
ศึกมรดก 'น้ำพริกเผาแม่ประนอม'
27 มี.ค. 2559
ศึกมรดก 'น้ำพริกเผาแม่ประนอม' : โดย...กมลชนก ทีฆะกุล
เปิดฉากความขัดเเย้ง กรณีเรื่องวุ่นวายว่าด้วยศึกสายเลือดระหว่างแม่ ลูก ในตระกูลแดงสุภา เมื่อ ประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอม ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหาลูกสาวคนโต ศิริพร แดงสุภา ร่วมกับ สุชาติ ภาษาประเทศ ลูกเขย ฮุบกิจการไปเป็นของตน
เนื้อหาของหนังสือได้บ่งบอกรายละเอียดถึงที่มาของธุรกิจว่า ประนอมและ ศิริชัย แดงสุภา สามี เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุง ได้แก่ น้ำพริกสำเร็จรูป น้ำจิ้ม น้ำพริกแกง น้ำพริกเผา และเครื่องปรุงสำเร็จ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “แม่ประนอม”
ต่อมาได้ดำเนินธุรกิจในรูป ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุตสาหกรรมพิบูลย์ชัย โดยมีสำนักงานและโรงงานตั้งอยู่เลขที่ 113/1-2 หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร เริ่มจากผลิตสินค้าชนิดเดียว คือ น้ำพริกบรรจุขวด ภายใต้เครื่องหมายการค้า “แม่ประนอม” ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองมาตลอด
ในปี 2537 ทั้งคู่ได้สร้างโรงงานขึ้นใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิต ที่หมู่ 12 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ และดำเนินธุรกิจมาถึงปัจจุบัน โดยการบริหารงานเป็นการดำเนินการภายในครอบครัว ประนอมและสามีได้มอบหมายให้ศิริพร บุตรสาวคนโต เป็นกรรมการและบริหารงานแทน
ล่วงเลยมาถึงปี 2544 บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ได้เพิ่มทุนเป็น 59,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นส่วน 59,000 หุ้น คือ ศิริพร มีหุ้นจำนวน 20,000 หุ้น, ศิริชัย มีหุ้น 20,000 หุ้น, ประนอม มีหุ้น 18,200 หุ้น และ ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง มีหุ้น 350 หุ้น
จนเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 หัวเรือใหญศิริชัยเสียชีวิตลง ศาลได้แต่งตั้งให้ ประนอม เป็นผู้จัดการมรดกของศิริชัย กระทั่งปี 2558 ประนอมทราบว่าศิริพรได้ปลอมหนังสือมอบอำนาจจากเธอไปโอนที่ดินกองมรดกเป็นของตนเอง ซึ่งเธอเองได้ขอให้บุตรสาวโอนที่ดินคืน แต่ลูกสาวคนโตไม่ยินยอม
ประนอมอ้างว่า ศิริพร และสุชาติ ภาษาประเทศ บุตรเขย ฮุบกิจการ “น้ำพริกเผาแม่ประนอม” ไปเป็นของตน โดยศิริพรทำการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ทั้งหมด ตัดเธอ สามี(ศิริชัย) และบุตรคนอื่นๆ ออกจากรายชื่อผู้ถือหุ้น แล้วใส่ชื่อ ศิริพร และสุชาติ พร้อมทั้งบุตรสาวของทั้งคู่เป็นผู้ถือหุ้นแทน
หากมองย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นธุรกิจของครอบครัวนี้ เกิดจากฝีมือในการทำอาหารของ “แม่ประนอม” ที่ได้ทำน้ำพริกเผาเดินเร่ขาย ประกอบกับ ศิริชัย ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานเป็นพนักงานขายบริษัท ดีทแฮล์มฯ มาก่อน มองการณ์ไกลคิดว่าในอนาคตข้างหน้า ผู้คนจะไม่ค่อยปรุงอาหารกินเอง จึงเกิดไอเดียทำน้ำพริกเผาบรรจุขวดแก้วขาย
หลังลูกค้าตอบรับดี ในปี 2502 จึงเริ่มก่อสร้างโรงงานใช้ชื่อ “หจก.อุตสาหกรรมพิบูลย์ชัย จำกัด” บนพื้นที่ 4 ไร่ ตั้งในหมู่บ้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งขยายตลาดไปต่างจังหวัด รวมถึงไปตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ รู้จักน้ำพริกแม่ประนอมเป็นอย่างดี
กิจการที่อยู่ในช่วงขาขึ้นประกอบกับหัวคิดทางธุรกิจของทั้ง 2 คน จึงสั่งเครื่องจักรทันสมัยจากประเทศเยอรมนีมาเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมกับแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามมา อาทิ น้ำจิ้มไก่ เครื่องแกงสำเร็จรูปเครื่องปรุงรส ภายใต้เครื่องหมายการค้าตรา “แม่ประนอม” อีกว่า 60 ชนิด ได้คุณภาพมาตรฐานสากล
เมื่อสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด จึงได้ตั้งโรงงานแห่งที่ 2 พื้นที่ 30 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ในนาม บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด เมื่อปี 2537
ในยุคแรกของการประชาสัมพันธ์กิจการ ใช้วิธีขึ้นป้ายบนโปสเตอร์ เขียนลงผ้าใบ ใบปลิว แจกตามงานดนตรีลูกทุ่ง ต่อมาเริ่มโฆษณาผ่านวิทยุกระจายเสียง ทีวี ลงโฆษณาตามนิตยสาร และสิ่งพิมพ์ชั้นนำ เจาะกลุ่มแม่บ้านที่เป็นผู้ประกอบอาหารในครอบครัว
การตลาดในประเทศของ “แม่ประนอม” เน้นจัดจำหน่ายผ่านยี่ปั๊ว และโชห่วย ค้าขายแบบเงินสด รวมถึงมีคนขับรถตู้ตระเวนออกไปจำหน่ายตามต่างจังหวัด เรียกได้ว่า ผลิตภัณฑ์แม่ประนอม มีวางขายครบทุกตำบลในเมืองไทย ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดมีอยู่บ้าง ปัจจุบันจำหน่ายในประเทศ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่งออก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ รู้จักแม่ประนอมเป็นอย่างดี
สำหรับจุดเด่นผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของ “แม่ประนอม” คือ สด สะอาด อร่อย ไม่เจือสี แต่งกลิ่น ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยอย่างสูงสุด เพราะโลโก้บนผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องการันตี และทุกสูตรของน้ำพริกจะมาจากฝีมือการปรุงรสของแม่ประนอมเอง
จากการเติบโตของเศรษฐกิจ จากที่ไม่เคยมีน้ำพริกสำเร็จรูปวางขาย ปัจจุบันมีวางจำหน่ายหลายสิบยี่ห้อ ทั้งโอท็อป และบรรดาเอสเอ็มอีหน้าใหม่ แต่แม่ประนอมก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่ง ตลาดเครื่องแกงและน้ำจิ้มมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 40
ผลประกอบการปี 2557 มีรายได้รวม 803.342 ล้านบาท รายจ่ายรวม 772.673 ล้านบาท กำไรสุทธิหลังหักภาษี 24.502 ล้านบาท
มีรายงานว่า ประนอมกับศิริชัย มีบุตรด้วยกัน 4 คน โดย ศิริพรเป็นลูกคนโต คนรองเป็นชายเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนที่ 3 และ 4 เป็นหญิง
ศิริวัลย์ลูกคนที่ 3 บอกว่า มารดายื่นฟ้องพี่สาวคนโตตั้งแต่ปี 2556 เรื่องเกี่ยวกับมรดกและการเอาทรัพย์สินคืน โดยเรื่องมรดกได้ฟ้องศาลอาญาว่าหลอกให้มารดาเซ็นโอนที่ดินให้ 60 ไร่ ส่วนการฟ้องศาลแพ่งถอนคืนเพราะเหตุประพฤติเนรคุณ เพื่อเอาคืนทรัพย์สิน ทั้งกิจการและโรงงาน ทั้งหมดรวมมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท
ด้วยความรัก เชื่อใจในตัวลูก ประกอบกับเป็นคนมีการศึกษาน้อย จบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จึงทำให้แม่ประนอมยอมเซ็นเอกสารทุกอย่างที่ลูกสาวคนโตนำมาให้โดยมิได้อ่านอย่างถ่องแท้ อีกทั้งด้วยหัวใจของความเป็นแม่จึงอยากให้เรื่องจบลงด้วยดี
“สิ่งที่พูดเป็นความจริงทั้งหมด ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้รับความลำบากเเละอึดอัด เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของลูกสาวคนโต และอยากให้ปัญหาภายในครอบครัวยุติลงจึงเซ็นเอกสาร แต่มาทราบภายหลังว่าเอกสารดังกล่าวระบุว่าตัวเองไม่รับทรัพย์สินหรือมรดกใดๆ" แม่ประนอมกล่าวอย่างท้อใจ
ความรู้สึกที่กดดันและอึดอัดใจกับพฤติกรรมของคนในบ้านมานานกว่า 1 ปี เธอจึงตัดสินใจเก็บข้าวของออกจากคฤหาสน์ไปทำร้านอาหาร “PS Restaurant อาหารไทยตำรับแม่ประนอม” ร่วมกับ ศิริวัลย์ บุตรสาวคนรอง
57 ปีของเส้นทางน้ำพริกเผา จากความอุตสาหะในการหาบเร่ขาย พัฒนาตามยุคสมัยแตกผลิตภัณฑ์ขึ้นชั้นแบรนด์ระดับโลก มูลค่าทรัพย์สินร่วม 5,000 ล้านบาท ยังคงเฉิดฉายในแวดวงอาหารโลก
แต่เรื่องราวของคดีความที่ฟ้องร้องและอยู่ในชั้นศาล คงจะเป็นมหากาพย์กันอีกยาว...!!!
--------------------
(ศึกมรดก 'น้ำพริกเผาแม่ประนอม' : โดย...กมลชนก ทีฆะกุล)