
หลักคิดดีๆผ่านบทพระราชนิพนธ์'สายไปเสียแล้ว'
21 มี.ค. 2559
หลักคิดดีๆ ผ่านบทพระราชนิพนธ์ สายไปเสียแล้ว
หลังจากสถาบันกันตนาขอพระราชทานราชานุญาตเชิญบทพระราชนิพนธ์ “สายไปเสียแล้ว” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาผลิตเป็นผลงานภาพยนตร์สั้น โดยนักศึกษาวิชาเอกด้านการผลิตภาพยนตร์ สถาบันกันตนา เมื่อแล้วเสร็จพร้อมเผยแพร่ออกสู่สาธารณชน ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรรอบปฐมฤกษ์ โดยมี ผศ.ปนัดดา ธนสถิตย์ อธิการบดีสถาบันกันตนา, คณะผู้บริหารบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย จาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร และคณะผู้ผลิต เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน วันก่อน
ผศ.ปนัดดา ธนสถิตย์ กล่าวว่า ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ดัดแปลงจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2515 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้สถาบันกันตนาเชิญไปผลิตเป็นภาพยนตร์สั้น เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติในพระปรีชาชาญทางการประพันธ์ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการสร้างสรรค์บุคลากรและผลงานที่มีคุณภาพ
ด้าน “อุ๋ย” นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์สั้น “สายไปเสียแล้ว” เปิดเผยว่า บทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ตั้งแต่ทรงศึกษาในระดับ ม.ศ.5 เป็นบทประพันธ์ที่ไม่ซับซ้อน เป็นเรื่องที่สอนคนอย่างตรงไปตรงมา อ่านแล้วน่าสนใจรู้สึกว่าน่าจะนำมาทำอะไรสักอย่าง ถ้าทรงพระราชนิพนธ์ยาวกว่านี้คงจะนำมาทำเป็นภาพยนตร์ แต่พระราชทานไว้เพียง 2 หน้ากระดาษเท่านั้น จึงเลือกมาให้น้องๆ นักศึกษาช่วยกันทำเป็นภาพยนตร์สั้นความยาว 17 นาทีโดยช่วยดูแลให้คำแนะนำ หาแนวทางในการดำเนินเรื่อง รวมทั้งหาสถานที่และหาตัวแสดง
“การผลิตภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ใช้ทีมงานซึ่งเป็นนักศึกษาในสถาบันกันตนาประมาณ 20 คน ใช้เวลาถ่ายทำ 5 วัน โดยเลือกสถานที่ให้ใกล้เคียงกับบทพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่าน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่จึงเป็นสลัม แต่บทพระราชนิพนธ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2515 จึงต้องมีการปรับปรุงบ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้คนดูเข้าถึงได้ง่ายกว่า และผมหวังว่าบางคนที่หลงผิดหรือกำลังจะทำผิด เมื่อชมเรื่องนี้แล้วจะสามารถเตือนสติให้ฉุกคิด และเกิดความยั้บยั้งชั่งใจ เพราะบางครั้งกว่าจะกลับตัวได้ก็สายเกินไป” ผู้กำกับคนดังเผย
เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงความหลงผิด โดยบอกเล่าเรื่องราวของ “พัน” วัยรุ่นต่างจังหวัดที่มีฐานะทางบ้านยากจนและมีหนี้สินจำนวนมาก ทำให้เขาต้องทำงานทันทีหลังเรียนจบชั้น ม.6 เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ต่อมาได้รับการชักชวนจากเพื่อนและมีรายได้ดี แต่ทราบภายหลังว่าสิ่งที่เขารับส่งอยู่นั้นคือยาเสพติด ซึ่งเขาเลือกทำงานต่อทั้งที่รู้ว่าผิด จนกระทั่งถูกตำรวจจับและถูกตัดสินประหารชีวิต พันสำนึกในความผิดของตัวเอง แต่เขาไม่มีโอกาสกลับตัวเพราะ “สายไปเสียแล้ว”