ข่าว

ด้วยหัวใจ‘รักสัตว์’สู่ธุรกิจโรงแรมแมว

ด้วยหัวใจ‘รักสัตว์’สู่ธุรกิจโรงแรมแมว

09 ก.พ. 2559

ด้วยหัวใจ‘รักสัตว์’สู่ธุรกิจโรงแรมแมว : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยอภิชาติ ระวีวัฒน์ เรื่อง สุกล เกิดในมงคล ภาพ

            ทุกอาชีพของ “มุนษย์” คนเรา หากเริ่มต้นบนพื้นฐานของ “ความรัก” ก่อนเป็นอันดับแรก ต่อด้วยความทุ่มเทเอาใจใส่และศึกษาเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอจริงจัง ต่อให้อาชีพนั้นๆ จะยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน เชื่อว่า สักวันหนึ่งย่อมมีวันประสบความสำเร็จ

            โดยเฉพาะ “ช่องว่าง” จุดเล็กๆ ของคนรักสัตว์สี่ขาเป็นชีวิตจิตใจ ทั้ง “สุนัข-แมว” ประเภทแยกจากกันไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันจนชินตาก็คือ เปิดร้านอาบน้ำ-ตัดขน, สถานรักษาพยาบาลสัตว์ หรือไม่ก็เป็นร้านขายอาหารสัตว์-อุปกรณ์ของเล่นต่างๆ ที่มีมากมาย

            ทว่า... ตรงกันข้ามกับแนวความคิดของ “ทราย” ดวงกมล แดงประเสริฐ สาวใสวัย 30 ปี เจ้าของนักธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่นในโลกออนไลน์ ที่มีใจรัก “น้องเหมียว” มานานหลายปีแล้ว จนเกิดแรงบันดาลใจคิดฉีกแนว ด้วยการเนรมิตห้องเช่าเก็บของใต้ตึกของครอบครัว ที่ทำเลไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักมาสร้างเป็นโรงแรมแมว ชื่อว่า “Casa De Cat” (คาซ่า เดอ แคท) ขึ้นมา ณ ซอยนครไทย แถวรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที ย่านหัวลำโพง จนเวลานี้มีผู้คนให้ความสนใจมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายคนประสบปัญหาด่วน!! ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อทำธุระ จนไม่มีเวลาดูแลเจ้าแมวเหมียวอันเป็นที่รักของตัวเอง หากจะเอาไปฝากเพื่อนบ้าน หรือคนรู้จักเลี้ยงดูแทนก็มองว่า จะเห็นแก่ตัวเกินไป ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดปัญหาจึงเอา “แมว” ของตัวเองมานอนพักผ่อนในโรงแรมเสียดีกว่า

            ทั้งนี้ “ทราย” ดวงกมล เปิดเผยที่มาที่ไปก่อนจะมาสู่อาชีพเจ้าของโรงแรมแมวว่า จบการศึกษาปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ (อินเตอร์) จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เคยทำงานในบริษัทของญาติอยู่พักใหญ่ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางที่เราชอบ ก็เลยลาออกมาค้าขายเสื้อผ้าทางออนไลน์แนวแฟนชั่นของผู้หญิงเป็นส่วนมาก แต่ทำได้ไม่นานความนิยมในเสื้อผ้าคนอ้วนก็มีมากขึ้น ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่และทำมาได้ 5-6 ปีแล้ว เกี่ยวกับการขายเสื้อผ้าคนอ้วนทางโลกโซเชียล ที่สมัยก่อนเป็นอะไรแปลกใหม่และดีมากๆ แต่ทุกวันนี้คนขายแนวนี้เยอะเลยแค่ประคองตัวเอง

            ส่วนโรงแรมแมว “คาซ่า เดอ แคท” ถือว่าเป็นธุรกิจตัวที่ 2 ของตัวเอง เพราะงานขายของทางโลกออนไลน์มันอยู่ตัวแล้ว แค่ส่งของให้ตรงเวลากับความต้องการของลูกค้า และค้าขายทุกอย่างซื่อสัตย์แบบตรงไปตรงมาก็พออยู่ได้ไม่ลำบากนัก

            โรงแรมแมวเพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ 1 ปีเศษ จุดเริ่มต้นคงมาจากครอบครัวและแฟนต่างเป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนมีแมวตัวหนึ่งหลงมาที่บ้าน ด้วยความสงสารจึงเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ก่อนจะเป็นความรักและผูกพันตั้งแต่นั้นมา เพราะนิสัยของแมวเป็นสัตว์ขี้อ้อน ชอบเล่นและคลอเคลียกับเจ้าของตลอดเวลา จนเวลานี้ที่บ้านมีแมวสายพันธ์ุต่างๆ มากถึง 11 ตัวแล้ว        

            นี่ยังไม่รวมถึงแฟนก็รักแมวเหมือนกัน จนตัดสินใจซื้อแมวพันธุ์เมนคูนมาเลี้ยงเอาไว้ด้วย ก่อนจะปรึกษากับทางครอบครัวว่า เราน่าจะหาทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่เป็นงานบริการ และมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะของคนรักสัตว์ โดยเฉพาะ “แมว” ขึ้นมา แถมเราไม่ต้องไปลงทุนอะไรมากนัก โดยเฉพาะการไปเช่าหน้าร้านเพื่อเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน เพราะถ้าหากเป็นร้านขายของและสินค้าต่างๆ ทำเลที่ตั้งคงไม่มีใครมาซื้อแน่ เพราะอยู่ในมุมอับทำเลไม่ดี

            ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า เราควรเปิดเป็นโรงแรมแมวดีที่สุด เนื่องจากครอบครัวมีใจรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็ยังมีตึกแถวอยู่ 2 ห้อง ไม่จำเป็นต้องไปเช่าใครให้เสียค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือมีต้นทุนสูงแต่อย่างใด จากนั้นก็ได้ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ด้วยสีสันสวยงาม เน้นความสะอาด อากาศปลอดโปร่ง และเย็นสบาย

            เพราะนิสัยส่วนตัวของแมวทุกสายพันธ์ุจะหวงตัว และมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แถมยังขี้อ้อนชอบให้เจ้าของคอยตามใจ ไม่ค่อยลุยเหมือนการเลี้ยงสุนัข ยิ่งถ้าวันไหน แมวบางตัวหงุดหงิด หรืออารมณ์เสียจะเป็นแมวขี้โมโห ขี้วีนขึ้นมาทันที ดังนั้นในฐานะผู้ให้บริการโรงแรมแมว จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องแบบนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้เจ้าของและลูกค้าก็คือ “แมว” เกิดความพึงพอใจและอยากกลับมาใช้บริการของเราอีก

            เนื่องจากลูกค้าที่เอาแมวมาให้ดูแลนั้น ร้อยทั้งร้อยเขาต้องให้ความไว้วางใจว่า หลังแมวกลับไปสู่อ้อมกอดเจ้าของแล้ว แมวของเขาเหล่านี้จะไม่ติดโรคต่างๆ กลับไป ทั้ง เชื้อรา เห็บ และหมัด จนนำไปสู่การเป็นโรคพยาธิแมว ซึ่งจะทำให้แมวตายในเวลาต่อมาได้

            ยิ่งไปกว่านั้นแมวแต่ละตัวที่เอามาพักที่นี่ ราคาแต่ละตัวตั้งแต่ 1 หมื่น ไปจนถึง 1 แสนบาท เพราะคนที่รักแมวก็เหมือนคนรักสุนัข มีเท่าไหร่ก็ทุ่มเทให้หมด มันเป็นความสุขทางจิตใจที่เงินทองไม่สามารถแลกเอาคืนมาได้ ถ้าหากแมวของลูกค้าเป็นอะไรไปเมื่อมาพักที่โรงแรมของเรา แน่นอน ทุกอย่างเราต้องรับผิดชอบ

            โรงแรมแมวที่สร้างจากห้องแถวเก่า เป็นการปรับปรุงใหม่ทุกตารางนิ้ว เน้นให้ทำความสะอาดง่าย โทนสีขาว ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมาย ตั้งใจให้โล่งมากที่สุด เพราะกลัวเชื้อโรคจะไปติดอยู่กับสิ่งของ  ซึ่งก่อนเปิดโรงแรมแมวขึ้นมา ก็ได้ประชาสัมพันธ์ทางโลกออนไลน์ที่เรามีประสบการณ์ดีอยู่แล้ว

            พอมาถึงวันเปิดโรงแรมขึ้นมาจริงๆ ปรากฏว่า ได้กระแสการตอบรับดีมาก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เขามาใช้บริการเป็นคนวัยทำงาน ไล่ลงไปถึงนักศึกษาอายุระหว่าง 20-40 ปี ที่มีใจรักสัตว์ประเภทนี้อย่างจริงจัง หลายคนอาจไม่มีเวลา หรือติดธุระและไม่รู้ว่า จะเอาแมวของตัวเองไปฝากเลี้ยงดูแลได้ที่ไหน ก็เลยให้ความไว้วางใจโรงแรมของเรา

            ส่วนจำนวนห้องพักสำหรับน้องแมวเหมียวมีทั้งหมด 14 ห้อง ห้องใหญ่หรือห้องวีไอพีจำนวน 5 ห้อง พักได้ 4 ตัว ราคาคืนละ 500 บาท ห้องเล็ก หรือห้องสแตนดาร์ด เรามี 9 ห้อง พักได้ 2 ตัว ราคาคืนละ 350 บาท จะเข้าเวลาไหนก็ได้ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์และของประดับลงมือลงแรงเลือกเองทุกชิ้น และจะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในทุกๆ วัน เพื่อป้องกันการสกปรกและเชื้อโรค

            ที่นี่เราจะเน้นคอนเซ็ปต์เรื่องการให้บริการเป็นสำคัญที่สุด ด้วยความที่เป็นเจ้าของแมวเหมือนกัน เลยเข้าใจดีว่า เวลาเราจะทิ้งแมวไปไหนไกลๆ เราจะไม่ค่อยไว้ใจใคร เป็นห่วงเพราะเรารักเหมือนลูก ลูกค้าคนอื่นๆ ก็คิดเหมือนเราเช่นกัน ซึ่งทุกครั้งจะต้องคุยกับลูกค้าเพื่อให้เขามั่นใจ ไม่ว่าแมวสายพันธุ์ไหนก็ดูแลได้หมด ไม่รังเกียจ ที่สำคัญมีการวางเงื่อนไขหลายๆ อย่างให้มั่นใจว่า ที่นี่จะปลอดภัยสำหรับแมวของทุกคนที่มาฝากเอาไว้

            อีกอย่างก็จะเน้นเรื่องของการระบายอากาศ การฟอกอากาศด้วย เพราะเชื้อโรคมักจะชอบอยู่ตามบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท อย่างทุกเดือนเลยจะต้องมีการบิ๊กคลีนนิ่งด้วยเครื่องทำโอโซน มันก็จะทำลายพวกเชื้อโรค แบคทีเรียออกไป เพราะเราต้องทำให้สะอาดมากที่สุด

            ในด้านของการบริการระหว่างฝากเลี้ยงก็ใส่ใจไม่แพ้รายละเอียดในส่วนอื่น โดยทุกวันจะมีคุณแม่ นางศุกร์ศิริ แดงประเสริญ ประจำการคอยดูแลที่ร้าน ส่วนตัวเองเมื่อว่างเว้นจากงานที่ทำอยู่ก็จะแวะเวียนเข้ามาดูแล ทักทาย และเล่นกับเจ้าเหมียวอยู่บ่อยๆ

            หลายคนยังไม่ทราบว่า “แมว” เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างกังวลและมีความเครียดเร็วกว่าสุนัข เมื่อต้องเจอหน้าหรือได้กลิ่นของแมวตัวอื่น เวลาต้องไปสถานที่ใหม่ๆ มันจะแสดงอาการเดินหนี หรือหงุดหงิดขึ้นมาทันที ดังนั้นเรื่องความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่เราเน้นมากที่สุด แถมทุกวันจะต้องมีการเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้พวกมันรู้สึกผ่อนคลาย

            ทุกครั้งเมื่อเจ้าของแมวเดินทางมารับและเช็กเอาท์กลับบ้านไปแล้ว จะต้องมีการถามไถ่ไปยังเจ้าของ “น้องเหมียว” ทั้งหลาย สอบถามถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น อย่างแมวเป็นหวัดมั้ย เกิดเชื้อราบ้างหรือไม่ เป็นต้น เท่าที่ติดตามมาร้อยละ 98 ไม่มีตัวไหนเป็นอะไร ส่วนอีก 2 เปอร์เซ็นต์พบเป็นหวัดเล็กน้อย ซึ่งทางเจ้าของบอกเองว่า แมวของเขาเป็นหวัดบ่อยตั้งแต่เล็กๆ

            “มีการติดตามลูกค้า เพราะอยากทราบความสะอาดของสถานที่ สิ่งของ และสภาพแวดล้อมต่างๆ พอมั้ย และต้องปรับอะไรบ้าง เพราะเร็วๆ นี้จะเปิดเพิ่มอีก 1 คูหา ซึ่งจากการประเมินเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ค่อนข้างพอใจ เลยคิดว่ามาถูกทางแล้ว”  ทราย เผยให้รับทราบ

            เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนลงทุน ดวงกมล เผยว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องสำรวจตลาดก่อน มีคนทำกันเยอะมั้ย แต่สิ่งสำคัญกว่าการดูว่า คู่แข่งมีมากแค่ไหน คือต้องทำสิ่งที่ชอบ เพราะเชื่อว่าถ้าใครทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบ ต่อให้รู้กลยุทธ์ทุกอย่าง คงทำได้ไม่ดี เพราะไม่ได้มาจากความรัก ความสนุก หรืออยากหาความรู้เพิ่ม

            ทำโรงแรมแมว ไม่ยาก มีทุน รู้หลักการเลี้ยงแมว ทำได้แล้ว แต่ยิ่งกว่านั้นต้องรักงานบริการ และความจริงใจกับลูกค้าสำคัญมาก ถ้าแมวเป็นอะไรระหว่างพักอยู่กับเรา ต้องบอกเจ้าของให้หมด ไม่ใช่ปิดบังแล้วให้เจ้าของไปเห็นเอง

            ส่วนแมวพันธุ์ฮิตสุดที่เคยมาใช้บริการมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ พันธุ์สกอตติชโฟลด์ ที่มีลักษณะเด่นตรงหูพับ นอกนั้นมีหลากหลาย แมวบ้านพันทางทั่วไปมีมาใช้บริการเหมือนกัน

            “ไม่เลือกว่าเป็นแมวพันธุ์มีราคาถึงพักได้ แต่ขอให้เป็นไปตามเงื่อนไข เพื่อความปลอดภัยของแมวเอง ที่ผ่านมา มีลูกค้าหลายรายอยากมาใช้บริการ แต่ไม่เข้าเงื่อนไขของเราจนต้องปฏิเสธไป แม้จะเหมาทั้งเดือนก็ไม่รับ เพราะได้ไม่คุ้มเสีย” ทราย บอกอย่างจริงจัง

            เมื่อถามถึงผลตอบแทน ได้คำตอบ อยู่ในขั้นที่ดี ต้นทุนไม่สูงอะไร แต่กรณีที่ต้องเสียค่าเช่าตึกด้วยอาจต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้น ขอทราบถึงอุปสรรคในการทำธุรกิจนี้ เธอบอกว่า เรื่องดูแลลูกค้านับเป็นงานละเอียดอ่อน การจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจตรงกันต้องใช้ประสบการณ์ในการเลี้ยงแมวบวกกับข้อมูลวิชาการต่างๆ มาช่วยอย่างมาก คนเป็นเจ้าของจึงจะหยุดนิ่งไม่ได้ นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องความเครียดของน้องแมวเอง ที่มักทำให้หนักใจ และต้องคอยหาวิธีการช่วยผ่อนคลายให้พวกเขา

            อย่างไรก็ตามแม้ว่า จะเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน หลายคนสนใจอยากขอเทคนิคเคล็ดลับหวังนำไปทำแบบเดียวกันบ้าง เรื่องนี้ ดวงกมล เผยให้ฟังว่า หากดูแล้วใครสนใจและ “รักแมว” จริงจัง เธอจะถ่ายทอดข้อมูลให้แบบหมดเปลือก เพราะเชื่อว่า ถ้าธุรกิจได้เจ้าของแบบนี้ ผลดีย่อมตกอยู่กับทุกฝ่าย แต่ถ้าคนไหนคิดทำเพราะหวังรวยเป็นหลักใหญ่ ตัวเองไม่สนับสนุน เพราะอยากให้พวกเขากลับไปดูแลแมวตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยเสนอตัวมาดูแลแมวของคนอื่น!!

            นี่คือ อีกหนึ่งธุรกิจที่ทำด้วยความรักจากใจของคนรักสัตว์ อย่างเช่น “ทราย” ดวงกมล แดงประเสริฐ กำลังประสบความสำเร็จในเวลานี้!!