
เมืองกรุงเก่ารับขวัญช้างพังนาตาลียิ่งใหญ่
ช้างพังนาตาลีสุดน่ารัก ถึงวังช้างอยุธยา ม.จ.หญิง พ่อเมือง ประชาชนร่วมรับขวัญยิ่งใหญ่ ไม่มีอาการดุร้ายอย่างที่คิด เจ้าของวังช้างจัดสถานที่เตรียมใช่วารีบำบัด
เมื่อเวลา 8.00 น.วันที่ 31 ก.ค.2552 ที่บริเวณเพนียดหลวงคล้องช้าง ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา มจ.หญิงรังสี นพดลยุคล ประธานมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงรังสีนพดล ยุคล เป็นองค์ประธานเดินนำพังนาตาลี ออกจากหมู่บ้านช้างไปยังเพนียดโดยมี นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวช รองผบก. นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานชมรมพระคชบาลและวังช้างอยุธยา นายสมบัติ เมทะนี นักแสดง และสว. และบรรดาควาญช้างเดินติดตาม เพื่อร่วมประกอบพิธีรับขวัญและปัดรังควาญช้างพังนาตาลี โดยช้างพังนาตาลีไม่ได้มีอาการดุร้ายหรือตื่นเต้น ซึ่งระหว่างการเดินทางพังนาตาลียังคงต้องใช้โซ่พันธนาการที่ขาหน้าทั้งสองข้าง เพื่อความปลอดภัย และมีช้างงาขนาดใหญ่เดินประกบและตามท้ายอีกจำนวน 9 เชือก
เมื่อถึงบริเวณทางเข้าเพนียดหลวงได้มีการประกอบพิธีพราหมณ์ โดยนายพจน์ พูลสวัสดิ์ ประธานยุวพุทธิกสมาคมพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้อ่านโองการ ขออนุญาตเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการนำช้างพังนาตาลีมาเลี้ยง จากนั้นพระครูเกษมจันทวิมล หรืออาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ได้นำพระสงฆ์ 4 รูปสวดเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นได้นำพังนาตาลีเดินรอดประตูป่าทางเข้าตัวเพนียด ซึ่งมีการตกแต่งเป็นซุ้มประดับด้วยกล้วย อ้อย หญ้าและมะพร้าว เมื่อรอดประตูป่าแล้วพังนาตาลี ได้ถอยหลังเข้ามาบริเวณเชิงเทิน เพื่อให้พระอาจาย์แดงได้ประกอบพิธีบังสกุลตาย และบังสกุลเป็น ก่อนที่จะเดินผ่านเชิงเทินเพื่อเข้าสู่ตัวเพนียด
โดยนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ใช้ไม้ซึ่งปลายไม้ติดด้วยไม้มงคลได้แก่ไม้มะยม ใบยอ ทำการพรมน้ำมนต์ เพื่อปัดรังควาญ จากนั้น ม.จ.หญิง รังสีนพดล ยุคล ได้ทรงประทานกระพรวนไว้ที่ขาซ้ายหน้าของพังนาตาลี และประทานระฆังทองคล้องคคอ ในขณะที่พระอาจารย์แดงได้นำตะกรุดเมตตามหานิยมที่ปลุกเสกเองมาคล้องคอพังนาตาลีด้วย จากนั้นได้ให้พังนาตาลีเดินเข้าสู่ประตูเพนีด เพื่อเดินวนทักษิณาวัฎ 3 รอบหอประกำ เพื่อบูชาพระเทวกรรม ก่อนที่จะนำช้างพังนาตาลีมายืนรับอาหารจากม.จ.หญิงรังสีนพดล และผู้มาร่วมงาน ซึ่งพังนาตาลีมีอาการสดชื่น สังเกตเห็นแววตามีความสุขมาก
นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เปิดเผยว่า ได้นำช้างพังนาตาลีมาถึงเพนียดเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 30 กค และได้นำไปล่ามเอาไว้ใต้ต้นไม้ในเพนียด โดยนำไปเล่นน้ำที่แม่น้ำลพบุรีที่อยู่ด้านหลัง พบว่าพังนาตาลีมีอาการสดชื่น เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ไม่พบความดุร้าย ซึ่งตนได้เตรียมที่จะใช้วิธีวารีบำบัดให้ลงไปเล่นน้ำบ่อยขึ้น และนำมาดูแลฝึกนิสัย ซึ่งหากว่านิสัยไม่ได้ดุร้ายอย่างที่ผ่านมา ก็อาจจะไม่ต้องแยกไปไว้ที่เกาะพระยาเพชรที่อยู่ตรงข้าม ซึ่งทุกคนก็พอใจมาก ส่วนเรื่องเงินที่รับบริจาคนั้นต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ สำหรับการจัดพิธีในวันนี้เป็นไปตามคติความเชื่อโบราณของชาวช้าง เป็นพีประวัติศาสตร์ที่รัชกาลที่ 5 ก็เคยทรงทอดพระเนตร แต่เพื่อความไม่ประมาท ตนก็เตรียมปืนยิงยาสลบเอาไว้ 3 กระบอก พร้อมทั้งฝึกช้างงาให้คอยคุมอยู่ 9 เชือก ซึ่งพิธีก็ผ่านไปด้วยดี
ด้านนายสมโชค ชูมวง อายุ 55 ปี ควาญช้างซึ่งตามมาจาก จ.ตรังและมีประสบการณ์ดูแลพังนาตาลี กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต้อนรับพังนาตาลี และเชื่อว่าพังนาตาลีจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแน่นอน