ข่าว

‘ธนะศักดิ์’ชี้99.99%เห็นด้วยสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง

‘ธนะศักดิ์’ชี้99.99%เห็นด้วยสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง

25 ก.พ. 2559

‘พล.อ.ธนะศักดิ์’ ชี้ 99.99% เห็นด้วยสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง ระบุใช้งบ 633 ล้านบาทสร้าง ยันคุ้มค่า ลั่นหากผ่าน ‘อีไอเอ’ เดินหน้าได้ทันที

 
     25 ก.พ.59 เมื่อเวลา 10.45 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวศาสนา กล่าวกรณีที่ครม.มีมติรับทราบผลการรายงานขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว(องค์การมหาชน) หรือ อพท.เสนอผลการศึกษาโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย ว่า จากผลการศึกษาพบว่าสามารถทำได้โดยไม่กระทบป่าแม้บริเวณดังกล่าวเป็นลุ่มน้ำชั้นหนึ่ง เพราะเป็นการใช้วิธีปักต้นเสาหลัก 7 ต้น ด้วยการขุดดินแล้วใช้เฮลิคอปเตอร์หย่อนเสาลงไปซึ่งจะเสียต้นไม้รวมประมาณ 1 ไร่ และจะมีการปลูกทดแทนส่วนที่เสียไป แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้ตามมาถือว่าคุ้มค่า และหลังจากที่ครม.รับทราบผลการศึกษาดังกล่าวแล้วจะต้องมีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ตามขั้นตอน ทั้งนี้อยากให้เห็นภาพใหญ่ว่าจำนวนเงินที่ใช้ดำเนินการประมาณ 633 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าในการทำ อีกทั้งเรื่องนี้มีการทำความเห็นมาแล้วชั้นหนึ่งก่อนที่จะเข้าครม.เมื่อครม.รับทราบแล้วมอบหมายให้ไปหารือเรื่อง อีไอเอ หากผลสำรวจอีไอเอผ่านก็จบและสามารถทำได้เลย โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี โดยมีการจัดทำแผนในการเบิกจ่าย ไม่ใช่จ่ายทีเดียว แต่ถ้าอีไอเอไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน
 
     “ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่โครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้น ทุกคนในที่ประชุมที่คิดเรื่องนี้ทุกคนเห็นชอบหมด มีองค์กรเพียงองค์กรเดียวที่ไม่เห็นชอบแต่ไม่เคยมาเข้าประชุมเลย เป็นเหมือนเอ็นจีโอ แต่ภาพใหญ่เขาแฮปปี้หมด การสร้างกระเช้ามีการกำหนดแนวเขตก่อสร้างชัดเจน หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นสามารถลงได้ด้วยกระเช้าง่ายขึ้น และจุดที่ขึ้นลงกระเช้าไม่ได้รบกวนทางเดินแต่จะมีสถานีให้ขึ้นได้ ยืนยันว่าเงิน 600 กว่าล้านบาท ที่ใช้นั้นต้องคิดว่าจะสร้างงานให้คนในพื้นที่ได้จำนวนมาก และทางจ.เลย ถือว่ายังมีนักท่องเที่ยวสนใจมาก ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านที่มาท่องเที่ยว ย้ำว่าเราอยากให้มีและจริงๆแล้วเป็นความเรียกร้องของชาวบ้านในพื้นที่ทั้งจังหวัดเลยและใกล้เคียง เพราะถ้ามีกระเช้าจะได้ทั้งเรื่องความ ปลอดภัย นักท่องเที่ยว และงบประมาณ การสร้างงานและการดูแลรักษาป่า ทั้งหมดถือว่าคุ้มค่า” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว 
 
     รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ประชาชนที่จังหวัดเลยและโดยรอบเขาเห็นด้วย และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะเราพูดคุยกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอธิบายเรื่องอีไอเอให้ชัดเจน ส่วนการประเมินความเสื่อมโทรมพื้นที่มากขึ้นเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ยิ่งมีสิ่งก่อสร้างลักษณะนี้จะตรวจได้ทุกวันทั้งเรื่องความปลอดภัยต่างๆ และรักษาเส้นทางเดินปกติได้มากขึ้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบเพราะใช้เทคนิคใหม่ในการก่อสร้าง ไม่ใช่การตัดป่าเป็นแนวตรงข้ามเป็นการรักษาแนวป่าเอาไว้ด้วย และเงินจากนักท่องเที่ยวจะได้กลับมาอย่างมหาศาล
 
     ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงคัดค้านในการก่อสร้างดังกล่าวประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า มีแค่คนเดียวที่ไม่เคยมาประชุม เขาขอแค่ให้ได้ค้านว่าพื้นที่นั้นเป็นป่าไม่ควรทำ แต่อีก 99.99 เปอร์เซ็นต์ เขาเห็นด้วย
 
 
‘ธนะศักดิ์’ มอบนโยบายคกก.ส่งเสริมคุณธรรม สั่งดันภาพลักษณ์ประเทศไทย
 
 
     เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายกับนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ประธานกรรมการศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน)และคณะ ว่า ได้ให้นโยบายหลักว่า ขอให้ทำงานส่งเสริมคุณธรรมให้เกิดผลชัดเจน เป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและสังคม มีแผนงานที่ชัดเจน ต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีด้านวัฒนธรรม ที่กำหนดภาพลักษณ์ประเทศไทยว่าสังคมไทยมีความซื่อตรง โปร่งใส มีวินัย และภาพลักษณ์คนไทยเป็นคนดี มีคุณธรรม มีวินัย และพอเพียง และเร็วๆนี้จะมีการจัดประชุมสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผลงานของศูนย์คุณธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอชื่นชมในความพร้อม ของคณะกรรมการศูนย์คุณธรรมและศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน)ที่จะช่วยสร้างสังคมไทยให้มีคุณธรรมและมีคุณภาพ ซึ่งความสำเร็จต่างๆไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่ที่ประชาสังคม ประชารัฐ เพราะทุกคนช่วยกัน จิตใจดี ทำดี ไม่ให้คนเดือดร้อน ซึ่งไทยจะแสดงให้อาเซียนเห็นว่าไทยมีภาพดังกล่าวทั้งหมด
 
     ด้าน นพ.จักรธรรม กล่าวว่า ศูนย์คุณธรรมพร้อมสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนา 20 ปี ในส่วนของการสร้างสังคมคุณภาพ สังคมคุณธรรม โดยดำเนินงานสำคัญ 5 เรื่อง คือ เสริมสร้างพลังเครือข่ายประชารัฐ และสมัชชาคุณธรรมขับเคลื่อนสังคมคุณธรรมโดยจะเน้นบทบาทภาคประชาชนและประชาสังคมให้เพิ่มขึ้น , ส่งเสริมการพัฒนาและรับรองมาตรฐานด้านคุณธรรม จริยธรรม ขององค์กรภาครัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคธุรกิจ องค์กรชุมชน และองค์กรภาคประชาสังคม เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ วินัย ความพอเพียง , พัฒนานวัตกรรมองค์ความรู้ การปลูกฝังคุณธรรม และปลุกจิตสำนึกประชาชนเพื่อส่วนรวมของสังคม , ส่งเสริมความร่วมมือด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียน , ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ และการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของสังคมไทย ซึ่งสอดคล้องนโยบายรัฐบาล