
สามชีวิตบนสายมรณะ:ซิ่งเบนซ์ชนนิสิตป.โทดับ2
สามชีวิตบนสายมรณะ:ซิ่งเบนซ์ชนนิสิตป.โทดับ2
12 นาฬิกา 34 นาที 3 วินาที เสี้ยววิกฤติชีวิตที่รถเบนซ์ความเร็วสูงพุ่งเข้าชนท้ายรถเก๋งฟอร์ดในช่องทางซ้ายสุด
ข่าวด่วนที่ถูกส่งผ่านหน่วยกู้ภัยในช่วงบ่ายโมงของวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม ไม่กี่นาทีต่อจากนั้น รับรู้กันแต่เพียงว่า เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงรถเบนซ์สปอร์ตชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด ส่งผลให้หนุ่มสาวนิสิตปริญญาโท สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิตในกองเพลิง
ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตอะไรในสื่อกระแสหลัก เพราะหมุดหมายทุกค่ายล้วนมุ่งไปสู่อีก 8 ชีวิตที่ตกเป็นเหยื่อระบบ "ไพโรเจน” ที่อาคารเอสซีบีปาร์ค
จึงน้อยคนนักที่จะรู้ว่า นอกจากข่าวที่บอกเป็นนิสิตปริญญาโทแล้ว ทั้งสองชีวิตเหยื่อความเร็วของเบนซ์สปอร์ตเก็บงำเรื่องราวอันสังคมพึงร่วมซึมซับรับรู้เอาไว้มากมาย อันไม่ควรจะเลือนหายไปกับกองเพลิง ความตาย และการเร่งปิดคดีอย่างลวกๆ
โซเชียลเน็ตเวิร์กได้แสดงบทบาทเหนือสื่อกระแสหลักอีกครั้ง ด้วยโพสต์คำร้องขอความเป็นธรรมให้แก่หนุ่มสาวทั้งสองพร้อมๆ กับข้อมูลชีวิตที่พรั่งพรูมาด้วยกัน ซึ่งประเด็นหลังยิ่งเป็นแรงกดดันให้ "เจ้าหน้าที่” ต้องตอบคำถามตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะ "สถานะทางสังคม” ของอีกฝ่ายอันอาจเป็นแรงจูงใจให้เกิด "อคติ” ?
“เจนภพ วีรพร” นักธุรกิจหนุ่มผู้มั่งคั่ง คือคนขับรถเบนซ์คันนั้น
ขณะ กฤษณะ ถาวร กับ ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย คือสองเหยื่อเคราะห์ร้าย ผู้ซึ่งสังคมยิ่งรู้สึกเศร้าหมองและเสียดายในเวลาต่อมาเมื่อได้ทำความรู้จักพวกเขามากขึ้น
“วิชา มหาคุณ” อดีตกรรมการป.ป.ช.โพสต์ในเฟซบุ๊กของเขาเมื่อค่ำวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า
“ได้ไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพของน้องธันฐภัทร์ หรือน้องเบนซ์ ที่วัดทวีการะอนันต์ คลองหนึ่ง ปทุมธานี พร้อมกับคณะกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ขอร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวฮ้อแสงชัย ที่ต้องสูญเสียน้องเบนซ์ไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมกับน้องกฤษณะ ถาวร ซึ่งตั้งศพสวดที่จันทบุรี ในอุบัติเหตุอันร้ายแรงของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงชีวิตคนอื่นที่เขาต้องร่วมอยู่บนถนนด้วยกัน”
“น้องทั้งสองที่ถึงแก่ชีวิตเป็นศิษย์ที่เพิ่งมาฟังคำบรรยายจากผู้เขียนในหลักสูตรปริญญาโทและเอก ด้านสันติศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เขียนได้รับทราบจากคุณพ่อคุณแม่และญาติๆว่าน้องช่างมีจิตใจงดงามเหลือเกิน เป็นเด็กเรียบร้อย ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติธรรมตลอดมา ก่อนเกิดเหตุได้เตรียมตัวจะไปจาริกแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานทั้งสี่ ที่ประเทศอินเดีย”
ยังมีเพื่อนนักแสดง พิธีกร และคนดัง ต่างเพศ ต่างวัย ในแวดวง "ห้องเรียนระดับสูง” อีกหลายคนที่ออกมาโพสต์ถึงสัมพันธ์ฉันเพื่อนในสถานะที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งสะท้อนตัวตนของเบนซ์มากขึ้น
“แล้วยิ่งรู้สึกสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น เมื่อทราบว่า “เบนซ์” นักศึกษาหญิงที่จบชีวิตก่อนวัยอันควรเป็นเพื่อนเรียนในหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า (ปนป.2) ที่รู้จักกันดีพอสมควร เบนซ์เป็นคนนิสัยดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นลูกที่ดี เป็นคนใจบุญ ชีวิตของเบนซ์มีคุณค่า" เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ หรือขิง บรรยายถึงเบนซ์ไว้ในโพสต์ของเขา
ขณะที่ดาราดังอย่าง โอปอล์ โพสต์ว่า “เรียนที่สถาบันพระปกเกล้าด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน ...น้องเบนซ์เป็นคนที่น่ารักที่สุดและอ่อนโยนที่สุดคนนึงในชีวิตที่ปอรู้จัก คนรอบข้างสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และมีเมตตาของน้อง และน้องก็ได้พิสูจน์ให้พวกเราได้เห็นถึงจิตใจที่งดงามของน้องแม้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต”
กิจกรรมทางศาสนา สันติวิธี และร่วมในขบวนต่อต้านการคอร์รัปชั่นของป.ป.ช. จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมให้เบนซ์ก้าวเดินไปในห้องเรียนวิชาสันติศึกษากับมจร.อย่างมุ่งมั่น เช่นเดียวกัน “โต้ง” หรือกฤษณะ ที่เสียชีวิตพร้อมกัน
“ฮ้อแสงชัย” คือครอบครัวคหบดีใหญ่แห่งปทุมธานี ประกอบธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างมาอย่างยาวนาน นั่นอาจเป็นแรงหนุนส่งให้ เบนซ์ ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พระนครศรีอยุธยา เธอจบชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนอัมพรไพศาล แล้วต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนเบญจมราชาลัย จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และต่อปริญญาโทในต่างประเทศ ก่อนที่จะเข้าศึกษาปริญญาโทสาขาสันติศึกษารุ่นที่ 2 รุ่นพี่ของ "โต้ง” 1 ปี
สำหรับกฤษณะ แม้ครอบครัวของเขาจะมีฐานะที่ต่างออกไปจาก เจนภพ เจ้าของรถเบนซ์มรณะ และน้องเบนซ์ ผู้ร่วมชะตากรรม หากแต่เส้นทาง "ใฝ่ดี” ของเขาก็ได้ชักนำจากบัณฑิตเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน สู่ตำแหน่งผู้จัดการบริษัทสามสมพงษ์จงดี จำกัด เป็นกรรมการจัดงานสวดมนต์ข้ามปี มจร.วังน้อย กรรมการมูลนิธิรวมใจต้านภัยเอดส์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก
การขับรถยนต์ในเลนซ้ายสุด ด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สอดคล้องกับวิถีแห่งธรรมของทั้งสอง กลับกลายเป็นจุดตายให้เขาและเบนซ์ ถูกทูตมรณะจำพวก ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ใช้ความเร็วไม่น่าจะน้อยกว่า 200 คร่าลมหายใจไปในทันที
“เจนภพ วีรพร” ผู้บังคับพวงมาลัยเบนซ์ ซีแอลเอส คันนั้น เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับความเร็วมาตลอด เริ่มด้วยอุตสาหกรรม "เลนโซ่” ที่นักขับรู้จักกันดี และต่อยอดสู่การเป็นผู้นำเข้ารถยนต์หรูในนาม “Luxotic Automotive”
“คุณพ่อชอบสะสมรถ ตั้งแต่เด็กๆ ก็เห็นคุณพ่อเลือก ท่านจะคุยให้ฟังรถรุ่นนี้มีความพิเศษ ดีกว่า แตกต่างจากคันอื่นทั่วไปอย่างไร คุณพ่อเลือกสีเอง เลือกเครื่องพิเศษ บินไปสั่งเองบ้างก็มี คุณปู่ก็สนใจ พอโตขึ้นผมก็นำรถเข้ามาใช้เองด้วยเหมือนกัน” เจนภพ ในฐานะกรรมการผู้จัดการเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้
บริษัท ลัคโซติค ออโตโมทีฟ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ จำหน่ายหรือเป็นนายหน้าจำหน่ายสินค้าประเภทยานยนต์โดยสาร รถยนต์นั่ง ตั้งอยู่ที่ 292 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร มีกรรมการบริษัท 3 คนในตระกูลวีรพร คือ เจษฎา(บิดา) เจนภพ เจณณิช
เบนซ์กับโต้ง สองสาวหนุ่ม ผู้เลือกเดินบนเส้นทางชีวิตแห่งธรรม สุขสงบ และสันติ จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุที่ถูกกระทำโดยหนุ่มอีกคน ผู้ใช้ชีวิตชนิดต่างขั้ว
เส้นทางสู่ฝัน“วิศวกรสันติภาพ”
ข่าวอุบัติเหตุร้ายแรง ส่งผลให้ 2 นิสิตปริญญาโท หลักสูตรสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา มีคำถามตามมามากมาย โดยเฉพาะความน่าสนใจตรงเป้าหมายปลายสุดของความเป็นวิศวกรสันติภาพ
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส (นิธิบุณยากร), รศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) มีคำตอบ
หลักสูตรนี้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรปริญญาโทรุ่นที่ 1 ในปีการศึกษา 2556 และในปีการศึกษา 2559 เปิดเป็นรุนที่ 4 และเปิดระดับปริญญาเอกเป็นรุนแรก โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดสันติภาพภายในใจ มีสติรู้เท่าทันอคติ มีความเข้าใจความขัดแย้ง และการจัดการความขัดแย้งในมิติที่หลากหลาย รวมถึงการเรียนรู้แนวคิด ทฤษฎี และเครื่องมือในการจัดการความขัดแย้งของสันติวิธี ซึ่งเป็นทางเลือกสำคัญต่อการนำไปประยุกต์ใช้จัดการความขัดแย้งในเชิงปัจเจกและสังคมโดยมีรายละเอียดกลุ่มวิชาดังนี้
กลุ่มวิชาที่ 1 แนวคิด และทฤษฎี ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการความขัดแย้ง ความรุนแรง แนวคิด ทฤษฎีสันติภาพ พัฒนาการของความขัดแย้งและความรุนแรงในโลกสมัยใหม่ พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพและพุทธสันติวิธี กลุ่มวิชาที่ 2 ปฏิบัติการสร้างสันติภาพ การฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริงในศาล และพื้นที่ขัดแย้งในชุมชน และสถานที่ทำงาน เน้นทั้งการสร้างสันติภาพภายในด้วยการพัฒนาสติเพื่อให้เกิดสันติ และปฏิบัติการสร้างและรักษาสันติภาพภายนอกโดยกระบวนการไกล่เกลี่ยคนกลางอย่างมีสติ โดยใช้กระบวนการสันติสนทนาด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในลักษณะต่างๆ
กลุ่มวิชาที่ 3 ศึกษาต้นแบบของนักสร้างสันติภาพทั่วโลก หลักการและเครื่องมือในการสร้างสันติภาพและรักษาสันติภาพ การศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของผู้นำทางการเมืองและนักการศาสนาต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ บทบาทขององค์กรสันติภาพทั่วโลก ขันติธรรมทางศาสนา การสื่อสารเพื่อสร้างสันติภาพและกระบวนการทางกฎหมายเพื่อสร้างสันติภาพ
ขณะนี้หลักสูตรได้จัดการเรียนการสอนผ่านไปแล้ว 3 รุ่น จบการศึกษา 1 รุ่น จำนวน 27 รูป/คน และกำลังเปิดรับสมัครระดับปริญญาเอก ซึ่งผู้ที่จบการศึกษาหลักสูตรนี้แล้วสามารถนำวิชาความรู้ไปประจำใช้ในหน้าที่การงานของตนให้ดีขึ้น แต่ที่เป็นรูปธรรมคือการเป็นจิตอาสาเป็นผู้ประนอมระงับข้อพิพาทประจำศาลและเป็นผู้นำชุมชนพัฒนาด้านต่างๆ
................................
(หมายเหตุ : ข่าวเกี่ยวข้อง http://www.komchadluek.net/detail/20150426/205328/ก้าวแรก!วิศวกรสันติภาพมุ่งแก้ต้นน้ำขัดแย้งสังคม.html
http://www.komchadluek.net/detail/20150410/204471/ตั้งพระเป็นผู้ประนีประนอมประจำศาล.html)