
ขอนแก่น ร่วมลงนาม สร้างจังหวัดต้นแบบ
ขับเคลื่อนโครงการ อย่าให้ใครว่าไทย
เครือข่ายอนาคตไทยจังหวัดขอนแก่น ผนึก 18 องค์กร ลงนามความร่วมมือ ขับเคลื่อนโครงการอย่าให้ใครว่าไทย หวังสร้างจังหวัดต้นแบบ ขจัดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ โกง-ฟุ้งเฟ้อ-มักง่าย-ขาดสติ เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับจังหวัด-ภูมิภาคอื่นต่อไป
เดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา เครือข่ายอนาคตไทย ซึ่งตั้งต้นด้วยองค์กรหลัก 6 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิมั่นพัฒนา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และสภาหอการค้าไทย เปิดตัวโครงการอย่าให้ใครว่าไทย โดยมีเป้าหมายในการกระตุ้นคนไทยให้ตระหนักถึงปัญหาเรื่องพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ (โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ) เพื่อนำไปสู่การปรับทัศนคติและลดเลิกนิสัยดังกล่าว อันจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทยและประเทศไทยเพื่อก้าวไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
ระยะแรกมีองค์กรเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่าย 86 องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ก่อนจะขยายเป็นกว่า 102 องค์กรในวันนี้รวมทั้งมีการขยายสู่ภูมิภาค โดยเริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีเครือข่ายกิจกรรมทางสังคมที่เข้มแข็งและครอบคลุมทุกภาคส่วน
ภายหลังการประชุมกันครั้งแรกช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่เทศบาลนครขอนแก่น โดยมีองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เข้าร่วมกว่า 16 องค์กร ภาคีเครือข่ายมีการระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองในการขับเคลื่อนรณรงค์ทางสังคม จนนำมาสู่การจัดการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย”ที่ทำการเทศบาลนครขอนแก่น ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ องค์กรที่เข้าร่วมประกอบด้วย 18 องค์กร ได้แก่ สำนักงานจังหวัดขอนแก่น, เทศบาลนครขอนแก่น, หอการค้าจังหวัดขอนแก่น, สภาอุตสาหกรรมขอนแก่น, ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยขอนแก่น, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวขอนแก่น,PhotoGangsKhonKaen, สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น, สมาคมศิษย์เก่าสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะศึกษาศาสตร์, บ้านชีวาศิลป์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น, Biz Club KhonKaen, สโมสรวอลเลย์บอล ไอเดียขอนแก่น, โรงแรมเซ็นทาราขอนแก่น, ชมรมเรารักพระราชาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, เครือข่ายแท็กซี่สนามบินขอนแก่นและ สมาคมจักรยานขอนแก่น
หวังสร้าง “จังหวัดต้นแบบ”
วรรณวิมล ศุภประเสริฐ เลขาธิการมูลนิธิมั่นพัฒนาในนามเครือข่ายอนาคตไทยกล่าวว่าเครือข่ายอนาคตไทย และเครือข่ายในจังหวัดขอนแก่น ต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญในการลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของคนไทย โดยการสนับสนุนให้ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเมือง
“การลงนามในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำความดี โดยคาดหวังว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีการประเมินผลให้เห็นในรูปธรรม ซึ่งจะทำให้เกิดความเจริญ ดีงาม มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน และขอนแก่นจะเป็นเมืองตัวอย่าง เพื่อให้จังหวัดอื่นๆ เป็นแหล่งเรียนรู้ต่อไป”
ศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจะดำเนินการสิ่งใดให้เกิดความยั่งยืนจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และด้วยความสมัครใจ ดังนั้น การสร้างเครือข่ายของผู้มีจิตอาสา เพื่อสร้างความสำนึกในการเป็นพลเมือง จึงต้องลงมือทำทันที และถือเป็นโอกาสอันดีที่เครือข่ายอนาคตไทยได้ร่วมลงนามความร่วมมือในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยหวังให้คนขอนแก่นได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีสร้างจิตสำนึกในความเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือนจังหวัดขอนแก่น อันจะยังประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดและประเทศชาติต่อไป
ชัชวาล พรอมรธรรมรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า เทศบาลมีนโยบายการพัฒนาเยาวชน ด้วยสโลแกน บุคลิก 5+1 คือ มีวินัย อดทน เอื้อเฟื้อ รับผิดชอบ กตัญญู และสำนึกรักท้องถิ่น สำหรับนักเรียน 11,000 คนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล โดยมีกิจกรรม “ตามหาคุณวินัย” เป็นการจัดประกวดหนังสั้นสำหรับเยาวชน และนำไปเผยแพร่ในชุมชน เพื่อปลุกจิตสำนึกเรื่องการมีวินัย เป็นต้น
รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า การร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคนขอนแก่นและเมืองขอนแก่นไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน
จิรทีปต์ ลี้ตระกูล รองประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ฝ่ายจรรยาบรรณและกฎระเบียบ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดขอนแก่น มีโครงการที่ดำเนินการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่โครงการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยความร่วมมือกับสมาคม ชมรมต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งที่ผ่านมา โครงการมีผลตอบรับที่ดี แต่ยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ ตนจึงหวังว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะสร้างให้เกิดรูปธรรมในการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
“นโยบาย คสช.(คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) มีความชัดเจนเรื่องปราบคอร์รัปชั่น ทำให้มีความหวังมากขึ้น มีคนสนับสนุนแนวคิดนี้และกล้าต่อต้านการทุจริตมากขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก”
พัฒนาเศรษฐกิจ คู่คุณธรรม
เข็มชาติ สมใจวงษ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น และผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรเอกชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตนมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเสวนาของเครือข่ายอนาคตไทยที่กรุงเทพฯ และเห็นว่า การขับเคลื่อนกิจกรรมของมูลนิธิมั่นพัฒนา เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ ตรงตามสภาพปัญหาของสังคมปัจจุบันในเรื่องค่านิยมไม่ถูกต้องที่ควรเร่งแก้ไข จึงได้ประสานงานกับมูลนิธิมั่นพัฒนาในการจะเชื่อมประสานการทำงาน โดยการพัฒนาเมืองขอนแก่นให้เป็นจังหวัดนำร่องในการรณรงค์ครั้งนี้
“สิ่งที่ผมมองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับจังหวัดขอนแก่น จากการดึงมูลนิธิมั่นพัฒนามาช่วยผลักดันโครงการอย่าให้ใครว่าไทย คือเครือข่ายอนาคตไทยได้เริ่มกระตุ้นให้เรามองเห็นภาพขององค์กรต่างๆ เทศบาล หรือท้องถิ่น ว่าต้องร่วมมือกันปฏิบัติ ขอนแก่นเริ่มต้นจาก 8 องค์กร ส่วนใหญ่เป็นองค์กรด้านเศรษฐกิจ เช่นหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว ชมรมธนาคารต่างๆ ที่มีการประชุมกันทุกเดือน เมื่อหยิบยกประเด็นนี้เข้าหารือในที่ประชุม ปรากฏว่าทุกคนเห็นด้วยที่จะร่วมขับเคลื่อนเมืองขอนแก่นให้ไปในทิศทางที่เหมาะสม ในตอนนี้ขอนแก่นมีการพัฒนาด้านการคมนาคม ขนส่ง และธุรกิจการค้า แต่สิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันคือการเสริมสร้างค่านิยมการเป็นคนดี ที่เริ่มต้นจากตัวเอง ครอบครัว และไปสู่สังคม”
นายเข็มชาติ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ สมาชิกเครือข่ายที่จะเริ่มต้นขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม ได้แก่ เครือข่ายแท็กซี่ ด้วยแนวคิดการเป็นเจ้าบ้านที่ดี จึงจะขอความร่วมมือไปยังเครือข่ายแท็กซี่กว่า 400 คันในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการเอาเปรียบผู้โดยสารเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามความร่วมมือ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมเสวนา“อย่าให้ใครว่าไทย” เพื่อส่งเสริมความคิดเรื่องของการจัดการการเงินในวัยเรียน โดยมีสโลแกนว่า คิดดี...มีตังค์ ที่โรงแรมเซ็นทารา ขอนแก่น โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น เข้าร่วมกว่า 600 คน โดยกิจกรรมมุ่งส่งเสริมความเข้าใจเรื่องวินัยทางการเงินสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทำงาน