ข่าว

30ปี'ขนมไทยลูกเจี๊ยบ'มัดใจโมเดลเทรดทั่วไทย

30ปี'ขนมไทยลูกเจี๊ยบ'มัดใจโมเดลเทรดทั่วไทย

18 มี.ค. 2559

30ปี'ขนมไทยลูกเจี๊ยบ'มัดใจโมเดลเทรดทั่วไทย : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยกัมปนาท ขันตระกูล

              ขนมหวานที่เป็นขนมไทยที่มาจากเมืองเพชร “ขนมไทยลูกเจี๊ยบ” ของบุตรสาวอาจารย์สัณฐาน ถิรมนัส ศิลปินสาขาทัศนศิลป์ ประเภทจิตรกรรม ของ จ.เพชรบุรี “สนทนา ธงสุวรรณ” ก็ไม่เป็นรองจากใคร หากเธอสามารถพัฒนาจากเดิมที่เคยฝากตามร้านขายร้านริมถนน วันนี้นอกจากจะขายที่ร้านของตัวเองที่ร้านสัณฐาน ข้างสถานีกาชาดที่ 8 เลขที่ 121 ถนนมาตยวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี แล้ว ยังส่งสินค้าไปขายที่ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด คอนวีเนียนสโตร์ (ร้านสะดวกซื้อ) และลูกค้าประจำสั่งออเดอร์มาจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย

              ที่จริง สนทนา เริ่มทำงานเป็นพนักงานที่เทศบาลเมืองเพชรบุรี หลังจากจบการศึกษาคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2526 แต่ลำพังเงินก็ใช้ไปวันๆ เดือนชนเดือน จึงคิดมาทำขนมขายในปี 2528 เริ่มทำข้าวตูมะพร้าวอ่อน ข้าวเม่าบดใบเตย ลงมือกวนด้วยตัวเอง จากกระทะใบเดียว แล้วนำไปฝากขายร้านขายขนมหวานในตลาด และบรรจุกล่องฝากขายที่ร้านขายของฝากริมถนนเพชรเกษม และหน้าเขาวัง

              การทำขนมขายเป็นทางเลือกใหม่ของสนทนา ทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากงานประจำใน 2 ปีถัดมา หันมาทำขนมขายอย่างเต็มตัว พัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับการขาย เปิดหน้าร้านเป็นของตัวเอง ย่านถนนมาตยวงศ์ในเมืองเพชรบุรี มีการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เช่น ขนมหม้อแกง ขนมชั้น ขนมบ้าบิ่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง และอื่นๆ อีก มากมาย แบรนด์ “ขนมไทยลูกเจี๊ยบ” อันเป็นชื่อของตัวเอง นับเป็นจุดขายที่แตกต่างจากการขายขนมหวาน ขนมหม้อแกงร้านอื่นๆ ที่ขึ้นว่า แม่ จากพนักงานเพียง 3 คน เพิ่มเป็น 10 คน

              ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ในปี 2535 ขนมหม้อแกง ขนมไทยพื้นเมืองเพชรบุรีที่ผลิตโดยแบรนด์ขนมไทยลูกเจี๊ยบทุกชนิด ขอใบรับรองมาตรฐานการผลิตอาหารที่ปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข นำไปขายยังห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สยามจัสโก้ทุกสาขา ในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

              ทำให้เธอสามารถขยายตลาดไปยังร้านค้าปลีก หรือคอนวีเนียนสโตร์ เช่น ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น มีการขยายโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 1 อาคาร เป็นอาคารผลิต 2 อาคาร เน้นการผลิตสินค้าที่เรียกว่าขนมแห้ง มีอายุการเก็บรักษาได้นาน เช่น วุ้นกรอบ อาลัว มีการเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 1 เท่าตัว มีพนักงานเพิ่มเป็น 20 คน

              กิจการขนมไทยลูกเจี๊ยบโตวันโตคืน ในปี 2547 ส่งสินค้าเข้าร่วมคัดสรร ได้รับคัดสรรสุดยอดหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือโอท็อป ระดับ 5 ดาว ในสินค้าประเภทชุดรวมขนมไทย ปีนี้ (2559) ผลิตภัณฑ์ขนมไทยลูกเจี๊ยบยังคงได้รับการยอมรับมาโดยตลอดเป็นเวลาถึง 30 ปี ด้วยคุณภาพที่สม่ำเสมอ ความสะอาดปลอดภัยในการผลิต มีการขยายกำลังการผลิตอยู่เรื่อยๆ

              จากที่เคยทำเพียงคนเดียว ปัจจุบันมีพนักงาน 35 คน ส่งสินค้าจำหน่ายยังห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าสยามจัสโก้ทุกสาขา ฟู้ดแลนด์ทุกสาขา เดอะมอลล์ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าต่างจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี นครสวรรค์ ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น

              “การทำขนมไทยในภาวะที่แข่งขันสูง รสชาติอร่อยอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องพัฒนาในการจัดวางสินค้าด้วย เอกลักษณ์ของขนมไทยลูกเจี๊ยบเรานำขนมนำมาจัดวางเรียงในตะกร้า กระจาด หรือภาชนะอื่นๆ ให้เหมาะเป็นของฝากของขวัญ คนเห็นแล้วอยากซื้อ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ คนผ่านไปเห็นสะดุดตาซื้อไปฝากแขกบ้านแขกเมือง ตรงนี้เป็นจุดเด่นของเรา ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งหน่วยราชการและชาวเมืองเพชรโดยทั่วไป ส่วนการบรรจุภัณฑ์ เราต้องพัฒนาให้นำสมัยอยู่ตลอด จากเดิมเราใช้ถุงพลาสติก พัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีฝาปิดมิดชิด เหมาะแก่การนำเป็นของฝาก หรือเดินทาง” สนทนา เผยถึงกลยุทธ์การตลาด

              สำหรับขนมไทยลูกเจี๊ยบมีการพัฒนารูปแบบสินค้าที่แตกต่างจากตลาด ที่เห็นชัดเจน อาทิ วุ้นสายรุ้ง เม็ดขนุนถั่วแดง โดยทั่วไปใช้ไส้ถั่วเขียว มีการคัดเลือกและคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ นำมาผลิตสินค้า เช่น การคัดเลือกมะพร้าวอ่อนในการทำข้าวตู มีการนำวิทยาการจัดการระบบโรงงานมาใช้ผสมผสานกับระบบครัวเรือน ให้เหมาะสมกับขนาดของกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสต็อกสินค้า การจัดทำระบบบัญชี การแบ่งสายงานการผลิตตามหน้าที่และสินค้า มีระบบการขนส่งของตนเอง

              “ที่เพชรบุรี ขนมไทยขึ้นชื่อมีหลายเจ้า ของเราจะเน้นลูกค้าระดับกลางและระดับสูง ฉะนั้นต้องเน้นในเรื่องของคุณภาพ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงในการผลิต ตรงนี้เราจึงได้ส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงมาโดยตลอด ลูกค้าของเรามีทั้งกลุ่มลูกค้าชาวเพชรบุรี มาจากต่างจังหวัด และกรุงเทพฯ เพราะคนทุกวันนี้เลือกอาหารการกินที่มีคุณภาพ และมีการรับรองมาตรฐานด้วย” สนทนา กล่าว

              แม้ทุกวันนี้สนทนาจะมีลูกน้องเพิ่มขึ้นถึง 35 คน แต่การดูแล เธอบอกว่ายังใช้ระบบครอบครัวในการปกครองพนักงานให้มีความสามัคคี มีความซื่อสัตย์ และความภักดีในหน่วยงาน ที่สำคัญ การจำหน่ายสินค้าขนมไทยลูกเจี๊ยบ ต้องราคาไม่แพง แม้จะตั้งกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าที่ระดับปานกลางถึงดีมากก็ตาม

              วันนี้กิจการขนมไทยลูกเจี๊ยบมีระบบการบริหารจัดโรงงานในลักษณะของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในเชิงภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตขนมไทยเมืองเพชร จึงมักมีผู้ติดต่อขอศึกษาดูงานอยู่ตลอด ทั้งจากเทศบาล กลุ่มแม่บ้านการศึกษานอกโรงเรียน วิทยาลัยสารพัดช่าง นักเรียน ทั้งระดับประถม และมัธยม นักศึกษาจัดทำโครงงานเพื่อประกอบการเรียนการสอนในชั้นเรียน นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาปริญญาโทศึกษาข้อมูลด้านการจัดการขั้นพื้นฐานของโรงงาน ปริญญาเอกศึกษาดูงานด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นข้อมูลในการทำวิจัยอีกด้วย

              กว่าจะประสบผลสำเร็จในวันนี้ได้ สนทนายอมรับว่า มาจากส่วนประกอบที่สำคัญ คือ กำลังใจจากครอบครัว ตั้งแต่พ่อแม่ ที่ให้การสนับสนุน ชี้แนะและมอบโอกาสให้ สามีที่คอยช่วยเหลือและดูแลกิจการร่วมกันเป็นอย่างดี พี่และน้องทุกคนที่ร่วมคิดร่วมเกื้อหนุน เพื่อให้เกิดพัฒนาการในการจัดการต่างๆ รวมทั้งผู้มีพระคุณ ครูที่ส่งเสริมและบอกกล่าวติชมให้ขนมไทยลูกเจี๊ยบมีพัฒนาการที่ดีในการผลิตขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่ "ขนมไทยลูกเจี๊ยบ” ยึดมั่นเป็นนโยบายมาตลอดกว่า 30 ปี คือ การรักษาคุณภาพในการผลิต และความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า นั่นเอง


"ข้าวตูมะพร้าวอ่อน” สูตร “ลูกเจี๊ยบ”

              ในบรรดาขนมของแบรนด์ “ลูกเจี๊ยบ” นั้น “ข้าวตูมะพร้าวอ่อน” เป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่ขายดี และเป็นขนมหวานเมืองเพชรที่สร้างชื่อให้ร้าน ”ลูกเจี๊ยบ” มีสูตรง่ายๆ มีส่วนผสมประกอบด้วย น้ำตาลโตนด 2 กิโลกรัม เนื้อมะพร้าวทึนทึก หรือเนื้อมะพร้าวอ่อน (มะพร้าวที่ยังแก่ไม่จัด) 8 กิโลกรัม ข้าวอบบด 2 กิโลกรัม

              วิธีทำ นำข้าวสุกไปอบจนแห้งจนเหมือนข้าวตาก หลังจากนั้นนำไปคั่วในกระทะ แล้วนำไปบดให้ละเอียด ซึ่งจะใช้ปั่นด้วยมูลิเน็กซ์ หรือใส่ครกตำก็ได้นำน้ำตาลโตนดใส่น้ำ แล้วใส่เนื้อมะพร้าวทึนทึกกวนจนได้ที่จนเนื้อมะพร้าวนุ่ม หรือที่เรียกว่า "หน้ากระฉีก” ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 45 นาที

              หลังจากนั้นเอาข้าวอบที่บดไว้ใส่ลงไป กวนให้แห้งจนปั้นไม่ติดมือ แล้วนำไปปั้นด้วยมือ แล้วนำไปอบควันเทียนธรรมชาติ และใส่บรรจุภัณฑ์นำไปวางจำหน่าย ซึ่งเคล็ดลับของร้าน "ลูกเจี๊ยบ” อยู่ที่ปั้นด้วยมือ เพราะการปั้นเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เพราะการปั้นมีการคลึงให้แน่น ทำให้เนื้อมีความอร่อย และเก็บได้นาน 1 เดือน ไม่ต้องเข้าตู้เย็น หากใช้แม่พิมพ์กดรสชาติจะไม่อร่อย เพราะเนื้อไม่แน่น และอายุการเก็บได้ไม่นานนั่นเอง