‘ศรีวราห์’นำทีมลุยค้นรังอิทธิพลฝั่งธนบุรี2จุด | คมชัดลึก

 

 

          วันที่ 18 มี.ค.59 เมื่อเวลา 04.00 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษฐแย้ม สว.กก.4 บก.สส.บช.น. นำกำลังสนธิกับเจ้าหน้าที่ชุดอรินทราช 26 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.กทม. และทหารรบพิเศษสังกัด พล.ร.9 จำนวน 50 นาย ปฏิบัติการบุกค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพลย่านฝั่งธนบุรี 2 จุด ตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล 

 

          จุกแรกพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด เข้าค้นบ้านเป้าหมายบ้านเลขที่ 20/48 หมู่ 4 ถนนฉิมพลีซอย 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. จับกุม นายสายัณห์ โรจน์เกตุ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านส่วนกำลังอีกชุดเข้าค้นเลขที่ 20/55 และ 20/66 ซอยฉิมพลี 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมจับกุม นายชนะโชติ โรจน์เกตุ หรือ ตั๊ก อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นลูกชายของนายสายัณห์ ทั้งคู่ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลทำการทวงหนี้นอกระบบ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหลายคน มักใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ยึดรถและทรัพย์ของลูกหนี้มาเก็บไว้ ที่บ้านของนายสายัณห์ ยังพบต้นกระท่อมอายุประมาณ 2 ปี ปลูกอยู่หลังบ้าน 1 ต้น โดยจากการตรวจค้นบ้านทั้ง 3 หลังยึดของกลางเป็น อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2กฎ-1580 กรุงเทมหานคร ที่มีผู้เสียหายแจ้งความกับ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกยึดมาเพราะติดหนี้ จำนวน 1 คัน และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฆพ 2774 กรุงเทพมหานคร อีก 1 คันซึ่งรถคันดังกล่าวตรวจค้นในข้อมูลพบว่าเป็นรถสวมแผ่นป้ายทะเบียนจะต้องรอการตรวจสอบ 

 

          ส่วนจุดที่สองพื้นที่ สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าค้นบ้านเช่าเลขที่ 60/43-45 ท้ายซอยเพชรเกษม 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. จับกุมตัว นายพุทธารักษ์ ชัชอานนท์ อายุ 24 ปี นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ อายุ 22 ปี นายชัยยงค์ บุญมาเสน อายุ 25 ปี นายฤทธิรงค์ หัวใจแก้ว อายุ 26 ปี และ นายแดง อาจชนะ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางเครื่องกระสุนปืนสั้นขนาดต่างๆ ประมาณ 100 นัด โพยพนันฟุตบอล 50 ใบ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย รวมตัวเป็นกลุ่มใช้ชื่อแก๊งซาเวียร์ มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด การพนันฟุตบอล อีกทั้งมีผู้แจ้งเบาะแสว่า บางรายเคยใช้อาวุธปืนข่มขู่เพื่อนบ้าน และชอบถ่ายรูปโชว์อาวุธปืนประกาศศักดาบนเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นยังพบแรงงานต่างด้าวทั้งชายและหญิง 13 คนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในซอยจึงควบคุมตัวไว้ตรวจสอบประวัติ 

 

          พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นที่พักเป้าหมายในพื้นที่ฝั่งธนบุรี 2 จุดในวันนี้(18 มี.ค.)ได้ดำเนินการพร้อมกันกับพื้นที่เป้าหมายอีกหลายจุด เบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทำบันทึกตรวจยึดของกลาง และขยายผลถึงผู้ต้องหารายอื่นๆที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนแจ้งข้อหาและนำไปแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)ต่อไป

 

 

 

ปราบมาเฟียค่ายมวยเพชรบุรีซ.5ปล่อยจำนำรถดอกเบี้ยโหด 
 

          เมื่อเวลา 05.30 น.  พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ท.พีระยุทธ์ เศวตเศรนี ผบ.กองพันทหารสื่อสารที่ 12 รักษาพระองค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารสื่อสารฯ เจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนธิกำลังเข้าตรวจค้นค่ายมวย ป.ลาเสือ เลขที่ 498/48 ซอยเพชรบุรี 5 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. หลังพบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดรับจำนำรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล 

 

          ที่เกิดเหตุเข้าไปในซอยประมาณ 400 เมตร เปิดเป็นค่ายมวยใกล้กับทางรถไฟสายแปดริ้ว โดยมีการแบ่งทำห้องเช่าสังกะสี ตรวจสอบภายในพบรถจักรยานยนต์ จำนวน 89 คัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารทะเบียนรถจักรยานยนต์ กุญแจรถจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรา 44 จากนั้นได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ทราบชื่อ นายเชาว์ เกิดอารีย์ อายุ 31 ปี นายประเวช พุฒิซ้อน อายุ 41 ปี และน.ส.สุนีย์ ทุมทา อายุ 41 ปี ซึ่งค่ายมวยแห่งนี้เป็นของอดีตนายตำรวจยศ พล.ต.ต.

 

          ทั้งนี้การปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในซอยดังกล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เปิดรับจำนำรถจักรยานยนต์จำนวนมาก โดยเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 30 ต่อวัน อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหายังมั่วสุมสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้ากวาดล้างตามนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ต้องหายังเคยถูกจับกุมในข้อหาลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมา 

 

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนรถจักรยานยนต์ของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบทะเบียนรถว่าเป็นรถของผู้ใด และตรวจสอบว่าเคยก่อเหตุผิดกฎหมายหรือไม่ต่อไป