
หลักฐาน (ไม่) ลับ ที่บ้านเชียง
จู่ๆ เรื่อง คุกลับ ในไทยก็โผล่มาให้เป็นปริศนาน่าพิศวงกันอีกครั้ง พื้นที่ที่มีข่าวลือหนาหูที่สุด ว่าอาจเป็นที่ตั้ง (ถ้ามี) หนีไม่พ้น จ.อุดรธานี ซึ่งกองทัพสหรัฐเคยใช้เป็นที่ทำการต่อต้านการรุกรานของลัทธิคอมมิวนิสต์เมื่อหลายสิบปีก่อน จนรัฐบาลต้องออกมาปฏิเสธ
อุดรธานี มีคุกลับจริงหรือเปล่าไม่ทราบ ที่มีแน่ๆ คือ ร่องรอยชุมชนโบราณซึ่งตั้งหลักแหล่งอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมานานนับพันปี แหล่งโบราณคดีที่รู้จักกันดีก็คือ “บ้านเชียง”
บ้านเชียง เป็นชื่อหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ชาวบ้านมีอาชีพทำการเกษตรทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนก็คือพวกเขามักขุดพบหม้อดินเผาเขียนลายสีแดงอยู่เสมอเวลาทำไร่ไถนา เมื่อพบมากเข้าก็เริ่มสนใจและเก็บรวบรวมไว้ แล้วไปมอบให้ นายพรมมี ศรีสุนาครัว ครูใหญ่โรงเรียนบ้านเชียง (ประชาเชียงเชิด)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราว 50 ปีมาแล้ว และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ จากท้องถิ่นที่ไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นหมู่บ้านที่ผู้คนให้ความสนใจ ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เนื่องจากหม้อดินเผาดังกล่าว ได้รับการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ว่ามีอายุราว 7,000 ปีมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาชนะดินเผาเขียนลายสีแดงของบ้านเชียง ซึ่งปัจจุบันยอมรับกันว่า มีอายุ 2,300-1,800 ปี มาแล้วเท่านั้น สิ่งสำคัญต่อมา คือทำให้มีการขุดค้นทางโบราณคดีจนพบหลักฐานมากมาย ทั้งภาชนะดินเผารูปแบบต่างๆ เครื่องมือเครื่องใช้สำริด โครงกระดูกมนุษย์ และร่องรอยของเมล็ดข้าวอีกด้วย
ล่าสุด เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ดร.จอยซ์ ซี. ไวท์ (Dr.Joyce C. White) นักโบราณคดี ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับบ้านเชียงที่นำไปสู่ข้อคิดเห็นใหม่ว่า หลักฐานเก่าแก่ที่สุดของบ้านเชียง แสดงให้เห็นว่า มีมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ 4,300 ปีมาแล้ว
นี่คือหลักฐานไม่ลับของชุมชนโบราณในอุดรธานี
"เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"