศัยในบ้านเสียชีวิตจำนวน 4 คน บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บขณะนี้อยู่โรงพยาบาลแล้ว 
 
       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ซึ่งจากกรณีดังกล่าวคงเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการประกาศย้ำไปแล้วถึงอันตรายต่างๆ นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ปกติในบริเวณพื้นการฝึกของทหารถูกกันเป็นเขตพื้นที่อันตรายและเป็นเขตพื้นที่หวงห้ามที่มิให้ใครเข้าไปในบริเวณนั้น อีกทั้งกรณีก่อนและหลังการฝึก ทางเจ้าหน้าที่จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงอันตรายให้ราษฎรชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่รอบบริเวณได้ทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ต้องการให้มีการฝ่าฝืนมาตราการความปลอดภัย อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุทาง กองทัพภาคที่3 โดยหน่วยในพื้นที่ได้เข้าไปดูแลเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมแล้วในเบื้องต้น และเพื่อป้องกันเหตุเกิดซ้ำ ทางกองทัพภาคที่3 โดยหน่วยในพื้นที่จะมีการประชาสัมพันธ์ ให้กับราษฎรในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ที่อาจนำวัตถุระเบิดไปเก็บไว้ที่บ้าน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดอะไร ทั้งนี้เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้จัดส่งชุดเจ้าหน้าที่ EOD เข้าไปเพื่อทำการเก็บกู้
 
 
คสช.โต้ ‘เพื่อไทย’ กล่าวหาละเมิดสิทธิ ชี้บังคับใช้กฎหมายป้องเสรีภาพปชช.ไม่ให้ถูกละเมิด
 
 
       พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยได้เผยแพร่คำแถลงเรื่อง "หยุดสร้างบรรยากาศความหวาดระแวง ยุติการคุกคามสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน พร้อมระบุว่า ช่วงเวลา2 ปีที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ มีการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพของประชาชนว่า เป็นเพียงความเห็นเฉพาะกลุ่มมากกว่า การบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพนั้นคงไม่ใช่เรื่องการละเมิดสิทธิ กลับจะเป็นการรักษาสิทธิและป้องกันคนในสังคมจะถูกบุคคลหนึ่งบุคคลใดละเมิดมากกว่า และจากผลการปฏิบัติเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายของ คสช.ในช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างเห็นผลได้ชัดในหลายๆกรณี และเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎหมายด้วยความรอบคอบระมัดระวัง สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง ไม่สามารถให้ใครนำมาหยิบใช้เป็นเงื่อนไขเพื่อลดความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนกรณีคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 เป็นมาตราการเสริมเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นรายกรณี เท่าที่จำเป็นต่อการปกป้องสิทธิ และเพื่อประโยชน์ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับการแต่งตั้ง จะดำเนินการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง ตามแนวทางการปฎิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมายเสริมพิเศษเหมือนช่วงที่ผ่านมา  
 
       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า สำหรับกรณี ที่กล่าวว่าผู้มีอำนาจยังคงใช้ทหารเข้าควบคุมตัวบุคคลที่แสดงความคิดแตกต่างนั้น ยืนยันว่าการแสดงออกเชิงเห็นต่างยังคงทำได้ภายใต้กรอบหรือช่องทางที่เหมาะสม ที่สำคัญการแสดงออกนั้นต้องไม่ทำให้ถูกมองว่าเป็นการพยายามจุดประกายความขัดแย้ง หรือ สร้างการแตกสามัคคีแบ่งแยกคนในสังคม  
 
       “ไม่ใช่เห็นต่างแล้ว เจ้าหน้าที่จะไปดำเนินการเสมอนั้น คงไม่ใช่. ทั้งนี้การดำเนินการใดๆ เจ้าหน้าที่จะใช้ดุลพินิจอย่างมีเหตุมีผล ตามเจตนาและพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายนั้นอย่างเปิดเผย ซึ่งสามารถชี้แจงกับสังคมได้ถึงเหตุผลความจำเป็น” พ.อ.วินธัย กล่าว