
'เทด ครูซ' ตัวเลือกใหม่ของขวาจัดในรีพับลิกัน
14 ก.พ. 2559
เปิดโลกวันอาทิตย์ : 'เทด ครูซ' ตัวเลือกใหม่ของขวาจัดในรีพับลิกัน : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์
ขณะนี้กลุ่มขวาจัดในพรรคตราช้างรีพับลิกัน หรือที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มทีปาร์ตี้ต่างพากันปวดหัวในศึกชิงทำเนียบขาวครั้งนี้ เพราะถึงอยากแสนอยากให้พรรคตราช้างชนะเลือกตั้ง แต่ก็ไม่อยากให้โดนัลด์ ทรัมป์ อัครมหาเศรษฐีเจ้าของโอษฐภัยจนสร้างศัตรูทั่วทั้งสิบทิศ ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำทำเนียบขาวคนใหม่ เพราะตระหนักดีว่าคงยากจะควบคุมให้อยู่ในกรอบของพรรคได้ง่ายๆ
สายตาของกลุ่มทีปาร์ตี้จึงหันไปจับจ้องที่ ราฟาเอล เอ็ดเวิร์ด “เทด” ครูซ วุฒิสมาชิกหนุ่มใหญ่วัย 45 ปีนักการเมืองสายเหยี่ยวหัวอนุรักษนิยมสุดโต่งจากรัฐเทกซัส ซึ่งหักปากกาเซียน พลิกชนะ ทรัมป์ได้ในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐไอโอวา ก่อนจะร่วงมาเป็นอันดับ 3 ในการเลือกตั้งไพรมารีที่รัฐนิวแฮมเชียร์ แต่ถ้าหากได้แรงสนับสนุนดีๆ และทุนดีๆ เทด ครูซ ซึ่งวางตัวเป็นผู้เคร่งศาสนาและรักชาติสุดชีวิตก็อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ถูกใจกลุ่มนักการเมืองหัวเก่าในพรรครีพับลิกันก็ได้
วุฒิสมาชิกหนุ่มใหญ่จากรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นคนแรกที่ประกาศตัวว่าพร้อมจะลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันและหากชนะเลือกตั้งในศึกชิงทำเนียบขาวจริง ก็จะได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีเชื้อสายละตินอเมริกาหรือฮิสแปนิกคนแรกของสหรัฐเกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2513 ที่เมืองคัลการี ประเทศแคนาดา จึงมีสิทธิถือ 2 สัญชาติ แต่ก็กลายเป็นจุดอ่อนให้ทรัมป์โจมตีกระทั่งเจ้าตัวตัดสินใจสละสัญชาติแคนาดาเมื่อกลางปี 2557 ไม่นับรวมเรื่องที่ว่าเป็นลูกครึ่งคิวบา เนื่องจากพ่อเป็นชาวคิวบาแต่ปู่มาจากหมู่เกาะคานารีของสเปน พ่อซึ่งเคยต่อสู้ร่วมกับทหารกองโจรของฟิเดล คาสโตร จนถูกรัฐบาลเผด็จการบาติสตาจับตัวไปทรมานในคุก เมื่อพ้นโทษแล้วก็ได้หนีมาที่แดนดินถิ่นอินทรีเมื่อปี 2497 ด้วยวีซ่านักเรียนโดยแทบไม่มีอะไรติดตัว ต้องอาศัยทำงานไปเรียนไป กระทั่งได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเทกซัสในเมืองออสติน ท้ายสุดได้สถานภาพผู้ลี้ภัยการเมืองหลังวีซ่านักศึกษา 4 ปีหมดอายุลง ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช ต่อมาพ่อและแม่ย้ายไปทำธุรกิจด้านพลังงานที่แคนาดา และเทด ครูซก็ถือกำเนิดที่ประเทศนี้จึงได้ถือ 2 สัญชาติ ก่อนที่พ่อแม่จะหอบหิ้วกลับมาตั้งหลักฐานใหม่ที่เมืองฮุสตัน แต่ได้หย่าร้างกันเมื่อปี 2540
เทด ครูซ จึงโตที่เมืองฮุสตันและมีโอกาสเรียนหนังสือที่รัฐเทกซัส สมัยเรียนอยู่ระดับมัธยมปลายได้เข้าร่วมในโครงการพิเศษของสถาบันวิสาหกิจเสรีที่จะสอนบรรดานักเรียนหลังเลิกเรียนถึงเรื่องเศรษฐกิจการตลาด แล้วจัดตั้งเด็กนักเรียนขึ้นมากลุ่มหนึ่งให้มุ่งความสนใจไปที่ประเด็นรัฐธรรมนูญและปรัชญาของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่างมิลตัน ฟรีดแมน และเฟรเดอริก บัสเทีย หรือบัสติยาต์ครูซ ผู้มีพรสวรรค์ในด้านการพูดมาตั้งแต่เด็กได้เดินทางพร้อมเพื่อนๆ ไปปราศรัยทั่วเทกซัสในปัญหาต่างๆ ซึ่งเท่ากับสั่งสมประสบการณ์การพูดมาตั้งแต่เด็ก
จากนั้นได้ไปเรียนต่อที่คณะศิลปศาสตร์สาขานโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันจนสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยนี้ ครูซได้อาศัยพรสวรรค์พิเศษในฐานะนักพูดฝีปากเอกคว้ารางวัลชนะเลิศการโต้วาทีระดับชาติและยังคว้ารางวัลชนะเลิศการโต้วาทีแห่งอเมริกาเหนือ ได้รับยกย่องให้เป็นนักพูดระดับชาติแห่งปี นอกเหนือจากได้รางวัลทีมนักโต้วาทีแห่งปีจากการร่วมโต้วาทีกับเพื่อนคนหนึ่ง แต่เมื่อมีการโต้วาทีระดับโลก ทั้ง 2 คนกลับตกรอบรองชนะเลิศ
เมื่อสำเร็จการศึกษาที่พรินซ์ตันแล้ว ครูซได้ไปเรียนต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จนจบการศึกษาด้วยระดับเกียรตินิยมอันดับสอง ระหว่างนั้นได้เป็นบรรณาธิการวารสาร “ฮาร์วาร์ด ลอว์ รีวิว” และบรรณาธิการบริหารของวารสารว่าด้วยกฎหมายและนโยบายของฮาร์วาร์ด นอกเหนือจากเป็นบรรณาธิการผู้ก่อตั้งวารสารกฎหมายของพวกเชื้อสายละตินที่ฮาวาร์ด
จบแล้ว เทด ครูซได้ทำงานเป็นอัยการอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มหาประสบการณ์การเมืองในฐานะที่ปรึกษาด้านนโยบายในประเทศให้จอร์จ ดับเบิลยู บุช ระหว่างรณรงค์หาเสียงชิงทำเนียบขาว ทำให้รู้จักและพัฒนากลายเป็นความสนิทสนมกับสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ เทด ครูซ จึงสนับสนุนการค้าปืนเสรี ถึงขนาดด่าเพื่อนนักการเมืองร่วมพรรคที่คัดค้านเรื่องนี้ว่าดีแต่พ่นน้ำลาย ทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมพรรคไม่ค่อยดีนัก
เมื่อบุชชนะการเลือกตั้ง ครูซและไฮดี เนลสัน ภรรยาซึ่งพบรักกันในช่วงช่วยบุชหาเสียงก็ได้ไปทำงานให้รัฐบาลของบุช อาทิ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนนโยบายของคณะผู้แทนการค้าของสหรัฐระหว่างปี 2542-2546 เป็นรองอธิบดีกรมอัยการแห่งรัฐเทกซัสระหว่างปี 2546-2551 นับเป็นฮิสแปนิกคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้และยังอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของเทกซัส อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทกซัส ระหว่างปี 2547-2552 โดยสอนวิชาการพิจารณาคดีของศาลสูงสุดก่อนจะลาออกมาทำกิจการส่วนตัว
หลังจากสั่งสมประสบการณ์จนสุกงอม เทด ครูซ ได้กระโจนสู่สนามเลือกตั้งเองด้วยการลงสมัครชิงวุฒิสมาชิก ตอนแรกถูกมองว่าเป็นม้านอกสายตา แต่นโยบายที่เป็นขวาตกขอบกลับทำให้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที ปาร์ตี้ จนได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกสมัยแรกเมื่อปี 2555 นับเป็นส.ว.คนแรกของรัฐนี้ที่เป็นฮิสแปนิก และเป็น 1 ใน 3 ของส.ว.ที่มีเชื้อสายคิวบา
นับตั้งแต่เข้ามาเริ่มงานแรกในฐานะวุฒิสมาชิกหน้าใหม่ เทด ครูซก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเรื่องคมวาทะที่แหลมคมและใช้สารพัดวิชามารเพื่อขัดขวางนโยบายของรัฐบาลโอบามา อาทิ หยิบหนังสือของลูกสาวมาอ่านและวิจารณ์ผลงานของนักเขียนบางคนระหว่างอภิปรายนานมาราธอนถึง 21 ชั่วโมงเพื่อคัดค้านแผนประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามาหรือที่รู้จักกันในชื่อนโยบายโอบามาแคร์ หรือสนับสนุนให้ชัตดาวน์การทำงานของรัฐบาลบารัก โอบามา ในปี 2556 จนทำให้เพื่อนร่วมพรรคหลายคนไม่พอใจ วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคนถึงกับประณามครูซและส.ส.ขวาจัดอีกหลายคนว่าเป็นคนไม่เต็มบาท เช่นเดียวกับพรรคเดโมแครตที่ไม่มีใครชื่นชอบส.ว.จากเทกซัสผู้นี้ แต่ครูซก็ไม่สนใจถือดีว่าได้เสียงสนับสนุนจากกลุ่มขวาสุดขอบที่ไม่พอใจกลุ่มขวากลางมากขึ้นเรื่อยๆ กรณีไม่กล้าเปิดศึกชนกับโอบามาให้เห็นดำเห็นแดงไปข้างหนึ่ง

ความเป็นคนเคร่งศาสนา ทำให้เทด ครูซ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเคร่งศาสนาที่บริจาคเงินให้เกือบ 1 ล้านดอลลาร์ในวันแรกที่เปิดตัว แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ก็ยังแคลงใจว่าความเป็นขวาจัดของครูซว่าจะทำให้ได้คะแนนเสียงจากกลุ่มสายพิราบหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ ครูซยืนหยัดคัดค้านหัวชนฝาเรื่องการแต่งงานของกลุ่มรักร่วมเพศ อีกทั้งยังคัดค้านการทำแท้ง และยังไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อน โดยให้เหตุผลว่าแม้อาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นพวกกระต่ายตื่นตูมได้วาดภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ดูร้ายแรงเกินจริง รวมทั้งยังพยายามป้ายสีนักการเมืองว่าไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน
แม้จะเป็นลูกครึ่งคิวบา และได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มชาวฮิสแปนิกในรัฐเทกซัส แต่ครูซยืนหยัดสนับสนุนการอพยพเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายเท่านั้น ในเว็บไซต์ส่วนตัวของครูซยังได้โจมตีโอบามาที่จะนิรโทษกรรมให้คนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ระหว่างการหาเสียงครั้งนี้ ครูซไปไกลถึงขั้นเสนอให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนบริเวณชายแดน
ในส่วนของนโยบายต่างประเทศเทด ครูซได้โจมตีนโยบายคืนดีกับอิหร่านว่าจะทำให้รัฐบาลโอบามากลายเป็นนายทุนการก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกและยังประกาศจุดยืนว่าจะไม่คว่ำบาตรนายกรัฐมนตรีอิสราเอล แบบที่ประธานาธิบดีโอบามาทำอยู่ แต่จะยืนอยู่เคียงข้างอิสราเอลตลอดไป
ความเป็นนักพูดที่โดดเด่นและยืนหยัดในนโยบายขวาตกขอบ ทำให้เทด ครูซ ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ ริค แมนนิ่ง แห่ง “อเมริกัน ฟอร์ ลิมิเต็ด กอฟเวิร์นเมนต์” หรือ “ชาวอเมริกันเพื่อรัฐบาลที่มีอำนาจอันจำกัด” ได้ยกย่องให้ครูซเป็นบุรุษแห่งปี 2556 จากความพยายามที่ล้มเหลวในการขัดขวางร่างกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามา ปีเดียวกันนั้น นิตยสาร “ฟรอนท์ เพจ” หรือ “ข่าวหน้าหนึ่ง” และ “ดิ อเมริกัน สเปคเตเตอร์” สิ่งพิมพ์ของกลุ่มอนุรักษนิยมก็ยกย่องให้เป็นบุรุษแห่งปีเช่นกัน และยังได้เป็น “รัฐบุรุษแห่งปี 2556” ติดต่อเป็นปีที่ 2 จากการจัดอันดับของ Townhall.com และ “รัฐบุรุษแห่งปี 2556” จากการจัดอันดับของพรรครีพับลิกันในรัฐฟลอริดา นอกจากนี้ยังเข้ารอบสุดท้ายของการชิงตำแหน่ง “ชาวเทกซัสแห่งปี 2556 จากการจัดอันดับของหนังสือพิมพ์ เดอะ ดัลลัส มอร์นิ่ง นิวส์” และเข้ารอบสุดท้ายของการชิงตำแหน่ง “คนแห่งปี 2556” ของนิตยสารไทม์
ครูซแต่งงานกับไฮดี เนลสัน เมื่อปี 2544 มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ทั้ง 2 คนพบกันระหว่างร่วมงานหาเสียงให้บุชเมื่อปี 2543 ตอนนี้ ไฮดี ซึ่งเคยทำงานกับคอนโดรีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศที่ทำเนียบขาวและเป็นวาณิชธนกิจที่นิวยอร์ก ได้ลาพักจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการบริงานการลงทุนของโกลด์แมน แซค แอนด์ โค วาณิชธนกิจชื่อดังประจำภาคตะวันตกเฉียงใต้
----------------------
(เปิดโลกวันอาทิตย์ : 'เทด ครูซ' ตัวเลือกใหม่ของขวาจัดในรีพับลิกัน : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์)